someday we write , someday we wrong









รายรับจากความรัก ใช้จ่ายเพื่อความสุข

ถึงขั้นต้องร้อง “เย้ยยยย!! ไม่นะ! ” ดังๆ เมื่อตรวจสอบการใช้เงินของตัวเองแล้วพบว่า
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมใช้เงินหมดไปกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านกว่า 13,460 บาท!!

โดยสมาชิกใหม่ของ “ชุดนอน แฟมิลี่” ในคราวนี้ประกอบไปด้วย

________________________________________________________________________________






โบนุชชี่ (4,990 บาท)
โบนุชชี่ คือโต๊ะคอมพิวเตอร์หนุ่มใหญ่ที่ผมหวังจะฝากฝังให้คอยช่วยดูแล โรซีต้า (คอมพิวเตอร์สาวประจำบ้านของผม) ให้อยู่ดีมีสุข นอกจากดีไซส์สวยๆ รูปร่างทะมัดทะแมง และกินพื้นที่น้อยแล้ว โบนุชชี่ยังโดดเด่นด้วยฐานติดล้อ ซึ่งเอื้ออำนวยแก่การพาตัวมันเองกับโรซีต้าย้ายหลบจากออฟฟิศที่วุ่นวายไปสู่ห้องนอนของผมในยามค่ำคืน

และในเมื่อผมไม่ต้องนั่งทำอยู่ในออฟฟิศ (ที่มีคนไม่เคารพเวลาคอยมารบกวน) หลังจากหมดช่วงเวลาทำงานประจำแล้ว
ต่อไปก็จะสามารถปั่นต้นฉบับต่างๆ ภายใต้บรรยากาศสงบๆ ได้มากขึ้น ^^


________________________________________________________________________________






เจลูก้า (1,790 บาท)
เธอคือผู้อำนวยการศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยเนื้อไม้อัดเปื้อนสีโอ๊ค ขนาดสูง 2 เมตร และช่องใส่ของนานาขนาด เจลูก้าคือชั้นวางอเนกประสงค์ที่อุดมไปทั้งเหล่าหนังสือกำพร้าที่ถูกดอง นิตยสารลูกเมียน้อยที่ยังไม่ได้อ่าน และแผ่นหนังสาวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือเครื่องเล่นใดๆ

สำหรับผม ชั้นวางอเนกประสงค์นี่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกดี
คือถึงแม้การนำหนังสือหรือหนังไปวางที่มันแล้วจะทำให้เรามองเห็นและหยิบง่ายได้ขึ้น
แต่ด้วยความที่พอเรียงเข้าชั้นแล้วรู้สึกว่ามันสวยงามดี ผมเลยมักจะไม่ค่อยหยิบอะไรจากชั้นไปเสพมากนัก...

โอกาสในการได้รับการเหลียวแลของเด็กกำพร้านี่...ช่างตกต่ำจนน่าตกใจจริงๆ


________________________________________________________________________________






บูจาราตี้ (4,990 บาท)
บูจาราตี้ คือเครื่องเล่น DVD ยี่ห้อ SOKEN สีดำขลับ มีช่องใส่ USB พร้อมสายเชื่อมต่อสำหรับการเล่นภาพและเสียงระดับ Full HD บูจาราตี้จึงทำหน้าเป็นเหมือนพ่อสื่อ... ที่จะคอยนำเสนอความสมบูรณ์แบบของสื่อบันเทิงภายในบ้านให้กับผม ซึ่งด้วยคารมของเขาประสานเข้ากับทีวี SONY BRAVIA แล้ว น่าจะทำให้ผมตกหลุมรักหนังแต่ละเรื่องได้ง่ายกว่าที่เคย

ป.ล. SONY BRAVIA ไม่มีชื่อแบบบุคคลนะครับ
เพราะผมจะตั้งชื่อให้เฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผมซื้อเองเท่านั้น (แต่ SONY BRAVIA นี่ คนอื่นซื้อมาฝาก)


