Group Blog
 
All blogs
 
ความสบายใจ







อันนี้สืบเนื่องมาจากคำถามซึ่งคุณหมีเท็ดดี้มาถามไว้ ในคอมเมนท์ของบล็อคที่แล้วครับ
ใครสนใจลองแวะย้อนไปหาอ่านก่อนได้

เราคุยกันเรื่อง "ความสบายใจ"

ถึงผมจะชอบบอกใครๆว่า ผมเป็นคนเรื่องมากเรื่องเลือกแฟน
ที่จริงมาตรฐานผมมีอยู่ข้อเดียว คืออยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ

ไม่ใช่เขาสบายใจ หรือผมสบายใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว
แต่เป็นความสบายใจร่วมกันของคนสองคน

เพราะขึ้นชื่อว่า "ชีวิตคู่" มันบอกอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องของ "คู่"

ถามว่าแล้วจะเอาอะไรมาวัด ว่าสบายใจแค่ไหนจะมากพอ

เรื่องความรัก มันไม่เคยมีสูตรตายตัวหรอกครับ
ผมก็เคยนึกว่า ถ้าจะมีแฟนอีกที คนแบบนั้นผมไม่เอา คนแบบนี้ผมไม่เอา

แต่พอถึงเวลาจริงๆ ถ้ามันรักไปแล้ว อะไรมันก็มองข้ามได้
แหม.. เราก็ไม่ใช่เคน ธีระเดช หรือนาร์ซีซัสนี่นา

ตราบใดที่ข้อเสียของคนนั้น มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
หรือเป็นเรื่องต้องผิดศีล ผิดธรรม ประเภทเขามีสามีอยู่แล้ว อะไรอย่างนั้น

หรือไม่ใช่เรื่องที่เห็นว่า ถ้ายังเป็นอยู่ในระยะยาว มันจะทำให้ชีวิตเรามีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งแน่นอน

แต่ถามว่า เป็นเรื่องไหนบ้าง อันนี้ตอบลำบากครับ เพราะมันแล้วแต่รายละเอียดของแต่ละคน แต่ละคู่

อย่างที่บอกนะ.. ความรัก มันไม่มีสูตรสำเร็จหรอก
คำว่า "อยู่ด้วยแล้วสบายใจ" มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวครับ

แต่ที่แน่ๆ ผมว่า ..คนเราไม่ต้องคิดเหมือนกันทุกเรื่องก็ได้
ผมเคยสังเกตเห็นว่า คนที่รักกันมากๆ และอยู่กันยืด
ไม่ใช่เพราะเขาคิดเหมือนกันหรอก

แต่เพราะวิธีที่เขายอมรับกันและกันได้ ในความต่างนั่นแหละ
และบางทีอาจมีความสุข ที่ได้ยอมรับความแตกต่างนั้นด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะ การศึกษา หน้าตา การงาน ความคิดอ่าน ภูมิหลัง

ผมเคยเขียนไว้ครั้งนึงว่า.. เหตุผลที่คนรักกัน ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายสมบูรณ์แบบหรอก
แต่เพราะต่างฝ่ายต่างยอมรับ และรักในความไม่สมบูรณ์ของอีกฝ่ายนึงมากกว่า

อาจจะเพราะอีกฝ่ายมาทำให้เรารู้สึกว่า เราสมบูรณ์ขึ้น ทั้งที่เขาก็ไม่ได้สมบูรณ์อะไรนั่นแหละ

บางคนที่เคยถามว่าเพราะอะไร ทำไมเราถึงไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักทุกคน ที่เป็นคนดี เพอร์เฟกต์
อาจจะเพราะเราไม่ได้มองหาความสมบูรณ์แบบอยู่กระมังครับ

เพราะถ้าเขาสมบูรณ์แบบมากๆ เขาก็คงไม่เหมาะกับคนที่ไม่สมบูรณ์อย่างคนทั่วไป
แต่เรากลับต้องการคนที่ ไม่ต้องสมบูรณ์มากก็ได้

ขอให้มีในสิ่งที่เราขาด และขาด ในสิ่งที่เรามี

เป็นคนไม่สมบูรณ์สองคน ที่เติมเต็มกัน
ดีกว่าเป็นคนสมบูรณ์สองคน ที่ไม่มีที่ว่างให้อีกฝ่ายมาเติมเต็มนะ

เหมือนท้องฟ้าไม่มีเมฆเลย ผมว่ามันโล้นๆ ไปหน่อย
แต่ถ้ามีเมฆเต็มไปหมด ไม่เห็นท้องฟ้า ก็มืดทึมเกินไป อึดอัด

ว่ามั้ย?

