...Chansuwan Villa... ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านจันทรสุวรรณวิลล่า บ้านกลางสวนมะพร้าว หาดขาวทะเลเขียว ฟ้าสีครามเมฆปุยขาว
Group Blog
 
All blogs
 
ขอรีวิวผลงานสี่เล่มล่าสุดของ จามรี พรรณชมพู ด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง

นิยายของจามรี พรรณชมพูเนี่ย อ่านมาได้สักพักแล้วราวๆ 20 ปี ตั้งแต่แรกรุ่นอายุ 15 จนมาสามสิบกว่า ถึงตอนนี้มีเวลาจากงานประจำเหลือเฟือ จึงเริ่มเก็บผลงานทั้งเก่าและใหม่ของสี่นามปากกาของคุณป้าศรีเฉลิม สุขประยูร อันได้แก่ จามรี พรรณชมพู , วลัย นวาระ , นลิน บุศกร , และชมนาด ชวัลนุช ส่วนตัวแล้วชอบ จามรี มากที่สุด หวือหวาแต่ละเมียดละไมดีเหลือเกิน ส่วนชมนาดไม่ค่อยชอบนัก ยิ่งเรื่องที่ตัวเอกนางเอกแทบไม่ใช่คนไทย มันออกจะเหมือนหนังสือแปลเกินไป
เอาหล่ะ เข้าสู่เนื้อหาสี่เล่มล่าของ จามรี ดีกว่า เราแอบเรียกว่า "สี่หัวใจแห่งท่าเรือและโรงเลื่อย" ฮิๆเพราะทั้งหมดสี่เล่มนั้นมีท่าเรือมาเกี่ยวพันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เว้นที่เล่มสุดท้ายความโรแมนติกนั้นเกิดในโบกี้รถไฟ

หมอปิ่นดาว-พราวแสงพลอย-สร้อยสุมาลี-วจีรจนา

หมอปิ่นดาว สะใภ้ใหญ่ของตระกูล วาริธร เนื้อเรื่องนั้ ตอนแรกที่จะอ่านก็คิดว่าคงเป็นเรื่องสนุกๆในโรงพยาบาล แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวความรักของคุณหมอพระเอกนางเอกที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเล็กๆของพระเอกซะงั้น เล่มแรกนางเอกเป็นคนหน้าใหม่ หนีสามีเก่ามาหลบภัยและสร้างชีวิตใหม่ที่ พญาขามป้อม เจอหน้าพระเอกไม่ทันไร ก็ถูกจู่โจมด้วยการงับปากและจุมพิตอย่างดุเดือดซะแล้ว จามรีเขียนพรรณนาความงามของนางเอกน้อยลงในนิยายเล่มแรกนี้ แต่มากล่าวอ้างถึงความงามหนึ่งไม่มีสอง