พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
ไขข้อสงสัย 'น้ำสีม่วง' ที่ฉีดผู้ชุมนุมมันคืออะไร

ไขข้อสงสัย 'น้ำสีม่วง' ที่ฉีดผู้ชุมนุมมันคืออะไร

จากเหตุการณ์ปะทะที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ประชิดแนวแบริเออร์ป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้ต้องมีการใช้แก๊สน้ำตา และรถฉีดน้ำแรงดันสูง ฉีดน้ำสีม่วงสกัดการรุกคืบ โดยมีผู้ชุมนุระบุว่าเกิดการแสบร้อนระคายเคือง จึงสงสัยกันว่า จนท.ใช้สารอะไรมาฉีด มีพิษหรือไม่ อันตรายแค่ไหน...

หลังจากที่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2556 พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ในฐานะ รองผอ.ศอ.รส.และเลขาธิการ ศอ.รส. ออกมาแถลงถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายหลังที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจสามารถใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุมได้ตามหลักสากล ตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คำสั่งปฏิบัติการ ศอ.รส.ที่ 1/2555 โดยตำรวจยืนยันทำตามแผนกรกฎ 52 ที่เขียนขั้นตอนการปฏิบัติตามลำดับชัดเจน ไม่มีข้ามขั้นตอนเป็นตามคำสั่งปฏิบัติ 1/2555 ให้ใช้ตามความเหมาะสมตามสถานการณ์

ภายใต้แผนกรกฎ 52 เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนไม่ยืนติดเว้นระยะช่องว่างไว้ ถ้าฝูงชนขยับเข้ามาก็ดันออกไป หากดื้อดึงก็ใช้แก๊สน้ำตา คำสั่งปฏิบัติการที่ 1/2555 ได้ดัดแปลง เน้นไม่ให้ตำรวจปะทะกับประชาชนเราจะมีสิ่งกีดขวางเป็นแท่งแบริเออร์มีลวดหนาม เพื่อเว้นระยะห่างไม่ให้เกิดการปะทะ หากผู้ชุมนุมจะทำลายสิ่งกีดขวาง รื้อลวดหนามจะใช้แก๊สน้ำตาเพื่อให้กลุ่มชนถอยออกไป แก๊สน้ำตาไม่ใช่อยู่ขั้นสุดท้ายใช้ได้สม่ำเสมอ เพราะไม่อันตราย โดย ตร.มีแก๊สน้ำตาหลายชนิด ทั้งลูกสีเทาแบบขว้างจะทำให้เกิดควัน กระบอกสีเงิน ขว้างแตกบนอากาศเป็นฝุ่นลงมา ชนิดผสมน้ำเป็บแบบใหม่ใช้ผสมแล้วฉีด ตนเองทดสอบด้วยตนเองว่าไม่เกิดอันตราย โดยให้ลูกน้องฉีดใส่เข้าไปแสบตาอยู่ สักครู่เท่านั้นแต่ต้องออกไปจากบริเวณนั้นไม่สามารถทนได้

พ.ต.อ .ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.กก.1 บก.อคฝ. อธิบายว่า แก๊สน้ำตาที่นำมาใช้มี 3 ชนิดคือ แบบขว้างลักษณะคล้ายกระป๋องทำให้เกิดควันฟุ้งกระจาย แบบแป้งฝุ่น และ แบบสารเคมีใส่สีผสมน้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุมโดยใช้รถดับเพลิงขนาดใหญ่ หรือ รถจีโน่ เมื่อถูกผู้ชุมนุมจะรู้สึกแสบร้อนเหมือนโดนแก๊สน้ำตา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ผสมแก๊สน้ำตาชนิดน้ำลงไปในรถ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอเมริกา ส่วนน้ำที่มีสีม่วงใช้สำหรับควบคุมฝูงชนนั้น เป็นการใช้สีผสมลงไปเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความกลัว และสีดังกล่าวยังล้างออกยากเมื่อถูกตามร่างกาย โดยเป็นหนึ่งในยุทธวิธีของตำรวจ ในการแบ่งแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไป เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้ง่ายขึ้น โดยใช้ทั่วไปในต่างประเทศมีหลากหลายสี ที่นิยมคือ ม่วง น้ำเงิน เขียว

