นายอมรชัย นาคศุภมิตร นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธุรกิจของเล่นส่งออกช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายที่ตรงกับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ คาดว่าจะกระตุ้นให้ตัวเลขส่งออกฟิ้นตัวขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าทยอยเข้ามาบ้างแล้ว หลังจากการส่งออกของเล่นช่วง 6 เดือนแรกมีตัวเลขติดลบอยู่ 8-9% โดยไตรมาสแรกติดลบมากกว่า 10% ถือเป็นตัวเลขลดลงอย่างมากในรอบ 10 ปี

ตัวเลขส่งออกของเล่น 3 ปีที่ผ่านมาชะลอตัวติดต่อกัน เป็นผลมาจากตลาดหลัก ประกอบด้วย สหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ อาทิ วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐ, สึนามิในญี่ปุ่น และวิกฤตยูโรโซน ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยในประเทศ อาทิ การเมือง และน้ำท่วมในปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าจนถึงขณะนี้โรงงานของเล่นบางส่วนยังไม่สามารถผลิตได้ตามปกติ

"ตอนนี้ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ช่วยให้ปีนี้ทั้งปีอาจจะติดลบน้อยลง เพราะปีนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรงมาจากโรงงานของผู้ประกอบการรายใหญ่โดนน้ำท่วม ทำให้การผลิตไม่เต็มที่ อีกส่วนหนึ่งก็คือวิกฤตยูโรโซน พบว่าผู้ค้าไม่กล้าสั่งซื้อเป็นลอตใหญ่ และหันมาซื้อออร์เดอร์เล็ก เพื่อรอดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตัวเลขจึงค่อนข้างชะลอตัว ตลาดค่อนข้างเงียบ"

เพื่อกระจายความเสี่ยงและทดแทนตลาดหลักที่ชะลอตัว นายกสมาคมกล่าวว่า ผู้ประกอบการตื่นตัวที่จะขยายตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างจริงจัง เพราะมองเห็นศักยภาพหลังเปิดเออีซีปี 2558 ซึ่งจะร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกออกไปทำกิจกรรมโรดโชว์อย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก ส่วนอาเซียนในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ก็จะนำสมาชิกผู้ประกอบการเข้าไปศึกษาตลาด และจับคู่ธุรกิจในอินโดนีเซียและพม่าในไตรมาส 4

นอกจากนี้สมาคมส่งเสริมสมาชิกให้หันมาขยายตลาดในประเทศมากขึ้น อาทิ เพิ่มจำนวนอีเวนต์ใหม่ ๆ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ก็ได้นำสมาชิก 20 กว่าบริษัทเข้าร่วมออกบูทในงานไทยแลนด์ เบสท์ ช็อปปิ้ง เป็นครั้งแรก และปลายปีนี้ก็กำลังวางแผนจะจัดอีเวนต์ คาดว่าสิ้นปีนี้ตลาดของเล่นในประเทศจะโตขึ้น ส่วนตลาดส่งออกคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปีที่แล้ว

"ตลาดหลักยังเป็นสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น แต่ว่าไม่โตขึ้น ตอนนี้ตลาดรองลงมาอย่างอาเซียนเติบโตทุกปี ผู้ประกอบการตื่นตัว ทำให้ยอดส่งออกโตขึ้น โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่มีราคาระดับกลาง ๆ จะขยายเข้าไปได้เร็ว เพราะว่าสอดคล้องกับตลาด สินค้าไฮเอนด์ต้องใช้เวลา แต่ก็มีโอกาส เพราะเศรษฐกิจ กำลังซื้อก็สูงขึ้น คนมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกของเล่น และต้องการสินค้ามีคุณภาพ ปลอดภัยมากขึ้น"

นายสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชิเวิร์ล จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกของเล่นไม้ กล่าวว่า ตลาดส่งออกหลัก ๆ ของกลุ่มของเล่นไม้อยู่ที่ยุโรป จึงได้รับผลกระทบจากวิกฤตยูโรโซน

แต่กระทบเล็กน้อย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่แพง และผู้ปกครองยังให้ความสำคัญกับของเล่นเพื่อการศึกษา

ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการสั่งซื้อช่วงคริสต์มาส ซึ่งจะเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดส่งออกปี 2556

สำหรับบริษัทได้มีการปรับตัว ด้วยการขยายตลาดอื่น ๆ มาทดแทน อาทิ สหรัฐ รวมทั้งตลาดเอเชีย ซึ่งการเปิดตลาดเออีซี บริษัทมองว่าจะมีผลดีในแง่ของการใช้เป็นฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน จากเดิมที่มีการจ้างผลิตในจีน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มน้ำหนักขึ้นมาเป็น 20% จากเดิมจ้างผลิตมีสัดส่วน 15%

*ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  *

Create Date : 27 กรกฎาคม 2555
Last Update : 27 กรกฎาคม 2555 15:55:40 น.		0 comments
Counter : 1857 Pageviews.
Share Tweet