ของคุณหมอปิ่นในเล่มสองสามสี่ตลอดเลย โดยทั่วไปเนื้อหาความสัมพันธ์ระหว่างหมอเวธัสและปิ่นดาว ดูจะกระโจนมารักกันฉับพลันไปนิด แต่สำบัดสำนวนที่ตลกร้ายและเป็นตลกสถานการณ์ซะเยอะ ในเหุการณ์แปลกๆที่หมอปิ่นต้องไปพบเจอระหว่างออกตรวจคนไข้กับหมอเวธัส ทำให้ดูว่า จามรี คงอยากลดความหม่นขึ้งโกรธในความสัมพันธ์ระหว่างคู่ตัวเอกแบบเดิมๆลงไป ผลที่ได้ สำหรับเราแล้ว เราชอบบรรยากาศนิยายแบบที่จามรี สร้างสรรค์นี้อย่างที่สุด อ่านแล้วอารมณ์ดี แต่ก็ยังหวือหวาเร่าร้อนตามสไตล์ เพียงแต่ว่า พอลดเหตุความแค้นในระหว่างกันแบบเก่าๆลง พระเอกนางเอกของเรื่อง ก็ดูจะกระโจนใส่กันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยซะงั้น ยิ่งมาบรรยายว่า ตระกูล วาริธร มีหมอเวธัสเป็นพี่ชายใหญ่ เขาเป็นคนที่ออกจะโทโสร้ายและปากจัด (แต่ไหง อ่านแล้วให้รู้สึกอยากเป็น หมอปิ่นดาว ไปซะทุกที) พระเอกอะไร้!ถูกนางเอกตบหน้ากลางบันไดซ่องเพราะไปพูดอวดตัวว่า เวลาอยากได้ผู้หญิง เขาไม่เคยต้องจ่าย! แต่พ่อก็ยังเฉย เดินไปตรวจคนไข้ทั้งๆที่มีรอยมือนางเอกปื้นใหญ่บนแก้มโดยไม่บ่นสักคำ ชีวิตรักของคู่พี่ใหญ่ของตระกูลออกจะราบรื่น เน้นความเป็นครอบครัวชาวคริสต์ที่อบอุ่น ในบรรยากาศงานฉลองคริสต์มาส แต่กระนั้นก็มีเหตุการณ์ที่นำพาให้เกิดความบาดหมางใจระหว่างพี่น้องกันด้วย เรื่องราวพาดพิงถึงตัวละครรอง ไวธพ น้องชายที่หลงรักหมอปิ่นดาวอีกคน (แถมยังหล่อเถื่อนแบบโจรสลัดอย่างจอห์นนี่ เด็ปป์ซะด้วย) ทำให้ต้องหาเรื่องต่อไปมาอ่านตามเรียงอย่างเลี่ยงไม่ได้ (เป็นความทรมานอย่างมากที่ต้องรอสั่งซื้อเล่มสอง"พราวแสงพลอย" ทางไปรษณีย์ เพียงเพราะเผลอลืมซื้อยกชุดไปเล่มนึงตอนขึ้น กทม.ไปซื้อที่สนพ.หรรษา) เนื้อเรื่องก่อนจบขมวดท้ายว่า จะเกิดเรื่องร้ายๆให้ตื่นเต้น ตามไปดูเล่มต่อไปดีกว่า...