________________________________________________________________________________






อัลแบร์โต้ (2,650 บาท)
อัลแบร์โต้ คือ Mini Compo ยี่ห้อ AJ นี่คือชายร่างเตี้ยที่มีน้ำเสียงใสก้องกังวาลจากระบบลำโพงคู่ รอบรู้ข่าวสารทันท่วงทีและความจำแม่นยำถึงขนาดสามารถจดจำคลื่นวิทยุได้ถึง 30 สถานี และแน่นอนว่าต้องมีช่องเสียบ USB เพื่อไม่ให้ตกยุค ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกันไหม แต่ผมเป็นคนนึงที่พออ่านหนังสือพร้อมฟังเพลงไปด้วยแล้วหัวจะแล่นผิดปกติ ลื่นกว่าเดิม และจดจำความรู้ได้มากกว่าอ่านแบบเงียบๆ

เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ ต้องมาจากบทเพลงที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเสียงของพี่ๆ ดีเจแน่ๆ เพราะพอลองเปิดเพลงจาก MP3 หรือ CD ปกติฟังแล้วจะไม่รู้สึกว่าความจำดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เดาว่าเสียงของดีเจคงมีส่วนทำให้เรารู้สึกว่า ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก และความรู้สึกเซอร์ไพร์จากการได้ฟังเพลงที่เปิดแบบคาดเดาไม่ได้ คงมีผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีกว่าปกติ





อย่างที่ได้เกริ่นไว้...ตกลงการรับสมาชิกใหม่ในคราวนี้เลยชาร์ตผมไป 13,460 บาทถ้วน

หลังจากได้เห็นยอดรวม และหนีไปกระดกน้ำเย็นๆ จิบชิมกาแฟร้อนๆ พร้อมทั้งเอาผ้าหมาดๆ มาลูบหน้าจนได้สติแล้ว ผมก็เอื้อมมือไปหยิบสมุดบัญชีเงินฝากมานั่งดู พบว่าลำพังเงินที่ได้จากการเขียนหนังสือนั้นก็มากพอที่จะครอบคลุมรายจ่ายที่เกิดขึ้นได้อย่างสบายๆ ทั้งยังมีเหลือเก็บได้อยู่ และไม่ก่อให้สภาพคล่องฝืดเคืองแต่อย่างใด

จากเดิมที่เคยนั่งคิดรู้สึกผิดทุกครั้ง เวลาเอาเงินไปใช้ทีละมากๆ เพราะรู้สึกว่าต้องทนทำงานมาแทบตายกว่าจะได้เงินนี้มา แต่ตอนนี้ไม่แล้ว... คือเงินเหล่านี้ได้มาจากการเขียนหนังสือ ซึ่งตลอดขบวนการที่ได้มันมานั้นช่างเปี่ยมไปด้วยความสุข ตั้งแต่ตอนไปดูหนังเพื่อมาเขียนผมก็ได้ความสุขมาบ้างแล้ว (มากน้อยตามแต่ว่าหนังจะสนุกแค่ไหน) ตอนมานั่งเขียนก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก และแน่นอนว่าตอนได้รับการตีพิมพ์และได้รับค่าต้นฉบับก็มีความสุข จนรู้สึกว่าเงินที่ได้จากการทำในงานที่รักมันเหมือนเป็นแค่ของแถม ผลพลอยได้ และโบนัสที่ชีวิตมอบให้...เป็นรางวัลที่เราทำตัวน่ารัก(?)และขยันทำในสิ่งที่เรารัก 555+

จนพอเราเอาเงินเหล่านั้นมาจับจ่าย
ก็เลยเปี่ยมไปด้วยความสุขจากการได้เป็นเจ้าของในสิ่งที่เราอยากได้ โดยปราศจากความรู้สึกผิดใดๆ คอยกวนใจ

ปัจจุบันผมยังทำงานประจำที่ไม่ได้รักมากแต่ก็ไม่เกลียดอะไร ทำชิลๆ ได้เรื่อยๆ เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และมีงานเขียนเป็นกึ่งงานอดิเรกกึ่งความฝันที่สร้างรายได้เสริมไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ ผมเลยรู้สึกนึกอิจฉาคนที่ได้ทำงานที่รักแบบเต็มเวลา คนพวกนี้คงจะมีความสุขในทุกเช้าที่ตื่นนอน ทำงานสนุกสนาน และใช้เงินที่ได้มาอย่างมีความสุขแน่ๆ เลย...