ต่อมาเมื่อมีการใช้งานรถฉีดน้ำแรงดันสูง ก็มีการนำเอาน้ำสีม่วงฉีดผู้ชุมนุม ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการใช้งานอุปกรณ์ และน้ำสีม่วงเพื่อสกัดกลุ่มผุ้ชุมนุมในประเทศไทย โดยหลังจากที่มีการใช้ก็มีรายงานว่าผู้ชุมนุมที่เข้าประชิดแนวของเจ้าหน้าที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฎ์ และ ที่แยก พล.1 หน้า บช.น. ถูกฉีดสกัดด้วยน้ำสีม่วงเกิดอาการเป็นผื่นแดง ระคายเคือง แสบตา เหมือนถูกแก๊สน้ำตา ทำให้เกิดคำถามว่า เจ้าหน้าที่ใช้สารเคมีอะไรฉีดมายังผุ้ชุมนุม อันตรายหรือไม่ เป็นสารอะไร

ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ห้องหว้ากอ ได้หาคำตอบของ "น้ำสีม่วง" ที่ ตร.ใช้ฉีดผู้ชุมนุมไว้ในกระทู้ "สเปรย์สีม่วงๆที่ตำรวจพ่นใส่ม็อบมันคืออะไรหรือครับ"  (//pantip.com/topic/31328572) ว่า เป็นน้ำผสมสีเพื่อใช้ในการจำแนกผู้ชุมนุม ดังเช่นที่ พ.ต.อ.ณัฐพล อธิบายไปก่อนหน้านี้

ด้านความเห็นของนักวิชาการ พญ.ฉันทนา ผดุงทศ นักวิชาการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่าว่า จากการสอบถามข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ และการค้นหาข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา(ซีดีซี) และองค์กรอาวุธเคมีระดับสากล เกี่ยวกับน้ำสีม่วงที่ใช้ฉีดพ่นผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่ของ กทม. ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเชื่อว่าเป็นการนำน้ำผสมแก๊สน้ำตานั้น ในความเป็นจริง "น้ำสีม่วง" เป็นสารเคมีที่มีสี ใช้ในการสลายการชุมนุมเพื่อให้ระบุตัวผู้ชุมนุมได้ง่าย เนื่องจากสีจะติดตามตัวและเสื้อผ้าทำให้ล้างออกได้ยาก

สารเคมีที่ใช้ผสมเป็นน้ำสีม่วง คือ โปแตสเซียเปอร์แมงกาเนต (Potassium permanganate) หรือ ด่างทับทิม ที่ใช้ละลายน้ำแช่ผักผลไม้ตามบ้าน ผสมกับโซเดียมไธโอซัลเฟต (Sodium thiosulphate) เพื่อให้สามารถฉีดพ่นได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สารเคมี 2 ชนิดนี้ เมื่อทำปฏิกิริยากันแล้ว จะทำให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือ กรดกัมมะถันแบบเดียวกับฝนกรด ที่มีฤทธิ์ทำให้ผู้ที่สัมผัสกับสารนี้ เกิดอาการระคายเคืองเยื่อบุตา ทางเดินหายใจ และเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำ ก็จะกลายเป็นกรดกำมะถันอ่อนๆ ที่มีค่า Ph ประมาณ 6.5-6.9 เป็นเหตุให้ผู้ถูกน้ำสีม่วงจะมีอาการแสบคันตามผิวหนังได้ ข้อแนะนำ คือ ถ้าโดนน้ำสีม่วงต้องล้างน้ำ หรือ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนออก

ทั้งนี้ สิ่งที่คาใจประชาชน คือ ตกลงแล้วน้ำสีม่วงมีการผสมแก๊สน้ำตาหรือไม่ เพราะถ้ามีการผสมแก๊สน้ำตาแบบเหลวนั้นได้รับการพิสูจน์หรือยังว่าปลอดภัย และไม่มีอันตรายไปมากกว่าการระคายเคือง หรือ แสบร้อน รวมทั้งอัตราส่วนในการผสมน้ำสีม่วงประชาชนจะมั่นใจได้แค่ไหนว่า ตำรวจจะไม่ผสมสารจนเข้มข้นเกินกว่าที่กำหนดว่าปลอดภัย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงต้องชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง.




Create Date : 04 ธันวาคม 2556
Last Update : 4 ธันวาคม 2556 14:05:16 น. 0 comments
Counter : 1230 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.