พราวแสงพลอย สะใภ้รองของ วาริธร เมียกัปตันไวธพผู้แสนจะมุทะลุดุดัน แต่หล่อเถื่อนวายร้าย เริ่มเรื่องเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด (ที่คาดการณ์ก่อนจะได้หนังสือมาว่า พระเอกต้องช้ำรักจากปิ่นดาว แล้วแค้นใจที่พี่ชายปิดบังความลับในตระกูลไว้ราว5ปี)
ไวธพ จากบ้านตามสไตล์กัปตันซึ่งต้องไปท่องทะเลนานๆ แต่กลับเจอนางเอกในสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบนเคบินเรือซะหน่อย หลังจากเหตุร้ายที่คร่าชีวิตลูกเรือมากมาย ไวธพไปหลบเลียแผลกายและใจที่บ้านสวนของน้องชาย ด้วยการเล็งการณ์ไกลของพ่อสื่อที่เป็นถึงศาสนาจารย์ ทำให้นางเอก พราว ได้มาอยู่ดูแลไวธพ ที่นี่น่ะเอง ด้วยอาชีพนักมายากลแสดงตามละครเร่ บุคลิกน้องพราวจึงดูออกก๋ากั่นและปากกล้าไม่แพ้หมอปิ่นดาว เพียงแต่ว่าปิ่นดาวออกจะเป็นผู้ใหญ่และสุขุมกว่า (แต่ก็โดนสามี คือหมอเวธัสแอบนินทากับน้องสะใภ้คนนี้ว่า เมียเขาน่ะ แทบจะพ่นไฟได้เลยหล่ะ!) พราวในตอนนี้ดูสู้ชีวิตเอามากๆ เพียงแต่จามรี ขาดการเล่าถึงชีวิตครอบครัวนางเอกไปสักนิด พื้นหลังครอบครัวนางเอกดูยากจนและหม่นเศร้า (เหมือนชีวิตของนางเอก มุก หรือ มณีสร ในเรื่องหมอเมืองเถื่อน) แต่ความสนุกอยู่ที่เจ้ากระต่ายแห้วหมูที่ทำให้ พราว เกิดเรื่องชวนขายหน้าบ่อยๆจนไวธพต้องวิ่งวุ่นมาช่วยเหลือ บทพิศวาสคู่นี้จึงดุเดือดด้วยบทสนทนาและท่าทาง เป็นครั้งแรกที่ผ่านตานิยายของจามรี ที่ให้นางเอกถีบพระเอกโครมเดียวร่วงจากเตียงเมื่อเขาเอ่ยปากฝากรัก ยังไม่พอน้องพราวยังก๋ากั่นขนาดขยำ "หลักฐาน"ประกอบซะด้วยแน่ะ....เฮ้อ!แรงส์ได้ใจ(และเซอร์ไพรส์มากๆค่ะ ป้าศรี
) เรื่องนี้เล่าเนื้อเรื่องการผจญภัยและเริ่มเอ่ยถึงปัญหาชีวิตคู่ได้อย่างน่าสนใจค่ะ เป็นเนื้อหาที่เติมให้นิยายของจามรีมีตัวตนในสังคมมากขึ้น ถ้าเรามีสามีเจ้าชู้อย่างไวธพล่ะจะทำยังไง? ยังดีที่มีครอบครัวฝ่ายชายที่น่ารักและเห็นอกเห็นใจสะใภ้ดีมาก ใครเป็นสะใภ้บ้านนี้คงมีความสุขจริงๆ จบเรื่องด้วยการเกิดเหตุร้ายแรงที่ทิ้งทวนให้ชวนสงสัยว่า ชีวิตรักของน้องชายคนเล็ก นายวิธาน ที่เป็นศาสนาจารย์ เนี่ย คงเรียบๆไม่หวือหวาเท่าไหร่? แต่กลายเป็นนิยายตอนที่สุดโรแมนติกไปแทน.....ว่าเข้านั่น