วันนี้เขียนจากที่ทำงาน หลังเลิกงาน ยังไม่ทันนึกว่าจะใส่เพลงอะไร
เดี๋ยวกลับบ้านไปค่อยว่ากันเนาะ


Create Date : 17 มกราคม 2551
Last Update : 26 มกราคม 2551 12:30:59 น. 35 comments
Counter : 1828 Pageviews.

 
หากเจอคนที่ " อยู่ด้วยแล้วสบายใจ "

คนแบบนี้มีแค่คนเดียวก็ดีใจจะแย่แล้วล่ะค่ะ



โดย: สุ่ม-4 ^^ (random-4 ) วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:19:36:06 น.  

 
...เห็นด้วยทุกประการเลยเทียว...

อ่านแล้วนึกถึงที่คาริล ยิบราน กล่าวไว้ทำนองว่า......เสาของวิหารมิอาจอยู่ลำพัง
...แต่ก็ต้องเว้นระยะห่างระหว่างกัน เพื่อช่วยค้ำจุนกันและกัน นั่นเอง

ว่าแล้วก็ไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจดีกว่า แวบๆๆ ^^


โดย: หมูอวบ วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:19:43:04 น.  

 

เห็นด้วยค่ะ ว่าเป็นความสบายใจของคนสองคน

แค่เข้าใจและยอมรับได้ในสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็น


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:19:46:18 น.  

 
อยากมีช่วงชีวิตที่มีความสุขนานๆๆ

ยินดีรู้จักจ้า


โดย: - (ONce mOre.. ) วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:20:13:27 น.  

 
สวัสดีครับ เพิ่งเข้ามาตอบครั้งแรกแต่ก็อ่านมาหลายครั้งแล้ว สบายใจดีที่ได้อ่านบล็อคพี่ครับ จริงครับ เรื่องของความรัก ไม่เข้าใครออกใครหรอก บางครั้งเฝ้าทั้งชีวิตก็ยังไม่เจอ แต่พอดันนน อยากอยู่คนเฉยๆๆก็มีเข้ามาซะงั้น บางครั้งความสบายใจ หรืออบอุ่นก็ไม่จำเป็นต้องเกิดกับแค่คนรักอย่างเดียว(ไม่รู้จะจริงรึปล่าวนะ) แค่รู้สึกได้ก็เพียงพอแล้ว แต่ในโลกปัจจุบัน มันมีอะไรๆที่ทำให้เราสับสนหรือไขว้เขวเอาได้ง่ายๆๆเลยละครับ สงสัยใช้ชีวิตแบบ fast food มากไปมั้ง บางครั้งทำให้คนที่รักเราตีออกห่าง ไปเรื่อยๆๆก็มี ผมชอบคำพูดของท่านติช นัท ฮันท์ (เอาพอคร่าวๆๆนะ จำทั้งหมดไม่ได้ แต่เนื้อความอย่างนี้แหละ)ที่ว่า "โลกอยู่ได้อย่างมีความสุข เมื่อเราไม่รักใครมาก และไม่ทำให้ใครรักเรามาก"
ปล.ตั้งแต่ the radio ไม่อยู่นี้ ผมหง่อยไปเลย ไม่รู้ว่าข่าวคราวของดีเจทุกคนเป็นไงบ้าง คิดถึงทุกคนทุกช่วงเวลาครับ นี้ล่ะมั้งความรู้สึกที่อยู่ๆๆ มันก็ว่างเฉยๆโล่งๆซะงั้น


โดย: red dust IP: 125.24.72.105 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:20:20:35 น.  

