เรื่องที่ถูกเล่าขานและน่าสนใจถึงประวัติการถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่า ภาพจากอินเตอร์เนท เป็นเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมชาวพุทธของชาวพม่า ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติ โดยไม่เลือกชั้น วรรณะ หรือเผ่าพันธุ์ คือ ประเพณีการถอดรองเท้าเข้าวัด รวมถึงถุงเท้า และถุงน่องก็ห้ามใส่ชาวพม่าจะถือเคร่งครัดมาก ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หากเป็นนักท่องเที่ยวเผลอสวมรองเท้าเดินเข้าเขตวัด เขาจะร้องทัก ตักเตือน ให้ถอดทันที โดยไม่ดูดาย เพราะถือว่า เป็นหน้าที่ของเขาที่จะรักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้ มีเรื่องเล่าว่า...เมื่อสมัยอังกฤษปกครองพม่า ข้าหลวงอังกฤษได้แวะเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากอง โดยไม่ยอมถอดรองเท้า ด้วยถืออำนาจว่าตนเป็นผู้ปกครอง แต่ชาวพม่าไม่ยอม ทางฝ่ายข้าหลวงก็ยังยืนยันความคิดเดิมของตัว เป็นเหตุให้ชาวพม่าจำนวนหมื่นกว่าคน พากันมานอนคว่ำอยู่ตามบันไดที่จะเดินขึ้นสู่องค์พระเจดีย์ ตลอดจนลานเจดีย์ชเวดากองเต็มไปหมดไม่เห็นพื้นเลยหากข้าหลวงอังกฤษจะขืนสวมรองเท้าขึ้นไปจริงๆ พื้นรองเท้าจะไม่มีโอกาสสัมผัสพื้นได้เลย ต้องเหยียบร่างของชาวพม่าไปก่อน ชาวพม่าถือว่า แม้ว่าประเทศของตนจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษแต่สิ่งที่ชาวพม่ายอมไม่ได้ คือ การถูกย่ำยีพระพุทธศาสนา เพราะนั่นหมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพุทธพม่า เรียกได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของการรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในแผ่นดินพม่า ทำให้ข้าหลวงและทหารอังกฤษยอมถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่า และถือได้ว่า เป็นชัยชนะทางวัฒนธรรม ที่ชาวพม่าภูมิใจบอกเล่าเรื่องราวจากบรรพบุรุษทุกๆ เช้า เริ่มต้นวันสว่างตั้งแต่เวลาตี 4 ทั้งพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และชาวพม่า จะเดินทางออกจากบ้าน มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ บูชาพระเจดีย์ และช่วยกันปัดกวาด ทำความสะอาดพระเจดีย์ ซึ่งคนจะมากันมาก ในช่วงเช้ามืดก่อนไปทำงาน กับช่วงเย็นเวลาหลังเลิกงานตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเวลา 3 ทุ่ม ชาวพม่าจะมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เหมือนช่วงเช้ามืดพอเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จะมีหนุ่มสาวชาวพม่าจำนวนมาก มาช่วยกันกวาดถู ทำความสะอาดพระเจดีย์ กวาดกันเป็นทิวแถว อย่างพร้อมเพรียงกัน เวลาของการทำความสะอาดพระเจดีย์จะเป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน ที่ทุกคนรอคอยจะเก็บบุญสุดท้ายก่อนกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน โดยทุกคนจะเอาไม้กวาดและผ้ามาเอง ทำกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถึงเวลานอน ชาวพม่าจะหันศีรษะไปทางทิศที่เจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่ เพื่อทำความเคารพและบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่องที่ถูกเล่าขานและน่าสนใจถึงประวัติการถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่าบล็อกนี้ปลอด โหวต นะขอรับ (คือว่า ไม่ต้องโหวต งงๆฮ่า) Create Date :28 ตุลาคม 2557 Last Update :28 ตุลาคม 2557 6:57:44 น. Counter : 1163 Pageviews. Comments :14 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก แวะมาเยี่ยมและอ่านเรื่องเกี่ยวกับเมียนม่าร์ที่น่าสนใจค่ะท่านขุน โดย: ดอยสะเก็ด 28 ตุลาคม 2557 8:02:29 น.