สร้อยสุมาลี ชื่อนางเอกนั้น ออกจะเรียบร้อย เริ่มเรื่องทิ้งเวลาปรับบุคลิกพระเอกจากเล่มสองไปกว่าปี มาเล่มนี้วิธาน แปลงร่างจาก ศาสนาจารย์หนุ่มอารมณ์ดี ไปเป็นพ่อค้าเร่ มาดสะดุดใจไปซะแล้ว เหตุการณ์ร้ายในท้ายเรื่องที่แล้ว ทำให้เขาออกร่อนเร่ไปด้วยรถแวน ระหว่างทางก็ทะเลาะกับพระเจ้าไปพลาง จนวันนึงในเวลาโพล้เพล้จวนฝนตก สาวน้อย สร้อยสุมาลีก็ได้มาหลบฝนอยู่สองต่อสองกับพ่อค้าเร่คนบ้า ที่บ่นบ้าอะไรก็ไม่รู้คนเดียว แถมยังกระโดดลงน้ำไปซะอีก ความที่นางเอกเรื่องนี้ออกจะแรกรุ่น เลยมีความอยากรู้อยากเห็นแบบสาวรุ่นน่ารักที่เติบโตในสังคมเล็กๆกลางขุนเขาและสายน้ำ แต่แวดล้อมไปด้วยผู้คนที่มีชีวิตรักโลดโผน ไม่ว่าจะเป็นคุณป้ายังสาวซึ่งเป็นแม่ม่ายทรงเสน่ห์ที่ชอบชวนหนุ่มๆเข้าห้อง ,แม่ที่ตอนนี้เป็นบ้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากถูกภรรยาหลวงกีดกัน ,เพื่อนสาวที่พยายามจะมีรักเสรีกับหนุ่มดาราละครเร่อย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นต้น ทำให้ วิธานหรือนายพ่อค้าเร่ เชิด วิเชียร นั้นไม่สงสัยเลยว่าทำไม แม่สาวน้อยสร้อยสุมาลีของเขาจึงน่าจะเป็น สาวรักเสรี ไปด้วยอีกคน จุดเปลี่ยนแปลงคือการแจ้งประกาศคนหายของตระกูลวาริธร ทำให้วิธานต้องหนีและหนีบ สร้อยสุมาลี มาระเหเร่ร่อนด้วยกันช่วงสั้นๆ บทพิศวาสที่เกิดขึ้นในรถแวนนี่ออกจะโรแมนติกแกมตลก เพราะแม้นางเอกจะยืนยัน(ในที่นี้คงจะ นอนยัน เสียมากกว่า) ว่าตัวเองนิยมรักเสรีฟรีเลิฟ ซะจริงๆ แต่ทำไรไม่เป็นเลยสักกะนิด พ่อพระเอกก็แสนดีเมื่อได้แล้วก็กลัวหล่อนจะไปมีรักเสรีกับใครที่ไหนต่อ เลยตามรับผิดชอบน้องสร้อยซะนี่ ฉากฮาๆก็เลยเกิดเมื่อตอนที่พระเอกรับรู้ว่านางเอกเป็นสาว'ไม่เคย' มาก่อน แต่กลับมีปฏิกิริยาชวนให้นางเอกกลุ้มใจ ทั้งสบถ ทั้งพึมพำชื่อหญิงอื่น แถมยังคว้าเสื้อมาใส่ในอาการแบบกระชากกระชั้น มองนางเอกตาขวางแล้วกระโดดลงไปโช้งเช้งขว้างจานชามขึ้นฟ้า แว่บนึง ที่สร้อยสุมาลีเห็นแหวนแต่งงานแล้วรีบถามไปว่า "มีเมียแล้วมาหลอกเค้าทำไม" วิธานกลับตอบสวนไปทันควันว่า "เมียตายแล้ว ชั้นเป็นพ่อม่าย" เป็นใครก็คงเครียดถึงกับกรี๊ดลั่นแบบสร้อยสุมาลีได้เหมือนกันนะนี่ หลังจากอลวนไปมาเพราะแม่เพื่อนซี้ของสร้อยสุมาลีทำพิษไว้ ชีวิตรักที่ระหกระเหินของคู่นี้จบลงด้วยความสุขแบบน่ารักๆ พระเอกออกจะเป็นชายในฝันแบบที่ จามรีไม่ค่อยเขียนถึงบุคลิกนี้สักเท่าไหร่ นี่ถ้าไม่มีฉากหวือหวาก็พอจะหลอกใครๆว่าเป็นนิยายของ นลิน บุศกร หรือแม้แต่ วลัย นวาระ ก็ยังได้เลย ตอนจบน่ารักมาก มีคุณป้าจอมเคร่งศาสนาแต่ชอบจับผิดมาเม้าท์พ่อศาสนาจารย์กับสะใภ้ใหม่วาริธรแบบเผาขนเป็นการทิ้งท้าย แถมจามรียังหยอดให้ติดตามชีวิตรักน้องนุชสุดท้องของตระกูลวาริธรอีกด้วย ทำให้การหยิบนิยายเล่มจบมาอ่านทันที ช่างเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย

