“หลายอย่างในโลกนี้ประกอบด้วยความผิดพลาดหลายประการ จนสะดุดความสมบูรณ์เข้าสักวัน”
       
       ส่วนหนึ่งจากคำนำของหนังสือเล่มนี้... “ช่างถ่ายพลาด”
       
       ที่สมบูรณ์ด้วย “ภาพถ่ายพลาด” ของ "ช่างภาพ" ผู้ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพแต่ละภาพมาได้ด้วยความบังเอิญ และพลาดพลั้ง มากกว่าด้วยความตั้งใจ
       
       “เราเป็นคนชอบถ่ายภาพ แต่ไม่เคยจริงจังกับการถ่าย ดังนั้นการถ่ายของเราในแต่ละครั้งมันเหมือนการผิดพลาด
       
       และถ้าเมื่อไหร่เรามีความตั้งใจ ภาพมันมักจะออกมาดูเกร็ง ดูไม่มีชีวิต แต่พอเราถ่ายด้วยความเผลอ พลาดพลั้ง หรือด้วยความบังเอิญ ภาพมันจะออกมามีชีวิตกว่าที่ตั้งใจ
       
       พอภาพถ่ายแต่ละภาพมารวมอยู่ในหนังสือ ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า จะตั้งชื่อหนังสือว่าอย่างนี้ดีกว่า เพราะแต่ภาพที่เราได้มา มันไม่ได้ตั้งใจที่จะถ่าย”
       
       ช่างถ่ายพลาดท่านนี้ เป็นคนเดียวกับ ชุมพล อักพันธานนท์ เจ้าของ "บ้านศิลปิน" แห่งคลองบางหลวง ที่เพิ่งออกมาเคลื่อนไหว เพื่อร่วมทวงคืน “พลังงานไทย” และ เจ้าของนิทรรศการภาพเขียน ที่เพี้ยนมาจากใจ ซึ่งจัดแสดงไปเมื่อปีก่อน ณ Dialogue Coffee and Gallery
       
       ในด้านหนึ่งเป็นคนที่รักการทำหนังสือ ฝันอยากจะทำหนังสือเด็กที่ดี มีคุณภาพ
       
       “ผมไม่เรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียน แต่เป็นคนอยากทำหนังสือ เพราะงานส่วนหนึ่งที่เราทำที่บ้านศิลปิน คลองบางหลวง เราปลูกฝังไม่ให้เด็กทิ้งขยะลงน้ำ มันก็เลยเชื่อมต่อมาที่การทำหนังสือ เพราะเราอยากจะใช้มันเป็นสื่อที่ปลูกฝังเด็กอีกทางหนึ่ง”
       
       ความสนใจใคร่เรียนรู้ขั้นตอนในการทำหนังสือ จึงชักนำให้เขาเดินทางไปร่วมงาน แฟรงค์เฟิร์ต บุ๊คแฟร์ (Frankfurt Book Fair)งานหนังสือระดับโลกที่เยอรมัน
       
       “งานบุ๊คแฟร์ไม่คิดเลยว่าต่างจากภาพที่นึกไว้ เป็นงานที่นักเขียน นักเขียนภาพประกอบ ศิลปินที่มีงานเกี่ยวกับกันงานหนังสือมารวมตัวกัน ณ ที่นี้ มีการเก็บค่าเข้าชมประมาณ 1,200 บาทต่อคนในแต่ละวัน โดยส่วนมากมีการมาพบกัน เพื่อซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือเป็นส่วนใหญ่ ภายในงานน่าเดินทุกวัน ผมเดินทุกวันไม่เคยเบื่อเลย มีบู๊ทถึง 7,000 บุ๊ท ดูทุกวันยังไม่หมดเลย
       
       น่ารักตรงไม่มีประกาศขายหนังสือแบบบ้านเราเลย ทุกคนที่เดินชมมีสมาธิและได้บรรยากาศอย่างแท้จริงต ามภาพที่เห็นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง มีภาพเยอะมากแต่กลัวคุณเบื่อ เลยเอาแค่นี้ก่อน”
       
       ภาพบรรยากาศของงาน ที่เราหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ไปสัมผัส ถูกคัดสรรมารวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้ รวมถึงภาพถ่ายพลาดภาพอื่นๆ ที่บันทึกมาจากอีกหลายๆเมืองของเยอรมัน
       
       สำหรับเขามันไม่ใช่ทั้งหนังสือรวมภาพถ่าย หรือแม้แต่หนังสือคู่มือท่องเที่ยวเยอรมัน แต่คือหนังสือทางเลือก เป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ที่ผู้เป็นเจ้าของดูแลเองทุกกระบวนการ นับตั้งแต่การเลือกกระดาษ กระทั่งเข้าโรงพิมพ์
       
       แต่ก่อนจะมาเป็นหนังสือ ภาพเคยถูกนำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการภาพถ่ายเล็กๆที่ ร้านหนังสือเดินทาง ถนนพระสุเมรุ
       
       จนมีผู้ชมบางรายประสงค์ให้เขารวมออกมาเป็นเล่ม เพราะต้องการสั่งซื้อไปแจกลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากนิทรรศการเล็กๆครั้งนั้น จึงพลาดพลั้งมาสู่การรวมเล่มในที่สุด
       
       หลายภาพในหนังสือ ที่มีคำบรรยายใต้ภาพให้อ่านอยู่เป็นระยะๆ ทำให้ใครบางคนอาจหวนนึกถึง "ภาพของฉัน ฝันของเธอ" หนังสือรวมภาพถ่ายและถ้อยคำของเขาที่พิมพ์ออกมาเมื่อหลายปีก่อน รวมไปถึง ภาพโปสการ์ดจากภาพถ่าย ที่เคยพิมพ์ออกมาจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์เพียง 3 ใบ 10 บาท ในช่วงเวลาที่กระแสความนิยมในการส่งโปสการ์ดมีสูง และมีราคาแพง เมื่อกว่า 20 ปีก่อน
       
       “เราชอบโปสการ์ดไง และได้ ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่มาไม่ซ้ำที่กัน ถ่ายภาพกลับมาได้ ก็เอามาพิมพ์เป็นโปสการ์ด ต้นทุนใบนึงไม่ถึงบาท ขายในราคา 3 ใบ 10 บาทก็หรูแล้ว ได้กำไรเยอะแล้ว และขายดีมาก
       
       แล้วเวลาไปนั่งขายคนก็มักจะถามว่าไปถ่ายรูปนี้มาจากไหน บอกจนเมื่อยปาก ต่อมาก็เลยมีข้อความบรรยายอยู่ในภาพด้วย จนกลายเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของโปสการ์ดที่เราพิมพ์ขาย ที่นอกจากจะราคาถูกแล้ว ก็ยังมีคำบรรยายที่อาจไปโดนใจคนซื้อ”
       
       ด้วยเหตุที่ “ช่างถ่ายพลาด” โดนใจใครหลายคน ART EYE VIEW จึงพลาดพลั้งหยิบมานำเสนอในวาระนี้
       
       แม้เขาจะแอบบอกไว้ในเล่มว่า "การเรียนรู้กัน สำคัญกว่าการอ่านหนังสือ"

 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