สวัสดีค่ะท่านขุนเป็นชัยชนะทางวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมค่ะผิดกับประเทศติด ๆ กันนะคะมีข่าวเชิงลบอยู่บ่อย ๆ น่ะค่ะ ไม่น่าชื่นชมเลย โดย: เนินน้ำ 28 ตุลาคม 2557 8:30:02 น.เป็นที่น่าชื่นชมในความรักพระพุทธศาสนาของเขาไม่เหมือนมารศาสนาบ้านเรา ปลอมเป็นพระก็ทำนะ โดย: หอมกร 28 ตุลาคม 2557 8:34:36 น.สวัสดีค่าท่านขุนประวัติน่าสนใจมาก ๆ ค่ะอ่านแล้วรู้สึกชื่นชมกับวัฒนธรรมแบบนี้ของประเทศพม่าค่ะ โดย: Close To Heaven 31 ตุลาคม 2557 21:43:57 น.สวัสดีค่ะท่านขุนแวะมาเยี่ยมและอ่านเรื่องการถอดรองเท้าเข้าวัดของพม่าขอบคุณเรื่องราวดีๆ โดย: pantawan 31 ตุลาคม 2557 21:54:03 น. โดย: เตยจ๋า 1 พฤศจิกายน 2557 22:53:39 น.สวัสดีค่ะท่านขุนฯตายๆๆๆๆ เอ้ย.. ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ายังไม่ตาย ยังไม่ตาย ยังไม่ตายสิเน๊าะถึงจะถูก.. ฮ่าๆๆหลายเดือนมานี้เราไม่ได้เข้าบล็อกเลยค่ะ รวมทั้งไม่ค่อยได้เข้าพันทิปด้วยก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนานๆเข้ามาทีหรือเปล่า ทำให้ล็อกอินที่เราล็อกอินทิ้งไว้หลุดไปเราขี้เกียจล็อกอินเข้าใช้งานอีก เพราะเข้ามาก็ได้แต่อ่านผ่านๆ ไม่ได้ตอบกระทู้อะไรแล้ว(ขี้เกียจใช้สมอง.. ฮ่าๆๆ) เคยเข้ามาแล้วเจอบล็อกของท่านขุนฯในบางห้องด้วยนะ แต่อ่านแล้วเม้นต์ไม่ได้ เพราะติดที่ * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก.. อิ อิ อิวันนี้ตั้งใจเข้ามาล็อกอินเพื่อจะมาส่งข่าวท่านขุนฯนี่แหละว่าเราจะปลีกวิเวกเป็นเวลานาน 3 เดือนอีกแล้ว พอโผล่เข้าไปที่บล็อกถึงได้เห็นว่าท่านขุนฯได้แวะไปเยี่ยมเราตั้ง 2-3 ครั้งแล้วต้องขออภัยจริงๆค่ะ..เม้นต์นี้ท่านขุนฯไม่ต้องตามกลับไปเม้นต์ที่บล็อกเรานะคะ เอาไว้ให้เรากลับมาจากปลีกวิเวกแล้วเราจะแวะมาเม้นต์คืนท่านขุนฯให้ครบทั้งสามเม้นต์ หลังจากนั้นท่านขุนฯค่อยแวะไปเริ่มต้นเม้นต์ใหม่.. ฮ่าๆๆพบกันใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าค่ะขอให้ท่านขุนฯมีความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ.. โดย: คนร่วมชายคา 2 พฤศจิกายน 2557 4:45:02 น.สวัสดีค่า คุณท่านขุน ^^ไม่ได้มานานเลย T Tสบายดีนะคะประวัติการถอดรองเท้าเข้าวัดเคร่งครัดเหมือนบ้านเราเลยแต่บ้านเราเคร่งเรื่องห้ามใส่รองเท้าเข้าโบสถ์แต่ภายในวัดใส่ได้พม่าไม่ได้เลยนี่หมายถึงตั้งแต่หน้าวัดเลยเหรอคะเพิ่งรู้ค่ะขอบคุณมากๆนะคะ โดย: lovereason 3 พฤศจิกายน 2557 2:20:14 น.กะโหวต แต่งง ๆ จริงๆ นะคะ อิ อิ ไว้ตามอ่านอีกค่าพี่ขุน โดย: mariabamboo 3 พฤศจิกายน 2557 17:52:59 น.การที่พระพุทธศาสนาถูกย่ำยี หมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพุทธพม่าเพราะความรักในศาสนานั่นเองทำให้เกิดความร่วมใจกันขนาดนี้นะคะขอบคุณสำหรับความรู้นี้ค่ะท่านขุนฯขอบคุณท่านขุนฯสำหรับกำลังใจด้วยนะคะสวัสดีวันอังคารค่ะ โดย: Sweet_pills 4 พฤศจิกายน 2557 7:54:00 น.สวัสดีค่ะท่านขุน ไม่ได้คุยกันนานมากกกกก ท่านขุนสบายดีนะคะท่านขุนจะกลับมาอยู่แถวบาวาเรียเหรอคะ ดีจังเลยค่ะ ว่างๆก็ขึ้นมาเที่ยวทางเหนือบ้างนะคะน่าชื่นชมกับการปกป้องพระพุทธศาสนาของชาวพม่ามากๆเลยค่ะ จะสูงหรือต่ำก็ต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ บ้านเราน่าจะเอาอย่างบ้างนะคะขอบคุณท่านขุนนะคะที่แวะไปโหวตให้ โดย: ปลาทอง9 5 พฤศจิกายน 2557 0:36:47 น.งั้นไม่โหวตค่ะ โดย: tuk-tuk@korat 5 พฤศจิกายน 2557 16:11:30 น.แวะมาเยี่ยมค่ะรออัพบล็อคค่ะ โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2557 23:25:41 น.แวะมาเยี่ยมค่ะรออัพบล็อคค่ะ โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2557 23:26:33 น.
โดย: ดอยสะเก็ด 28 ตุลาคม 2557 8:02:29 น.
