ประกาศ

ตั้งแต่เสาร์ที่ 10 ถึงอังคารที่ 13 ไม่อยู่ประจำการบล็อกนะคะ

ลากิจกลับบ้านไปนอนกอดแม่ค่ะ (เป็นกิจอันสำคัญเชียวนะนี่)

คิดถึงทิ้งข้อความไว้ ติดต่อได้จะรีบไปหาโดยพลันค่า






นิยายเกี่ยวกับนิทานเกี่ยวกับครอบครัวและความรักที่เกี่ยวกับความฝันอีกที(นี่คือวลีโปรยบนปกหนังสือเล่มนี้)
ผู้เขียน องอาจ ชัยชาญชีพ
สำนักพิมพ์ เป็ดเต่าควาย
ราคาปก 150 บาท

หลายคนอาจรู้จักเขาจากหนังสือชุด “หัวแตงโม” เรื่องราวประกอบลายเส้นสะดุดต่อมคิด

หากแต่เรารู้จักเขาเป็นครั้งแรกจากหนังสือเรื่อง “หมูบินได้”


หนังสือเล่มที่เรียกได้ว่าเป็น First Impression ที่ทำให้เราจดจำนักเขียนคนนี้ได้ในทันที เป็นหนังสืออีกเล่มที่อยากให้คนอ่านหนังสือทุกคน คนมีฝันทุกคนได้อ่านค่ะ

สนใจอ่านรีวิวหมูบินได้ เรียนเชิญที่บล็อกของคุณยาคูลท์ที่นี่ค่ะ


ต่อมาเมื่อตามๆ งานของนักเขียนคนเดียวกัน กับชุดหัวแตงโม ก็ทำให้เรารู้สึกว่านักเขียนคนนี้น่าสนใจจริงๆ คือเป็นนักเขียนที่สื่อเรื่องหนักๆ น่าชวนขบคิดให้มาอยู่ในรูปแบบของลายเส้นการ์ตูนแบบทำให้คนอ่านเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย – ซึ่งสำหรับเรามันแสดงถึงการ “ตกตะกอน” ทางความคิดของเจ้าตัวได้ดีพอสมควรเลยค่ะ


จนล่าสุดเมื่องานหนังสือที่ผ่านมาก็หยิบ “ปีศาจหัวโต” มาจากบู๊ทของนายอินทร์ – แน่นอน เพราะชื่อคนเขียนเป็นหลัก (และเล่มนี้เป็นเล่มแรกของนักเขียนคนนี้ที่เราได้อ่านแล้วมันไม่ใช่การสื่อด้วยภาพลายเส้นการ์ตูน)

จริงๆ แล้วเราอ่านจบตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วค่ะ แต่พอดียังติดพันกับการรีวิวอิตาลีก็เลยยังไม่ได้หยิบเล่มนี้มารีวิวให้อ่านกัน




เนื้อเรื่อง (สปอยล์นิดหน่อย)

ปีศาจหัวโตเป็นเรื่องของปีศาจตนหนึ่งที่ปรารถนาและใฝ่ฝันจะออกไปสร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าใครๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อของเค้าเอง – ผู้ซึ่งปีศาจหัวโตถึงขั้น “ดูถูก”) ระหว่างการเดินทางมีเรื่องราวต่างๆ ที่สามารถสอนปีศาจหัวโตได้มากมาย หากแต่เจ้าตัวก็ยังไม่โตพอที่คิดได้ จนกระทั่งปีศาจหัวโตได้ไปเจอกับปลาคาร์พแสนสวยผู้มีชีวิตอันอุดมสมบูรณ์ แสนดีแต่ว้าเหว่เหลือหลาย ทั้งสองก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แล้วตัดสินใจที่จะเดินทางไปด้วยกัน


ส่วนหนึ่งของการบรรยายถึงวิธีคิดของสาวปลาคาร์พ

เธอยอมที่จะทนทุกข์เพราะความโดดเดี่ยวดีกว่าที่จะเจ็บช้ำเพราะถูกรังเกียจจากผู้อื่น เพราะเธอรู้ว่ามันจะนำไปสู่สิ่งที่เธอหวาดกลัวที่สุด คือทำให้ตัวเธอ

กลายเป็นผู้ที่เกลียดชังและเจ็บแค้นสังคม

เธอยอมถูกสังคมทำร้ายมากกว่าที่จะให้ตนเองมีจิตใจที่ชั่วร้าย


ท้ายที่สุดชีวิตการเดินทางก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง จนมีเหตุให้ทั้งคู่ก็ต้องแยกทางกัน ปีศาจหัวโตได้ไปพบกับความจริงของการสร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ว่ามันต้องแลกด้วยอะไรบ้าง (แล้วคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเสีย เพราะสำหรับบางคนก็ยินดีแลก อ่านถึงตรงนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่อง เฮอร์คิวลิสเลยอะค่ะ) ได้รู้ความจริงที่ทำให้เขาต้องอึ้งเกี่ยวกับคนบางคนที่สำคัญต่อเขา ส่วนเรื่องราวระหว่างเขากับปลาคาร์พแสนสวยอันเป็นที่รักคนเขียนเลือกที่จะจบแบบไม่จบ (ซึ่งเราชอบมาก)


…ชีวิตคนเราล้วนมีวิถีทางที่แตกต่าง ทุกคนต่างเป็นผู้เลือก ไม่มีใครหรอกที่ไม่มีสิทธิ์เลือก การไม่มีทางเลือกเป็นแค่คำอ้างของความขี้ขลาดที่จะยอมรับสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจไปแล้วต่างหาก...

...บทเรียนบางอย่างมันเจ็บปวดไม่คุ้มค่าพอที่จะเรียนรู้มันด้วยตนเอง...




ความรู้สึกที่ได้อ่าน

เป็นหนังสือที่อ่านง่าย แต่ได้แง่คิดมากมายค่ะ หนังสือจบแต่เราไม่จบด้วยน่ะ ได้คิดต่อ ขณะที่ “หมูบินได้” (แนะนำจริงๆ นะ ใครไม่เคยอ่านอยากให้อ่านกันค่ะ) เรารู้สึกว่าหนังสือจบแบบมีความหวังให้มีกำลังจะฝันต่อ ที่จะสู้กับความฝันของตัวเองต่อ หนังสือเล่มนี้กลับทำให้เรารู้สึกถึง “โลกแห่งความเป็นจริง” มากกว่า “โหด” มากกว่า (สีแดงต่อไปนี้สปอยล์) แล้วการจบก็ไม่ใช่สูตรในนิทานแบบ “แล้วเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป” หรือ “ในที่สุดเขาก็กลายเป็นตำนานของเหล่าปีศาจหัวโต” หรืออะไรเทือกๆ นั้นเลยค่ะ (ซึ่งคงต้องไปหาคำตอบกันเองนะคะ ว่าคนเขียนเลือกให้เรื่องเป็นแบบไหน) หมดสปอยล์


ก็เลยรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ “โต” กว่าหนังสือเรื่อง “หมูบินได้” ค่ะ



ดังนั้นขอแนะนำสำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือแนวนี้ (เข้าถึงง่าย แต่คิดได้เยอะ) นะคะ แต่แนะนำว่าให้อ่าน “หมูบินได้” ก่อนก็ได้ค่ะ (เพราะหมูบินได้น่าจะสร้างความประทับใจให้ได้ง่ายกว่า) แล้วถ้าชอบก็ลองอ่านเล่มนี้อีกเล่มนะคะ




ขอบคุณทุกท่านสำหรับการแวะมาอ่านนะคะ




สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก
(หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม)

เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