เหลือบตามองสมุดบัญชีที่เต็มไปด้วยเงินที่ได้มาจากการทำในสิ่งที่รักอีกครั้ง
อืม...เงินยังเหลือนี่นา ซื้ออะไรอีกดีนะ “เย้ยยยย!! ม่ายช่ายแล้ว!” 555+



Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 16:20:16 น. 9 comments
Counter : 729 Pageviews.

 
น่าอิจฉาคนทำงานประจำแบบชิลชิล พร้อมทั้งได้ทำงานอดิเรกที่รัก และมีรายได้ไปด้วย

ขอให้บรรดาเหล่าสรรพสิ่งที่ฝากให้เจลูก้าดูแลนั้น ได้รับการเหลียวแลบ้างนะคะ
ส่วนเครื่องใช้เพื่อความบันเิทิงนั้น คงมอบความบันเทิงเริงใจให้มากกว่าเดิม

เราก็ชอบฟังเพลงและอ่านหนังสือค่ะ ..ไม่ได้ชอบอยู่อย่างเงียบๆ
แต่ว่า ..เราชอบทำอะไรสวนทางคนอื่นอยู่เรื่อย
เวลาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เราฟังเพลงไทย ซึ่งบางครั้งถึงขั้นไทยเดิมเลยด้วย
แต่เวลาอ่านหนังสือภาษาไทย (แบบต้องการเก็บสาระ) เราฟังเพลงภาษาต่างชาติ จะอังกฤษหรือจีนก็ว่ากันไป
หรืออาจเป็นบรรเลงเพลงสากลไปเลยก็ได้

มองดูสมุดบัญชีของตัวเอง ..ติดลบตลอดปี
แต่พอเงยหน้ามองชั้นหนังสือแล้ว ก็ ตัวแดงของเรา มันเกิดเพราะหนังสือบนชั้นนั่นแหละ


โดย: นัทธ์ วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:7:18:36 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ ความสุขกระจายเต็มบ้านเต็มบล็อกเลยนะคะ
อยากเห็นภาพสมาชิกใหม่บ้างจัง นึกว่าจะถ่ายมาอวดกันเสียอีก


โดย: อ้อนบีค๊อฟฟี่ IP: 61.7.145.137 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:7:20:02 น.  

 
แอบอมยิ้มกับเอนทรี่นี้มากๆ เลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าทุกตัวอักษร
มันสร้างความอบอุ่นให้กับอารมณ์ไม่น้อยค่ะ

หลายคนอยากทำได้อย่างที่คุณทำนะค่ะเพราะว่า
อะไรจะดีไปกว่าการได้รับความสุขแบบที่ไม่เดือดร้อนมามากมาย
จากการจับจ่าย ตัวเราเองก็เหมือนกันค่ะ บางทีแอบอยากได้
อย่างนั้น อย่างนี้ แต่เนื่องด้วยว่าภาวะการเงินเป็นปัจจัย
หลักในการ
ตัดสินใจ บางอย่างก็ได้มาโดยเร็วพลัน แต่ว่าบางอย่างซึ่งเป็น
ของส่วนใหญ่ก็ต้องรอไป ภาวะของการจับจ่ายแบบต้องเรียงความสำคัญ
ของสิ่งนั้นๆ ก็ต้องทำงานกันอย่างหนัก มันเลยส่งผลให้ความคิดที่ว่า
"เมื่อไหร่หนอจะถูกล็อตเตอรี่" เข้ามาสวมกอด ...


แอบสุขใจกับเรื่องเล่าและก็อยากได้เครื่องเรือนใหม่อีกสักชุด
แต่ว่า .. คงต้องรออีกพักใหญ่กันล่ะค่ะ เพราะมีของอย่างอื่น
สำคัญกว่าต้องรอ .. เฮ้อ .. ไปซื้อล็อตเตอรี่ก่อนนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:9:33:14 น.  