วจีรจนา ใครนะที่ชื่อนี้? คงต้องทั้งสวยทั้งช่างเจรจาเป็นแน่แท้ ในเล่มก่อนๆ มีบทพูดถึงน้องเล็ก "วจี" ไว้ประปราย บุคลิกออกจะคุณหนูๆแต่คงไม่บอบบาง อย่าง หนูตุ๊กตา ภัทริน ใน"ตุ๊กตาเจียระนัย" หรอกนะ เปิดเรื่องมาก็หนีงานแต่งซะงั้น แถมขึ้นโบกี้รถไฟไปกับหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ จามรีบรรยายความสวยงามของสาวน้อยวจีไว้อย่างน่ารัก ที่น่าสนุกคือพื้นนิสัยช่างจินตนาการและออกจะเพ้อ(เจ้อนิดๆ)แต่แสนจะน่าเอ็นดู ชวนให้ กวิน หนุ่มนักธุรกิจผู้มีชีวิตที่ออกจะเรียบง่าย ตกหลุมพรางความเจ้าเล่ห์แก่นเซี๊ยวและเอ็นดูสาวน้อยคนนี้ได้ในเวลาเพียงวันสองวันที่อยู่ด้วยกัน ดีนะที่จามรีพอจะพรรณนาโฉมพระเอกได้น่าสนใจอยู่บ้าง หลังจากอ่านมาสามเล่ม บุคลิกห้าวเถื่อน ทั้งสูงใหญ่และมาดร้ายของสองพี่ชายคนโตและคนรอง แทบจะข่มหนุ่มๆคนอื่นไปหมด ต้องยอมรับว่า วิธาน ได้บุคลิกที่อบอุ่นและเข้าอกเข้าใจหญิงมาทดแทน ทำให้นึกรักได้ไม่ยาก แต่การเขียนถึงหนุ่มนอกตระกูลเช่น กวิน ผู้ที่เข้ามาเป็นเขยขวัญของวาริธรนั้น ออกจะยากสักหน่อยที่จะทำยังไงให้เด่นขึ้นมาได้ จามรีใช้สถานการณ์ที่พระเอกกวิน ต้องตกกระไดพลอยโจนตามนางเอกวจี และบทโต้ตอบน่ารักๆปนกวนๆของพระเอกที่โต้ตอบความแก่นเซี๊ยวของวจีได้อย่างไม่แพ้เปรียบ บทสนทนาฮาๆของเรื่องนี้มักเกิดจาก จินตนาการและการมองโลกแบบไร้เดียงสาแต่เอาแต่ใจของนางเอก ตัวอย่างเช่น เมื่อวจีสามารถตกลงใจที่จะแต่งงานกับ กวิน ระหว่างรถไฟแวะจอดตามสถานีย่อย เพื่อมีสถานะหลุดพ้นจากการดูแลของบรรดาพี่ชาย ส่วนกวินจะได้ผลประโยชน์จากหลักประกันในการเกี่ยวดองกับตระกูลวาริธร ที่มั่งคั่ง เพื่อนำพาให้การเจรจาขยายธุรกิจของเขาง่ายดายขึ้น ไม่นาน วจีถูกกวินทิ้งให้นั่งรอในโบกี้รถไฟ เมื่อเขาตระหนักได้ว่าสาวน้อยจะไม่ยอมให้เขาล่วงเกินถ้าไม่เต็มใจ มีการตกลงว่า เมื่อไหร่ที่หล่อนพร้อมจะมีลูกกับเขา วจีจะมาบอกเอง แต่เพียงไม่นานหลังจากที่ผละจากวจีมาเล่นไพ่โป๊กเกอร์ที่ตู้เสบียง หล่อนก็ดื่มเหล้าย้อมใจแล้วมาตามหาเขาพร้อมกับประกาศโพล่งกลางผู้คนว่า หล่อนพร้อมที่จะมีลูกกับเขาแล้ว กวินอับอายจนพูดไม่ถูก มิหนำซ้ำวจียังลากข้อมือเขากลับโบกี้ เมื่อไปถึง หล่อนก็กางแขนหงายหลังลงเตียงยิ้มแย้มพร้อมกับกล่าวว่า "เริ่มได้เลย" ส่วนกวินหลังจากพูดไม่ออกไปสักพัก เขาก็เริ่มต้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
