รูปถ่ายของคนไม่มีกล้อง : เราภาวนาขอแค่ให้ได้บรรยายถึงสิ่งที่ตาเรามองเห็น
ทำไมเราถึงไม่มีเสียงริงโทนสำหรับโทรศัทพ์บ้านบ้างนะ เป็นคำถามที่ผมอ่านเจอในหนังสือต้นไม้ใต้โลก...อ่านแล้วพาลให้คิดสงสัย...นั่นสินะ ทำไมล่ะ?
บนโลกใบบูดเบี้ยวๆใบนี้ ไม่ใช้แค่โทรศัทพ์บ้านหรอกครับที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม แต่ชีวิตของมนุษย์ ความรักของผู้คน และบางแง่มุมของศิลปะเองก็เช่นกัน(?)
มาเปิดหมวดบล็อก รูปภาพ ใหม่ในวันนี้นี่ ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมเป็นคนไม่มีกล้องนะครับ อ่าว...แล้วจะเอารูปที่ไหนมาลงล่ะงานนี้ ...เรื่องของเรื่องคืออย่างนี้ครับ...
ช่วงเดือนที่ผ่านมา ในระหว่างที่ผมกำลังลองปลุกปั้นทำหนังสือทำมือเล่มแรกในชีวิตอยู่อย่างขะมักเขม้น ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนผู้ใจดีที่มาช่วยทำภาพประกอบหนังสือให้ถึงรายละเอียดต่างๆ ของภาพที่จะนำมาตีความตัวหนังสือภายในเล่ม คุยไปคุยมาผมเกิดชักสงสัย... คือเจ้าขั้นตอนการทำงานระหว่างเรานั้นก็จะประมาณว่า ผมเขียน ให้เพื่อนอ่าน แล้วเพื่อนไปตีความตัวหนังสือ แบกกล้องออกไปหารูปที่เข้ากันกับเนื้อหา และเอาภาพมาแบ่งปันให้ผมอีกที
ฟังแล้วนึกสงสัยทั้งมากมายและก่ายกอง ว่า ทำไมในแวดวงศิลปะ ตัวตนของภาพ ถึงได้ถูกเอารัดเอาเปรียบแบบนี้อยู่เสมอๆ นะ
อย่างในภาพยนตร์... ความงดงามของภาพ(และความไพเราะของเสียง)ก็ถูกกดขี่ให้ไปช่วยถ่ายทอดเนื้อหาของเรื่องราว ในมิวสิควีดีโอเอง... ภาพ(เคลือนไหว)ของนักแสดงก็มีขึ้นเพียงเพื่อขยายความจาก เนื้อหา ของบทเพลงอีกที หรืออย่างในหนังสือ... ที่ภาพนิ่งถูกมอบหน้าที่ตัว(ภาพ)ประกอบ และถูกจำกัดการแสดงมุมมองไว้เท่าที่แค่ตัวหนังสือเอ่ยถึง
กลับกัน...ผมกลับไม่ค่อยจะได้เห็นว่ามีพวกภาพยนตร์ บทเพลง หรือหนังสือไปหยิบยกภาพ(ของคนอื่น)มาแล้วสร้างสรรค์งานศิลปะในแบบของตนเพื่อตีความภาพนั้นให้เห็นบ่อยนัก ยิ่งไปกว่านั้น...เหล่าภาพถ่ายใน Gallery ต่างๆเองก็ไม่เห็นจะเป่าปากเรียกร้องให้เหล่าดารานักแสดงไปยืนการันตีคุณค่าของมัน ไม่เคยมีเสียงดนตรีใดๆถูกใช้เพื่อขยายความหมายของภาพที่นอนอยู่ในกรอบ และไม่ยักจะเคยพบเจอว่าตัวหนังสือจะอาสามาช่วยไปรับบทเป็นตัวประกอบให้บ้างเลย ...รูปภาพไม่เห็นเคยเรียกร้องอะไรเลย... มันแค่แขวนตัวเองอยู่นิ่งๆ ขอแรงน้ำใจจากหลอดไฟดวงเล็กๆส่องให้หน่อย และรอการถูกตีความจากผู้ชมเงียบๆอยู่อย่างนั้นโดยไร้การปรุงแต่งจากศิลปะอื่นใด นอกจากตัวมันเอง
...ผมว่าแบบนี้นอกจากจะรู้สึกไม่ค่อยยุติธรรมแล้ว ยังรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะเหงาๆนะ...ว่าไหม?