 
แผ่นหนังสาวที่ยังไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือเครื่องเล่นใดๆ
--- ตัดคำว่าไม่ออกรึป่าวเพ่

SOKEN สีดำคลับ
--- สีดำขลับค่ะ 555

สื่อบังเทิง // สถานนี //
--- ผิดอีกแระ จะรีบพิมพ์ไปไหนเนี่ย

++++

จะยังต้องซื้ออะไรอีก ไปเที่ยวกันดีกว่า
เริ่มจากมาอุดรเป็นไง ฮ่าๆ

หนูก็เหมือนกันนะ เอาเงินจากงานประจำ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนเงินจากงานเขียน ก็อย่างที่เคยบอก จะเก็บไว้ เพื่อรวมเป็นก้อนใหญ่ๆแล้วไปเที่ยว อย่างปีแรกที่เคยทำ
ปีที่แล้ว เห็นรายรับรวมที่ได้จากงานเขียน อาจจะไม่เยอะเท่าคนอื่น (แบบว่าของคนอื่นหนูเห็นเลข 6 หลักอ่ะ ฮ่าๆ) แต่มันแย่ตรงที่ เงินเดือนไม่พอใช้ หรือไม่ก็ช็อปปิ้งเยอะเกิน มันก็เลย หมด...ด..ด อดไปเที่ยวเลย

แล้วงี้เมื่อไรหนูจะได้ไปเที่ยว แงงงง

(พี่คิด แกจะบ่นไรหนักหนาอีก)

ตอนนี้มีคาสุขกับสิ่งที่ทำก็ดีแล้วค่ะ
วันไหนทีท้อ หรือเบื่อ หรือขี้เกียจ ก็กลับมาอ่านบล็อกหน้านี้นะ จะได้มีกำลังใจ เพราะแต่ละประโยคในหน้านี้บอกว่า พี่กำลังมีความสุขกับสิ่งที่หามาได้แค่ไหน

อย่าลืมล่ะ !!!


โดย: เศร์ IP: 203.151.15.246 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:12:23:54 น.  

 
#2 คุณนัทธ์
ผมว่ามันคงเป็นอย่างที่คนเขาว่าจริงๆ คือสมัยนี้คนเราอยู่กับความเงียบไม่ค่อยได้แล้ว
โลกมันเสียงดังจนเราชักจะชิน เริ่มคุ้นเคย และกลายเป็นเคยตัว พออยู่ตัวคนเดียวเงียบๆแล้วจะรู้สึกว่ามันเงียบไป

จะอยู่เฉยๆ ก้ต้องอ่านหนังสือให้มีเสียงดังในหัว ดูหนัง ฟังเพลงไปด้วยเสมอ
เครื่องใช้ของผมทุกชิ้นเป็นหลักฐานอย่างดีเลย ไม่เปิดทีวีก็เปิดคอม ไม่คอมก็วิทยุ ไม่ก็เกม XBOX 360
ตอนอ่านหนังสือก็ยังต้องมีเพลงกล่อม ของแบบนี้นับวันยิ่งพัฒนาต่อเนื่อง
แบบของคุณนัทธ์...ต้องเปิดเพลงสลับสัญชาติกันด้วย 555+

เงินเป็นทรัพย์สิน เช่นเดียวกันหนังสือครับ ต่างกันนิดเดียวตรงที่...
หนังสือนั้นถ้ายังไม่ได้เอามาอ่าน ก็จะเป็นแค่ของที่มีไว้รกตู้ เก็บฝุ่น และประดับชั้นวาง
แต่พอได้อ่านแล้วซึมซับข้อคิดอะไรมาติดสมอง นำไปปฏิบัติใช้ และเปลี่ยนให้มุมมองให้โลกใบนี้สวยงามขึ้น

นั่นแหละ จะกลายเป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว
ถ้าบัญชีจะติดลบด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง... การติดลบเพราะซื้อหนังสือนี่ก็จัดได้ว่าน่าอิจฉามากเหมือนกันครับ
ขอรับปากว่าจะพยายามค่อยๆ ทยอยหยิบมาอ่านนะครับ ^^



