ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
มาทำความรู้จักกับ กับเจ้ากล้องโลโม่กัน



ถ้าถามคนที่ชอบการถ่ายภาพว่าอะไรคือโลโม่? คำตอบจะมีหลายแนวทางมาก เช่น

การถ่ายภาพด้วยกล้องยี่ห้อโลโม่ หรือการถ่ายภาพที่ถ่ายด้วย กล้องตระกูลโลโม่
แม้กระทั่งการถ่ายภาพที่ออกมาเหมือนรูปเสีย บางทีเบลอ บางทีสีเพี้ยนดูไม่รู้เรื่อง แต่ก็สวยดี

จริงๆ แล้วกล้องยี่ห้อ LOMO รุ่น Original หรือ LC-A นั้น กำเนิดขึ้นปี ค.ศ. 1982 ในรัสเซีย
ผลิตขึ้นตามคำสั่งของกองทัพ เพราะต้องการกล้องดี ราคาถูก เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บันทึกเรื่องราวในชีวิต
จุดเด่นที่สุดของกล้องตัวนี้ คือมีเลนส์ Minitar 1 ที่ถ่ายออกมาแล้วได้เอฟเฟ็กต์แปลกๆ
เช่น ขอบภาพดำ หรือสีของภาพจะเข้ม และสดกว่ากล้องทั่วไป





ในปี ค.ศ.1991 หนุ่มออสเตรีย 2 คน เดินทางไปเที่ยวรัสเซีย แต่ลืมเอากล้องไปก็เลยซื้อกล้องโลโม่
จากร้านขายของเก่ามาถ่ายไปพลางๆ พอเอาฟิลม์ไปล้างก็พบว่ากล้องตัวนี้ให้ภาพสวยแปลก
และออกแนวดิบๆ มันส์ๆ ต่อมาได้เกิดเป็นความนิยมในวงกว้างและเกิด "Lomographic Society"
ขยายวงคนรักกล้องโลโม่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันได้มีกล้องแปลกและน่าสนใจอีกหลายชนิดที่ให้อิสระทางการถ่ายภาพ และเรียกรวมกับกล้อง LC-A ว่ากล้องโลโม่ กล้องเหล่านั้นให้ภาพถ่ายที่เป็นศิลปะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความคมชัดหรือ การจัดองค์ประกอบของภาพ เพียงใช้ความกล้าที่จะทดลอง ความคิดสร้างสรรค์ และลูกบ้าที่มี ทำให้เป็นลักษณะการถ่ายภาพที่โดดเ่ด่น มีเอกลักษณ์น่าสนใจ ซึ่งเรียกการถ่ายภาพแนวนี้รวมๆ ว่า "โลโมกราฟฟี่"

ในการถ่ายภาพแนวโลโมกราฟฟี่นั้น อุปกรณ์สำคัญนอกจากกล้องแล้วก็คือฟิลม์ ซึ่งมีหลายรุ่น
หลายขนาด และมักมีการพลิกแพลงเทคนิคต่างๆ นานา ตั้งแต่การใช้ฟิลม์สไลด์แต่ล้างแบบเนกาทีฟ
ฟิลม์หมดอายุ ใช้แสงกัดฟิลม์ การถ่ายภาพซ้อน และอีกสารพัดวิธีทดลองตามสไตล์ส่วนบุคคล



เสน่ห์ของการถ่ายภาพแบบโลโม่ที่แตกต่างจากกล้องดิจิตอลคือ แม้จะเป็นเจ้าของกล้องหรือ

กำกล้องอยู่ในมือ แต่เราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ เนื่องจากมีตัวแปรหลายอย่างที่เหนือการควบคุม

การ ลั่นชัตเตอร์แต่ละครั้งหมายถึงความสงสัย คาดเดา และคาดหวังอยู่ในใจ ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแนวนี้ มักไ่ม่คิดมากที่จะกดชัตเตอร์ บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ คน สัตว์ สิ่งของ ท้องฟ้า รถถัง กาละมัง สีเหลี่ยม ฯลฯ จนกระทั่งคนอื่นงงว่ามันจะถ่ายอะไรกันนักหนา

เมื่อฟิลม์หมดม้วน ช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง การล้างอัดเป็นช่วงเวลาแห่งความอดทน ตื่นเต้น พอได้ดูรูปก็มีความสุขอิ่มใจ แต่บางทีก็ทุกข์ใจ โดยเฉพาะเวลาจ่ายค่าล้างอัด และซื้อฟิลม์ จะหงอยมากเป็นพิเศษ แต่มันทำให้เรารู้ว่ากลิ่นไอโบราณที่มีความละเอียดละไมปนความดิบของโลโม่ และศิลปะแบบ "Don't think, just shoot" ตามสโลแกนของโลโม่นั้นเป็นอย่างไร

บ่อยครั้งที่คนรอบตัวจะไม่เข้าใจลักษณะภาพถ่ายในแนวโลโม่ หรือแม้แต่การหาร้านล้างอัดที่ถูกใจ ก็อาจเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นจึงเกิดมีเว็บไซต์ของคนรักโลโม่ขึ้นมามากมาย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และเรายังสามารถสร้างแกลลอรี่ไว้โชว์ผลงานของตนเองสู่โลกโลโมกราฟฟี่ หรือที่เรียกกันว่า "Lomo Home" ได้อีกด้วย

ในยุคดิจิตอลอันแสนสะดวกสบาย และทันสมัยแบบนี้ ความนิยมที่เิพิ่ิมมากขึ้นของโลโม่อาจถูกบางคนมองว่า เป็นกระแสหรือความนิยมชั่วครั้งชั่วคราวของคนที่ต้องการสิ่งที่แตกต่างจากคน อื่น แต่ในความจริงๆ แล้วแก่นและหัวใจของโลโมกราฟฟี่ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะเป็นตัวจริง ตัวปลอม ใครจะถือกล้องตามกระแส ใครจะถือกล้องเพื่อประกาศศักดาว่า "ข้าเป็นเด็กแนว" ใครจะถือกล้องราคาแพงจากเมืองนอก หรือใครจะถือกล้องของแถม ก็สามารถมีโลโมกราฟฟี่ในหัวใจได้ทั้งนั้น




แก่นและหัวใจของโลโมกราฟฟี่น่าจะเป็นคนที่รักงานศิลปะแนวโลโมกราฟฟี่ และมีความสุขที่ได้สร้างสรรค์ผลงานให้ตัวเอง และคนอื่นชื่นชม ไม่ว่าความรักและชื่นชอบในโลโม่จะยาวนานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นแบบชั่วคราว ค้างคืน หรือตลอดชีพ แต่หากได้มีโอกาสเปิดใจรับโลโม่เข้ามาในหัวใจแล้วก็เชื่อว่าศิลปะภาพถ่าย สไตล์นี้ จะทำใ้ห้หัวใจของคุณ กระชุ่มกระชวยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว



ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ lomography / lomothai



Create Date : 26 มกราคม 2554
Last Update : 26 มกราคม 2554 8:39:35 น. 0 comments
Counter : 1508 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.