ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
อย.ห่วงคนไทยใช้ยาพาราฯ เกินขนาด หวั่นตับพัง

paracetamol
คณะกรรมการอาหารและยา เผย คนไทยใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด ซึ่งส่งผลต่อตับโดยตรง เตรียมปรับสูตรยาพาราฯ เหลือ 325 มิลลิกรัม

ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีข้อเสนอในการปรับลดสูตรยาพาราเซตามอล เนื่องจากเกรงการรับประทานมากจะเป็นพิษต่อตับ ว่า ที่น่าเป็นห่วงคือคนไทยส่วนใหญ่ชินกับการใช้ยาพาราฯ ขนาด 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งมีการสั่งให้กินครั้งละ 2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยอาจได้รับยามากสุดถึง 12 เม็ด ทำให้เกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนดคือ ห้ามกินเกินวันละ 4,000 มิลลิกรัม หรือวันละ 8 เม็ด ซึ่งเรื่องนี้คณะอนุกรรมการทบทวนตำรับยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์จะดำเนินการการทบทวนตำรับยาพาราฯ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งสูตรเดี่ยวและสูตรผสม ให้มีปริมาณยาพาราฯ ต่อเม็ดสอดคล้องกับเกณฑ์ ซึ่งอาจมีการทบทวนว่าจะอนุญาตให้ใช้ขนาด 500 มิลลิกรัมหรือไม่ หรือควรลดเหลือเพียง 325 มิลลิกรัมต่อเม็ด แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าควรหันมาคำนวณสูตรยาให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวมากกว่า

ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า ส่วนการทบทวนลดสูตรยาที่วางจำหน่ายในประเทศไทยคงแล้วแต่คณะอนุกรรมการฯจะพิจารณา แต่มองว่าการจำหน่ายยังต้องมีหลายขนาดเช่นเดิม เช่น 325 500 และ 650 มิลลิกรัมต่อเม็ด เพราะหากกำหนดให้เหลือเพียง 325 มิลลิกรัมต่อเม็ดเพียงอย่างเดียว อาจกระทบกับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาพาราฯที่มากกว่า 325 มิลลิกรัม ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษา เช่น หากจำเป็นต้องได้รับ 500 มิลลิกรัม ก็ต้องแบ่งเม็ดยาพาราฯ อีก เรื่องนี้จึงอยู่ที่เภสัชกรผู้จำหน่ายยาจะต้องให้ความรู้แก่ผู้ป่วยด้วย ว่าควรใช้ยาพาราเซตามอล ขนาดเท่าไรจึงจะเหมาะสม สำหรับการจะทบทวนยกเลิกตำรับยาพาราฯ ชนิดหยดสำหรับทารกหรือไม่นั้นก็อยู่ที่อนุกรรมการฯ จะเป็นผู้พิจารณาเช่นกัน

“ขณะนี้คณะอนุกรรมการได้ทำหนังสือเวียนถึงผู้ประกอบการผลิตยาพาราเซตามอลในประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความเห็นต่อเรื่องฉลาก เอกสารกำกับ และคำเตือนของยาพาราเซตามอล โดยให้ส่งความเห็นกลับมายังสำนักงาน อย. ภายในวันที่ 7 พ.ย. เพื่อพัฒนาปรับปรุงก่อนออกเป็นประกาศควบคุมต่อไป เนื่องจากเราต้องให้ผู้ประกอบการทราบว่า อย. เตรียมทบทวนเรื่องพวกนี้อยู่ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเหมือนกับกรณียกระดับยาซูโดอีเฟดรีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 แล้ว แต่ผู้ประกอบการยังไม่พร้อมทำให้ยาค้างอยู่ในท้องตลาดค่อนข้างเยอะ จึงต้องให้ผู้ประกอบการได้เตรียมตัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ถ้าลดลงมาเหลือ 325 มิลลิกรัมแล้ว สูตร 500 มิลลิกรัมต้องไม่ค้างอยู่ในตลาดเยอะ” รองเลขาธิการ อย. กล่าว

ข้อมูลจาก เมเนเจอร์


Create Date : 21 ตุลาคม 2557
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 8:00:44 น. 0 comments
Counter : 1440 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.