 
ท้องฟ้าไม่มีเมฆ ฟ้าใสดี
ท้องฟ้ามีเมฆ ฟ้าสวยดี
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:23:58:44 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ที่คุณแอสตันอุตส่าห์ขึ้นเป็นบล็อคใหม่เลย
เราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าคือปัจจุบันรู้สึกสบายใจที่ได้คบกัน
แต่คนเราก็ต้องมองที่อนาคตด้วย
พอคุยเรื่องอนาคต
มันก็ดูไปคนละทิศละทางกันค่ะ
แหง๋ม ๆ บ่นล่ะกันค่ะ
แต่ตอนนี้คิดว่าจะอยู่เฉยๆ ให้เวลาเป็นตัวให้คำตอบล่ะกัน
ถ้ามันจะจบแบบมีน้ำตาก็ต้องรับน่ะค่ะ
ปล. จะติดตามคุณแอสตันทุกบล็อคนะคะ ว่าแต่หนังสือจะออกเมื่อไรคะ จะไปเหมาซื้อแจกเพื่อนๆค่ะ


โดย: หมีเท็ดดี้ IP: 203.157.72.199 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:10:16:08 น.  

 
นานแล้วเหมือนกันค่ะคุณเอ็ดที่พี่...

ไม่ได้มองฟ้ามองแดดเล๊ย

รีบล่กๆออกจากบ้าน

ดึกๆจึ่งถึงบ้าน

ความสบายใจ...ยังเป็นเพื่อนตัวเองตลอดเวลา

ไอ้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

มันหายไปไหนหว่า

ไปสวนจตุจักรกี่รอบแล้วค๊ะ


โดย: พี่แหม๋ว IP: 58.10.65.161 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:12:53:47 น.  

 
คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ..
เราสบายใจ..แต่คนรอบข้างเรา
ไม่สบายใจ..เราจะทำไงดี..คะ


โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:17:35:54 น.  

 

สงสัยว่าคนเขียนยังไม่กลับบ้านนะเนี่ย
ยังไม่เห็นมีเพลงเลยอ่ะค่ะ...


โดย: Arin IP: 124.120.200.75 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:18:05:30 น.  

 
มีความคิดในเรื่องนี้เหมือนพี่เอ๊ดทุกประการค่ะ.. อีกหน่อยอาจต้องมาเป็นศิษย์พี่เอ๊ดซะละมัง.. ไม่มี the radio หงอยด้วยอีกคนค่ะ..


โดย: จิ๊บ IP: 58.147.49.49 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:20:23:26 น.  

 
โดยส่วนตัว..ชอบท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆเลยอ่ะค่ะ
ด้วยเหตุนี้มั๊ง ถึงสบายใจที่จะอยู่กับตัวเอง


โดย: sunny IP: 58.8.36.13 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:23:12:24 น.  

 
ZZZZ zzzzz อืออออ.. บัดดี้มัวแต่หลับอยู่ คงไม่สายที่จะมาแสดงความยินดีกับผลโหวตนะคร๊าบ



โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:1:27:28 น.  

 
แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่าส่วนเติมเต็มของกันและกัน


โดย: Tony Koon (tk_station ) วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:10:19:26 น.  

 
จริงด้วยเนอะ


โดย: u'r TM IP: 61.231.150.41 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:16:43:04 น.  

 
blog นี้ใส่เพลง silent song หรือป่าวคะพี่เอ๊ดemo

ฤาเป็นความสบายใจในความเงียบ...

emoemoemo


โดย: ต้นอ้อล้อลม IP: 202.91.19.204 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:21:33:22 น.  

 
ยังไม่กลับจากที่ทำงานหรือครับพี่เอ๊ด
เพลงเลยไม่ขึ้นซะที จ๊าก แซวเล่นครับผม

คนที่อยู่ด้วยกันต้องมี"ความสบายใจ"ให้กันจริงๆแหละครับ
ไม่งั้นยิ่งอยู่นาน ยิ่งกระอักกระอ่วนมากเลยอ่าครับ


โดย: getterTu วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:10:30:03 น.  