วิธีการที่นางเอก วจีรจนา แย่งแฟน เขามาแบบก็แปลกแล้ว พระเอกกลับเออออตกลงง่ายๆซะงั้น การณ์กลับกลายเป็นว่า ชีวิตรักเก่าเดิมของ กวิน ช่างเป็นเรื่องจำยอมและหดหู่ซะเหลือเกิน! การได้มารักกับวจีรจนา เลยกลายเป็นแสงสว่างที่ฉายโชนให้ชีวิตเขาโรจน์เรืองขึ้นมา ทำให้ กวิน ตัดสินใจเสี่ยงก้าวออกมาจากแผนชีวิตที่ปลอดภัยของตัวเอง มาร่วมชีวิตกับสาวน้อยแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันได้ไม่นานนี้จนได้ ขอติงว่า เนื้อเรื่องตอนท้ายเกี่ยวกับความวุ่นวายเกี่ยวกับพ่อขี้เมาของพระเอกกับความสัมพันธ์กับแฟนเก่าของ กวินนั้น ช่างยุ่งเหยิงสับสน! จามรีผลักให้นางเอกวจี ปรับบุคลิกปุบปับรองรับอารมณ์ผกผันของพระเอกในช่วงท้ายแบบหน้ามือเป็นหลังมือ การเขียนถึงปัญหาชีวิตคู่ของพี่ไวธพและพี่สะใภ้พราว ทำให้นิยายเล่มท้ายนี้ดูมีความจริงจังเข้ากับสังคมจริงมากขึ้น (แม้ว่าเรื่องราว น่าจะไม่ใช่ในยุคสมัยนี้ เพราะโรงเลื่อยกับการเดินทางโดยโบกี้รถไฟส่วนตัวที่แสนจะหรูหราของ กวินนั้น ชีวิตจริงคงทดแทนด้วย โรงงานอุตสาหกรรมทันสมัยและสายการบินภายในประเทศที่พรั่งพร้อม) การเขียนถึงปัญหาครอบครัวที่ตัวเอกเล่มสองเผชิญและให้เหล่าพี่น้องและมารดาของนางเอกสอนชีวิตในครอบครัวทำได้อย่างน่าทึ่ง ไม่บ่อยนักที่จะมีเรื่องราวครอบครัวสอดแทรกไว้ในนิยายของจามรี อ่านแล้วก็อดรักและอิจฉาน้อง วจี ไม่ได้ มีพี่สะใภ้สวยน่ารัก พี่ชายสุดเท่และใจดี แถมยังได้สามีที่เข้าใจในนิยามการใช้ชีวิตแบบเพี้ยนๆของเธออีกต่างหาก แม้จะไม่ถูกใจนักกับเรื่องวุ่นๆท้ายเล่มแต่ก้อยอมรับว่าเล่มนี้จบเรื่องได้สวย การให้วจี รจนาจดหมายถึงมารดาที่ออกเรือนรอบสอง ไปอยู่ต่างประเทศด้วยสำนวนน่ารักๆตามสไตล์นักเขียนสาวน้อยของเธอ ทำให้เรื่องราวจบอย่างโรแมนติกที่สุด ในยุคที่เราอาจเขียน twitter สั้นๆถึงเครือญาติ หรือมี blogและ facebook ที่บรรยายชีวิตประจำวันอย่างสมัยนี้กันแล้ว