เป็นชัยชนะทางวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมค่ะ
ผิดกับประเทศติด ๆ กันนะคะ
มีข่าวเชิงลบอยู่บ่อย ๆ น่ะค่ะ ไม่น่าชื่นชมเลย
โดย: เนินน้ำ 28 ตุลาคม 2557 8:30:02 น.
ไม่เหมือนมารศาสนาบ้านเรา ปลอมเป็นพระก็ทำนะ
โดย: หอมกร 28 ตุลาคม 2557 8:34:36 น.
ประวัติน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกชื่นชมกับวัฒนธรรมแบบนี้ของประเทศพม่าค่ะ
โดย: Close To Heaven 31 ตุลาคม 2557 21:43:57 น.
แวะมาเยี่ยมและอ่านเรื่องการถอดรองเท้าเข้าวัดของพม่า
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ
โดย: pantawan 31 ตุลาคม 2557 21:54:03 น.
โดย: เตยจ๋า 1 พฤศจิกายน 2557 22:53:39 น.
ตายๆๆๆๆ เอ้ย.. ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ายังไม่ตาย ยังไม่ตาย ยังไม่ตายสิเน๊าะถึงจะถูก.. ฮ่าๆๆ
หลายเดือนมานี้เราไม่ได้เข้าบล็อกเลยค่ะ รวมทั้งไม่ค่อยได้เข้าพันทิปด้วย
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนานๆเข้ามาทีหรือเปล่า ทำให้ล็อกอินที่เราล็อกอินทิ้งไว้หลุดไป
เราขี้เกียจล็อกอินเข้าใช้งานอีก เพราะเข้ามาก็ได้แต่อ่านผ่านๆ ไม่ได้ตอบกระทู้อะไรแล้ว(ขี้เกียจใช้สมอง.. ฮ่าๆๆ)
เคยเข้ามาแล้วเจอบล็อกของท่านขุนฯในบางห้องด้วยนะ แต่อ่านแล้วเม้นต์ไม่ได้ เพราะติดที่ * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก.. อิ อิ อิ
วันนี้ตั้งใจเข้ามาล็อกอินเพื่อจะมาส่งข่าวท่านขุนฯนี่แหละว่าเราจะปลีกวิเวกเป็นเวลานาน 3 เดือนอีกแล้ว
พอโผล่เข้าไปที่บล็อกถึงได้เห็นว่าท่านขุนฯได้แวะไปเยี่ยมเราตั้ง 2-3 ครั้งแล้ว
ต้องขออภัยจริงๆค่ะ..
เม้นต์นี้ท่านขุนฯไม่ต้องตามกลับไปเม้นต์ที่บล็อกเรานะคะ
เอาไว้ให้เรากลับมาจากปลีกวิเวกแล้วเราจะแวะมาเม้นต์คืนท่านขุนฯให้ครบทั้งสามเม้นต์ หลังจากนั้นท่านขุนฯค่อยแวะไปเริ่มต้นเม้นต์ใหม่.. ฮ่าๆๆ
พบกันใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าค่ะ
ขอให้ท่านขุนฯมีความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ..
โดย: คนร่วมชายคา 2 พฤศจิกายน 2557 4:45:02 น.
ไม่ได้มานานเลย T T
สบายดีนะคะ
ประวัติการถอดรองเท้าเข้าวัดเคร่งครัดเหมือนบ้านเราเลย
แต่บ้านเราเคร่งเรื่องห้ามใส่รองเท้าเข้าโบสถ์แต่ภายในวัดใส่ได้
พม่าไม่ได้เลยนี่หมายถึงตั้งแต่หน้าวัดเลยเหรอคะ
เพิ่งรู้ค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ
โดย: lovereason 3 พฤศจิกายน 2557 2:20:14 น.
โดย: mariabamboo 3 พฤศจิกายน 2557 17:52:59 น.
เพราะความรักในศาสนานั่นเองทำให้เกิดความร่วมใจกันขนาดนี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับความรู้นี้ค่ะท่านขุนฯ
ขอบคุณท่านขุนฯสำหรับกำลังใจด้วยนะคะ
สวัสดีวันอังคารค่ะ
โดย: Sweet_pills 4 พฤศจิกายน 2557 7:54:00 น.
ท่านขุนจะกลับมาอยู่แถวบาวาเรียเหรอคะ ดีจังเลยค่ะ ว่างๆก็ขึ้นมาเที่ยวทางเหนือบ้างนะคะ
น่าชื่นชมกับการปกป้องพระพุทธศาสนาของชาวพม่ามากๆเลยค่ะ จะสูงหรือต่ำก็ต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ บ้านเราน่าจะเอาอย่างบ้างนะคะ
ขอบคุณท่านขุนนะคะที่แวะไปโหวตให้
โดย: ปลาทอง9 5 พฤศจิกายน 2557 0:36:47 น.
โดย: tuk-tuk@korat 5 พฤศจิกายน 2557 16:11:30 น.
รออัพบล็อคค่ะ
โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2557 23:25:41 น.
รออัพบล็อคค่ะ
โดย: pantawan 5 พฤศจิกายน 2557 23:26:33 น.