#3 คุณอ้อน
ก็ถ่ายมาแล้วนี่ไง แต่เฟอร์นิเจอร์บ้านผมมีร่างกายเป็นมนุษย์ครับ
ไม่แค่ร่างกายนะ นิสัยก็ด้วย ถ้าปฏิบัติกับมันไม่ดี มันจะเกเรเอาได้ด้วย 555+



#4 คุณ JewNid
ผมไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่เลยครับ เล่นไม่เป็นด้วยว่า เขาดูเลขท้ายกันยังไง ซื้อเป็นคู่เป็นชุดมันนับกันยังไง
แต่แอบสงสัยว่า ถ้าการใช้เงินที่ได้มาจากการทำงานที่รักมันเปี่ยมไปด้วยความสุขแล้วล่ะก็
การได้เงินจากการเล่นล็อตเตอรี่นี่จะมีความสุขแบบเดียวกันด้วยไหมนะ?

ถ้าคุณถูกล็อตเตอรี่เมื่อไหร่ รีบนำเงินไปใช้จ่ายแล้วมาเฉลยให้ฟังด้วยนะครับ ^^



#5 เศร์
ณ ตอนนี้ยังรู้สึกว่าการอยู่บ้าน + ออฟฟิศและทำงานนอนหลับอย่างมีความสุขทุกวันนั้น
มันสำคัญกว่าการได้ออกไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ แค่ไม่กี่วันน่ะ เลยทุ่มเงินไปกับการแต่งองค์บ้านมากกว่า
สักวันที่คิดใหม่ทำใหม่ว่าอยากจะตะลุยโลก ก็จะเห็บเงินไปลุยกับเศร์นะ ^^

ต่อจากนี้ไปน่ะ ไม่มีแล้วล่ะ กับการท้อและถอยกับงานเขียน
เพราะผู้หญิงคนนึงเคยบอกกับพี่ว่า “ถ้าเขียนเพื่อตัวเองไมได้ ก็เขียนเพื่อเขาได้ไหม”
ทุกวันนี้คำนี้ไม่ได้แค่ลอยอยู่ในหัวแต่ฝังแน่นในความทรงจำเลย
และยิ่งตอนนี้ นอกจากการเขียนแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้เลยด้วยแล้ว พี่คงจะไม่ท้อถอยแน่นอน

ป.ล. เขียนผิดนิดๆ หน่อยๆ ทำบ่น คนจะรีบไปดูบอลเฟ้ย!! 555+


โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:16:49:44 น.  

 
ผ่านวันล็อตเตอรี่ออกไปเมื่อวานนี้ ซื้อ 1 ใบ
แต่ว่าหวังรางวัลใหญ่ ก็ผลออกมาไม่ต่างจากเดือนก่อน
ครั้งก่อน งวดก่อนเลยค่ะ คือ ไม่ถูก .. 5555+
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้หวังรวยจัดทางนี้
เพราะรู้อยู่ว่าโอกาสของตัวเองมีน้อยแต่ว่าก็ไม่พลาดที่จะ
ซื้อติดตัวเอาไว้ เพราะใครจะรู้นะค่ะ เผื่อว่าสักวัน สักวัน

สำหรับตัวเองเราก็คิดว่า ถ้าเงินที่มาได้โดยง่าย
อย่างการถูกรางวัลอย่างนี้ ได้มามันก็มีความสุขแน่นอน
แต่ว่ากับการใช้จ่ายนั้น ก็จริงอยู่ว่ามันสุข แต่ว่าถ้าสุข
แบบไม่พอเงินที่ได้มามันก็หมด แต่ถ้าถามว่าได้เงินรางวัลนี้มา
และมาจับจ่ายใช้สอยมันมีความสุขไม๊ เราตอบไปล่วงหน้า
ก่อนได้เลยว่าแน่นอนค่ะ คงสุขจริงๆ แต่ว่าจะรู้แท้แน่จริงได้
ก็อาจจะต้องรอเราถูกล็อตเตอรี่ก่อนนะค่ะถึงจะมายืนยัน
ได้อีกทีค่ะ

.................