Create Date : 16 กรกฎาคม 2554
Last Update : 17 กรกฎาคม 2554 19:50:31 น. 20 comments
Counter : 9380 Pageviews.

 
เราก็เป็นแฟนของนักเขียนคนนี้เหมือนกันอ่านมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบเรื่อง กลกามเทพมากที่สุดเลย กลับมาอ่านบ่อย ๆ แต่ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยไม่มีเวลาออกไปตามซื้อแล้ว แต่อ่านดูแล้ว น่าสนุกนะคะ


โดย: magic-women วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:08:09 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่เข้าไปเม้นท์ ที่นางนวล ส่วนนิยายข้างต้นก็อ่านเหมือนกันคะ ตอน วัยรุ่น เรื่องผัวเชลยก็สนุกนะคะ ของวลัยที่จำได้ก็เรื่องคุณชายธมการต์ (เขียนงี้เปล่าไม่ทราบ)กับตระกูลของเขา กสนุกนะคะ ช่วงหลังพออายุเกิน 25 มาเรื่อย ๆสักสิบปีหลังมานี่ก็อ่านพวกที่คล้าย ๆ กับนางนวลโจนาทานนะคะ


โดย: normalization วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:22:13 น.  

 
เซตนี้เคยอ่านแต่พราวแสงพลอย
สำหรับสี่นามของป้า ชอบ นลินมากสุด เพราะออกใสๆ ไม่ค่อยมุ่งกัดปาก


โดย: รินบุญญา วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:34:52 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล๊อกค่ะ

ตอนเด็กๆเคยอ่านงานของจามรี พรรณชมพู บ้าง แต่หลังๆมานี้ ไม่ได้อ่านเลยค่ะ เมื่อก่อนอ่านเพราะป้าเค้าชอบอ่านงานนักเขียนรุ่นเก่าๆ เลยอ่านตาม


โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:48:20 น.  

 

นำมาให้ชิมค่า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:55:06 น.  

 
ลองเปลี่ยนหมูสับเป็นแหนมก็น่าร่อยดีเหมือนกันนะคะ



โดย: noksamui

แล้วบีบมะนาว โรยพริกป่นคั่วเอง ใส่หอมและผักปรุงรสเซ็ทลาบ คลุกให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อนอีกครั้ง โรยด้วยแป้งข้าวเจ้า เอาไปทอดแบบ deep fry wowww ได้ข้าวจี่แบบ ลาบแหนมทอด เย่ สุด cool เลยค่า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:37:27 น.  

 
ตัวละครเยอะแยะมากมาย จำชื่อไม่ได้ แฮ่ๆๆ เนื้อเรื่องก็ซับซ้อน อ่านจบแบบมึนๆเลยค่ะ ขำคุณเจ้าของคอมเม้นต์แรก แสดงว่านิยายเซ็ตนี้ฉากกัดปากกันมีเยอะใช่มั้ยคะ ฮ่าาาาา มิน่าล่ะคุณนกเลยอ่านติดหนึบแบบนี้ (แซวค่ะแซว อิอิ )

ไม่ค่อยถนัดอ่านนิยายไทยเท่าไหร่ แต่จะว่าไปนิยายชาติไหนก็ไม่ได้อ่านมานานแล้วน่ะค่ะ 4-5 หลังมานี้อ้อมจะเน้นอ่านแนวอื่นซะส่วนใหญ่ ห่างหายจากวงการนิยายไปนานมาก แต่ก็มีช่วงนึงสมัยเรียนมหาลัยก็เคยอยากเป็นนักเขียนนิยายนะคะ เคยเขียนลงเว็บอยู่ไม่กี่ตอนด้วยล่ะ ฮิๆๆ

เอาไว้คุณนกอ่านนิยายน้อยลงเมื่อไหร่พวกเราก็คงได้เห็นผลงานคุณนกอีกเนอะ อิอิ ยังรอชมผลงานเย็บผ้าอยู่นะคะ


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:29:57 น.  

 
เข้ามาแก้อีกรอบ พอดีว่าพิมพ์ผิด ที่บอกว่า "คุณเจ้าของคอมเม้นต์แรก" จริงๆจะหมายถึง "คุณเจ้าของคอมเม้นต์คนที่สาม" น่ะค่ะ



โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:33:23 น.  

 
ตอบคุณ noksamui

ขอบคุณที่แวะเข้ามาคอมเม้นท์นะคะ เป็นคนอ่านหลายแนวค่ะ แล้วแต่ว่าจะได้หนังสืออะไร หรือตอนนั้นต้องการหนังสืออะไร หรือมีหนังสืออะไรลด ปัจจุบันยอมรับว่าเน้นไปทางหนังสือธรรมะเสียส่วนใหญ่ รองลงมาเป็นประวัติศาสตร์ ส่วนหนังสือท่องเที่ยว และอาหาร สารภาพว่าหยิบเพราะกิเลส อิอิ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ หนังสืออาหารนั้นซื้อมาแต่ไม่เคยทำเลยค่ะ เอาไว้ดูรูปยั่วตัวเอง (อีกแล้ว)

ปล. บล็อกนี้ ลายสุดๆ อิอิ

พรุ่งนี้วันพระ ธรรมะสวัสดีค่ะ


โดย: Moonie Lin (CooKiiE ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:09:35 น.  