ภาพนี้ได้รับการเอื้อเฟื้อจากน้องปลาทองแก้มยุ้ย
ครั้งแรกที่ผมเห็นภาพด้านบนนี้...ผมรู้สึกชอบสิ่งที่ภาพข้างบนนี้บอกเล่า... ด้วยหากเราเราสังเกตดีๆ จะพบว่านี่คือ มุมมองที่คนที่กำลังจะถูกถ่ายรูปมองเห็น แต่พอชัตเตอร์ถูกกดลง มันกลับก่อเกิดเป็นภาพถ่ายที่บันทึกรูปของ คนถ่ายรูป เอาไว้แทน
ผมว่ามันเป็นภาพถ่ายที่ให้ความสำคัญต่อการกำเนิดของรูปถ่ายยิ่งกว่าภาพถ่ายใดๆ และโลกควรจะมีรูปแบบนี้ให้มากขึ้น
ในระหว่างที่กำลังง่วนกับหนังสือทำมือ(ที่ป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จสักที 555+) ผมได้เคยลองถามเพื่อนที่ทำภาพประกอบให้ว่า ถ้าเกิดขบวนการผลิตไหลย้อนศร...ให้เธอได้เอาภาพถ่ายของตนมามอบให้ผม เพื่อให้ผมนั่งเพ่งเล็งตีความ มองหาประเด็นที่แอบแฝง แล้วเขียนตัวหนังสือขึ้นมาเพื่อประกอบภาพถ่ายของเธอบ้าง เธอจะว่ายังไง...
ผมจำรูปประโยคคำตอบที่แน่นอนไม่ได้...แต่จำได้แม่นยำมากว่าเพื่อนรู้สึกชอบอกชอบใจมากกับคำถามนี้...ไม่รู้คนคนที่เขียนหนังสือจะรู้สึกเหมือนผมทุกคนไหม แต่ผมรู้สึกมีความสุขนะ...เวลาที่เพื่อนร่วมงานศิลปะมีทีท่าชอบอกชอบใจแบบนี้
ดังนั้น ภาพสำหรับคนที่ไม่มีกล้องอย่างผมนั้น จึงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เพื่อนๆ ที่มีภาพถ่าย อนุญาตให้ผมได้หยิบยืมรูปของตนมานั่งเขียนถึง เหมือนกับภาพในเอนทรี่นี้ที่ผมก็ไปหยิบยืม(แกมบังคับขู่เข็น)คนอื่นเขามาเหมือนกัน 555+ ดังนั้นหากมีตากล้องท่านใดสนใจอยากที่จะลองให้ภาพของตนได้นั่งเป็นแบบให้ตัวหนังสือของผมรับใช้ดูบ้าง โปรดติดต่อทิ้งที่อยู่ของภาพไว้นะครับ วางลิงค์บล็อกหรือเว็บไซต์ของท่านไว้เพื่อแทน คำอนุญาต ให้ผมได้เข้าไปสำรวจเพื่อหาภาพที่ต้องตา ต้องใจ และใช่เลยแล้วกลับมาเขียนถึง...
|
|
|
|
|
|
ด้วยถึงเวลาแล้วที่คนถือกล้องควรจะได้รับการจดจำ และภาพถ่ายควรจะได้รับการตีความ ถ้ามีตากล้องคนไหนนึกสนุกอยากจะลองสัมผัสภาพถ่าย(หรือภาพวาด)ของตนในรูปแบบตัวหนังสือของคนอื่นดูบ้าง ก็ลองเก็บเอาไปคิดดูนะครับ เอากันสนุกๆ...คิดซะว่าตัวหนังสือของผมเป็นดั่งริงโทน เสียงเรียกเข้า และเสียงรอสายของภาพถ่ายของคุณก็แล้วกัน
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 15 เมษายน 2553 15:23:32 น. |
|
11 comments
|
Counter : 565 Pageviews. |
|
|
|
โดย: akarima วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:09:46 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:19:06 น. |
|
|
|
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:50:25 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:12:59 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.159.191 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:48:16 น. |
|
|
|
โดย: pattararanee IP: 125.25.247.25 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:09:23 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:47:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เจ้าของบล็อกอารมณ์ดี นิยมการเดินทาง และโปรดปราณการดื่มกิน
บ้านของปลาทองประกอบไปด้วยหมวดหมู่ย่อยมากมายทั้งบันทึกการเดินทางแหล่มๆ
อาหารการกินน่าลอง หนังสือดีๆ หนังมันส์ๆ เกมสนุกๆ และเรื่องราวชวนประทับใจอีกมากมาย
(ผมขอแนะนำหมวดบล็อก ปลาทองลงพุง เป็นพิเศษ...เพราะผ่านไปอ่านทีไรเป็นได้เรื่อง(อ้วน)ทุกที!!)