 
ผ่านเข้ามาทีไร ออกไปยิ้มทุกทีค่ะ
เป็นแฟนประจำ ที่ห่างหายไปบ้าง(ใช้ชื่ออื่นค่ะ)
ปกติก็เข้ามาอ่านเป็นประจำนะคะ
แต่ช่วงที่เรามีความสุข เรามัวแต่ไปอิ่มสุขกับอย่างอื่น พอทุกข์ทีก็วิ่งเข้ามาหาธรรมะ สวดมนตร์ อย่างวันนี้กำลังหาคำตอบให้กับปัญหาของตัวเองค่ะ แต่สงสัยชะตาเราจะต้องกันนะคะ ยังไม่ได้ยิงคำถามให้คุณแอสตันเลย ก็มีคำตอบคอยอยู่แล้ว
ขอให้มีความสุขกับวันจันทร์ วันเริ่มต้นของสัปดาห์ทำงานนะคะ


โดย: Lunar IP: 117.47.67.100 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:11:13:07 น.  

 
อยากมีกะเค้ามั่งจังนิอยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ที่ผ่านมาเจอแต่ อยู่ด้วยแล้ว converse ทู๊กที ^^"


โดย: NNN IP: 74.72.219.25 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:8:12:22 น.  

 
ได้รับเมลจากพี่หมึกเมื่อวานค่ะ...



สบายใจ


โดย: พี่แหม๋ว IP: 58.10.65.210 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:10:16:31 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วดีจังค่ะ น่าจะเอามารวมเล่มด้วยนะคะ หวังว่ายังคงทันเนอะ emo

สวัสดีปีใหม่นะคะ พี่เอ๊ด emo


โดย: Melody of U ^^ IP: 61.47.63.242 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:14:38:00 น.  

 
มีแต่คนแซวว่ายังไม่กลับบ้าน

มันยุ่งอ่า...



วันนี้ ใส่ให้แล้วครับ


โดย: aston27 วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:21:34:22 น.  

 
emo กลับมาบ้านแล้วพร้อมกับ...Your Song...
เพลงเพราะค่ะ :)

ขอถามนะคะ
The Rewinder ออกอากาศเวลา 11:00 น. เป็นวันแรกเมื่อไหร่คะ
ออกอากาศทั้งหมด 115 ครั้ง ใช่ไหมคะ จำไม่ได้ emo
ขอบคุณค่ะ :)


โดย: Lin IP: 58.8.172.28 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:14:04:57 น.  

 
Your Song

Such a very good choice

กลับบ้านบ่อยๆ หน่อยนะคะ จะได้มีเวลามาพบปะกับแฟนๆ บ้าง

พี่เอ๊ดเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธได้์ดี๊ดีค่ะ
ชอบ ชอบ

อ้อ...ลืม
ขอบพระคุณสำหรับเรื่อง request นะคะ
Million of Thanks ครับผม


โดย: WaA~ IP: 203.101.156.148 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:17:09:44 น.  

 
ชอบงานเขียนคุณมาก
ชอบภาษาที่ใช้แบบง่ายๆ
แล้วก็ทำให้คนอ่าน "สบายใจ"


( ค่อยๆ ย่องออกจากบล๊อก แบบ สบายใจ )



โดย: vodca วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:0:27:56 น.  

 
จริงอย่างยิ่งยวด

แค่ความสบายใจ

สบายดีป่าวฮับ



โดย: ใครกัน..นั่งอยู่ตรงนี้ IP: 125.26.122.222 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:11:38:04 น.  

 
..
อ่านข้อความข้างบนจบ
พบว่าแท้จริงแล้ว
..
การจะรักใครสักคนอาจไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
แต่คงจะมีเหตุผลที่ทำให้คนสองคนได้รักกัน
..
..
นะคะ


โดย: azamiya วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:19:53:00 น.  