 


ชวนไปทาน จั๊บไก่คั่วกุ้งฮะ


โดย: โสมรัศมี วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:14:47:08 น.  

 
ขึ้นมา กทม. เมื่อไหร่อย่าลืมส่งข่าวกันบ้างนะคะคุณนก...ตอนนี้ปิ๊กกำลังเตรียมรูปอยู่ค่ะ ใกล้จะได้ชมแระ... ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจกันเสมอมานะคะคุณนก...


โดย: lovequilt วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:16:59:57 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:7:35:05 น.  

 
ปิ๊กเองก็อยากเจอคุณนกเช่นกันค่ะ
มาเมื่อไหร่ส่งข่าวมาบอกเลยนะคร๊า...


โดย: lovequilt วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:9:42:59 น.  

 
แต่ก่อนก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณจามรี พรรณชมพู เหมือนกันค่ะ พอทำเริ่มทำงาน ก็เลยซา ๆ ลง .... ชอบเรื่องรัก ๆ เขานะคะ ... ว่าไปชอบหมดทุกนามปากกาเลยค่ะ ... วลัย วนาระ ก็ชอบ ... แต่ชมนาดไม่ยักรู้จักแฮะ :))

น้ำยาไก่ เอาเนื้อไก่ทำก็จริง แต่พอเป็นน้ำยาแล้ว ไม่เห็นเค้าไก่เท่าไหร่นะคะ ถ้ามีเวลา ลองทำดูค่ะ :))


โดย: Tristy วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:21:04:55 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณนก เห็นคุณนกเงียบไปเลยแว้บเข้ามาดู สบายดีหรือป่าวคะ สงสัยมัวแต่อ่านนิยายอยู่แน่เลย


โดย: ~ Cerulean Blue ~ วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:6:25:22 น.  

 
ชอบอ่านของจามรีกับ วลัยมากๆเลยค่ะ ตอนนี้อยากได้ชุดคุณชายธมกานต์ค่ะ ไม่ทราบว่ามีใครพอจะแนะนำได้บ้างคะ


โดย: ตุ๊กตา IP: 110.77.236.249 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:15:04:53 น.  

 
คุณตุ๊กตาคะ
เราอ่านชุดหม่อมเจ้าสุริยกานต์อยู่ค่ะ ตอนนี้ยังอ่านคุณชายธมค้างๆคาๆไม่จบอยู่กลางๆเรื่องแล้ว สนุกมากนะคะ ส่วนตัวแล้ว ชอบเรื่องแรกมากที่สุดนะ (ชอบพระเอกมาดท่านชายปากร้าย คิ้วขี้โกงค่ะ)
ถ้าสนใจอยากได้ครบชุดโดยไม่จำเป็นต้องไปเดินหาซื้อถึงสนพ.หรรษา และยังได้ราคาครึ่งราคาจากปกด้วย (ซื้อในร้านหนังสือจะราคาเต็มนะ) ขอให้ไปซื้อในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปลายเดือนนี้ค่ะ รับรองมีครบแน่ๆ ...เราก็จะไปสอดเล่มใหม่ของป้าศรีด้วยค่ะ


โดย: noksamui วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:23:23:49 น.  

 
อยากได้ หนังสือของ จามรี พรรณชมพู วลัยนวาระ
ตอนนี้มีครอบครองประมาณ 90 เล่ม
ถ้าหากใครทราบซื้อได้ที่ไหนกรุณาบอกด้วยค่ะ


โดย: มล IP: 182.52.246.56 วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:11:39:18 น.  

 
สั่งที่สำนักพิมพ์หรรษา โทร.0899237712


โดย: Jae-Ticha IP: 182.52.134.8 วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:16:23:20 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ๆ พัฒชอบอ่านหนังสือของจามรีเหมือนกันค่ะแต่จะสั่งซื้อที่ไหนได้บ้างค่ะ


โดย: พัฒ IP: 118.175.3.105 วันที่: 4 มกราคม 2557 เวลา:13:07:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

noksamui
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add noksamui's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.