สำหรับงานโครงการตะพาบ เป็นโครงการต่อเนื่องของน้องสามสาว
น้องปอย น้องอ้อน น้องแจงนั่นล่ะค่ะ ช่วงก่อนเห็นน้องๆ
เค้าติดภารกิจกัน ก็เลยแบบว่ามีคนมาสานต่อทำงานโครงการงานเขียน
แบบร่วมสนุกกันอีกที .. แต่ว่างานนี้ความละมุนอาจจะหายไปบ้าง
เพราะว่าสามสาวเค้าออกแนวกรุ่นๆ ละเมียด แต่ว่างานโครงการตะพาบนั้น
จะออกแนวจินตนาการฟุ้งๆ หน่อยน่ะค่ะ แต่ละโจทย์ก็อาจจะ
มาแบบแหวกๆ การตีความก็หลากหลายไม่จำกัด เรียกว่าก็สนุกดี
มีลิงก์ของคุณเป็ดสวรรค์เขียนเอาไว้ตอนเริ่มโครงการค่ะสำหรับงานนี้ ...

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crazylazykoodchi&month=01-2010&date=25&group=6&gblog=1


ส่วนงานโครงการตะพาบหนหน้า .. โจทย์มีเอาไว้ที่ลิงก์นี้ค่ะ
ว่างๆ มาร่วมเขียนด้วยกันนะค่ะ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crazylazykoodchi&month=06-2010&date=12&group=6&gblog=16


โดย: JewNid วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:8:11:32 น.  

 
มาได้เยี่ยมหน้ามาทางนี้
ไม่รู้ว่าคุณชุดนอนกลับมาประจำบล็อก(อีกแล้ว)
เรื่องสมาชิกใหม่ อิอิ ไม่เคยมีอะไรได้มาฟรีๆ(อยู่แล้ว)

คาใจ..ขอคุยต่อเรื่องที่บล็อกนิดนึงแล้วกัน
เรื่อง"ระยะทางอันห่างใกล้"...อ่านตอนแรก ครั้งแรก
เราก็ชอบพิมปายมากค่ะ เขียนตรงใจดี ...เหมือนกัน
แต่อ่านไปนานๆ จนจบ กลับปันใจไปให้นิ้วกลมซะงั้น
(งานของนิ้วกลม) เราไม่เคยอ่านเล่มอื่นหรอกนะคะ
แต่เคยอ่านที่บล็อกเขา..สำนวนไม่ใช่แบบที่เราชอบ
แต่ชอบรับว่า ความคิด ความอ่านบางอย่างโดนใจค่ะ

ปล. อ่านหนังสือจบ เราว่านักเขียนสองคนนี้เหมือนกันเกินไป..คือ
เหมือน..ในส่วนที่เชื่อมั่นและแนวแน่ในความคิดของตนเองมา(ไปหน่อย)

ปปล.จะว่าไป ....นิ้วกลมกับพิมปาย ....
ก็ดูคล้ายๆ ใครบางคนแถวนี้ และแถวโน้น..น ด้วย นะคะ


โดย: nikanda วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:18:55:28 น.  

 
ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์เต็มบ้าน มองไปรอบๆ ข้าวของมากแต่อยู่คนเดียว
ทำให้นึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาเลย... ^^



โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:2:15:24 น.  

 
บทความนี้น่ารักมาก อ่านแล้วอมยิ้มไปด้วย นึกอิจฉาไปด้วย

แต่ผมว่าบางครั้งความสุขก็เกิดจากการที่เราได้ซื้อในสิ่งที่เรารักและอยากได้นี่แหละ แม้บางครั้งงานที่เราทำจะเป็นงานที่เราไม่ได้รักได้ชอบเท่าไหร่ แต่ถ้ามันทำให้เรามีกินมีใช้ มีเงินพอที่จะไปซื้อหาสิ่งที่เรารักมาเสพมันก็เป็นงานที่โอเคดีนะ

ช่วงนี้กำลังเฝ้ารอวันเงินเดือนออก จะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุลต่านอีกครั้ง 555


โดย: แฟนผมฯ IP: 112.142.142.63 วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:21:52:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอรบกวนทั้งชุดนอน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ขอรบกวนทั้งชุดนอน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.