 
เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป
แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกราญไปฉะนั้น

เพราะแม้ขณะที่ความรักสวมมงกุฎให้เธอ
มันก็จะตรึงกางเขนเธอ
และขณะที่มันให้ความเติบโตแก่เธอนั้น
มันก็จะตัดรอนเธอด้วย
แม้ขณะเมื่อมันไต่ขึ้นไปสู่ยอดสูง
และลูบไล้กิ่งก้านอันแกว่งไกวในแสงอรุณ
แต่มันก็จะหยั่งลงสู่รากลึก
และเขย่าถอนตรงที่ยึดมั่นอยู่กับดินด้วย

ความรักจะรวบรวมเธอเข้าดังฝักข้าวโพด
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
แล้วมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอจนเป็นผงขาวแล้วก็จะขยำจนเธออ่อนเปียก
แล้วมันก็จะนำเธอเข้าสู่ไฟอันศักดิ์สิทธิ์ของมัน
เพื่อว่าเธอจะได้กลายเป็นอาหารทิพย์ของพระเป็นเจ้า
ความรักจะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ
เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับของดวงใจเธอเอง
และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ
แต่ถ้าหากด้วยความกลัว
เธอมุ่งแต่แสวงหาความสงบสุขและความสำราญจากความรัก
ก็จะเป็นการดีกว่าที่เธอควรจะปกคลุมความเปลือยเปล่าของตน
และหลีกหนีออกไปเสียจากลานบด ไปสู่โลกอันไร้ฤดูกาล
ที่ซึ่งเธอจะหัวเราะก็ไม่เต็มที่และจะร้องไห้ก็ไม่เต็มที่
ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นเพียงพอแล้วสำหรับตอบความรัก

เมื่อเธอรัก อย่าได้พูดว่า
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในดวงใจเรา
แต่ควรพูดว่าเราอยู่ในดวงใจพระผู้เป็นเจ้า
และอย่าได้คิดว่า
เธอสามารถนำแนวทางของความรักได้
เพราะถ้าความรักพบว่าเธอมีคุณค่าพอแล้ว
ก็จะเป็นผู้นำแนวทางของเธอเอง
ความรักไม่มีปรารถนาสิ่งอื่นใด
นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา
ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้

เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ
ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว อันเกิดแต่ความอ่อนโยนละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บด้วยความเข้าใจในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหล
ด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้น ณ รุ่งอรุณด้วยดวงใจอันปิติ
และขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง และเพ่งพินิจความสุขซาบซึ้งของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ
และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนา
สำหรับคนรักในดวงใจ
และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากของเธอ
________________________________________อีกมุมของความรักครับ


โดย: หิ้ม ผู้มีทรัพย์ IP: 195.229.236.247 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:17:57 น.  

 
อ่านแล้วสบายใจดีค่ะ ขออนุญาตนำไปให้เพื่อนๆ อ่านนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ เช่นนี้


โดย: anyada IP: 58.10.149.248 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:15:59:55 น.  

 
ขอบคุณ และขอบคุณ
ได้มาอ่าน ได้รอยยิ้ม อิ่มสุขกลับไปทุ๊กทีเลย


โดย: ความหวัง IP: 117.47.174.142 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:16:25 น.  

 
อ่านแล้วทำให้รู้สึกอยากรักกับคนที่เรารู้สึกดีต่อไป เพราะเจอคนที่เราต้องการแล้ว เราเคยรักกัน แต่ตอนนี้เขาขอห่าง แล้วยังงัยล่ะ ก็เรายังไม่อยากจะเจอใคร แล้วก็ยังไม่เจอ ในเมื่อท้องฟ้าของวันนี้ยังไม่สวยงามเพื่อเรา


โดย: chakriya IP: 203.81.45.230 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:18:05:48 น.  

 
ขอแอดบล็อคพี่แอสตั้น27 ไว้นะคะ

ไปทางไหนก็เจอ ชักหลงรักตัวหนังสือของพี่เสียแล้ว





โดย: niezzz IP: 192.168.0.154, 192.168.0.154, 127.0.0.1, 58.8.185.9 วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:36:37 น.  

 
Nice forum ka, good to read it :)


โดย: Kai IP: 128.210.44.77 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:0:09:21 น.  

 
Thank you krub :)


โดย: aston27 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:19:32:10 น.  

 
เขาเลือกคนที่เขาบอกว่าอยู่ด้วยแล้วร้อน และทุกข์อะ ส่วนคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจกลับกลายเป็นเพียงเพื่อนสนิทของเขา


โดย: Idda IP: 203.149.28.114 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:20:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.