bloggang.com mainmenu search




จริงๆอ่านเรื่องของ น้อง"บรู๊คลิน เบ็คแฮม" มาหลายครั้ง และก้อเป็นปลื้มทุกครั้งที่อ่าน เพราะมันทำเกิดความคิดที่ทำให้ต้องย้อนกลับมองลูกหลานของเรา คนในครอบครัว เด็กเล็กๆและญาติๆ ตลอดถึงว่านเครือพี่น้องไปถึงคนใกล้ตัว...เจอมากับตัวเองบ้างหรือมีตัวอย่างได้ดู สำหรับเรื่องของน้องเค้า ออกดังมากๆ คิดว่าหลายท่านคงได้อ่านกันมามากพอควร...แต่ก็ขอนำมาลงอีกครั้ง...ตามคติที่ว่า...หนังดีต้องเข้าฉายหลายรอบ....




เด็กชายรูปซ้ายมือคนนี้ชื่อ "บรู๊คลิน เบ็คแฮม" ทำงานร้านกาแฟ ได้เงินชั่วโมงละ ๑๕๐ บาท ถ้าเด็กคนนี้ เป็นลูกคนทั่วไป ก็เป็นเรื่องน่าชื่นชม ที่รู้จักทำมาหากินนอกเวลา(เรียน) เพราะเป็น"เรื่องปรกติ" ที่เด็กฝรั่ง เด็กญี่ปุ่น และเด็กหลายประเทศจะ "หาเงินเอง" ในช่วงปิดเทอม


แต่เด็กคนนี้ ขออนุญาตเขียนถึง เพราะพ่อกับแม่เขาคือ เดวิดและวิคตอเรีย เบ็คแฮม

พ่อเคยเป็นนักเตะชื่อดังของแมนฯ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ กาแล็กซี่ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมทั้งเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ส่วนแม่ เคยเป็นนักร้อง แห่งสไปซ์เกิร์ล วงดนตรีชื่อดังเมื่อหลายปีก่อนของอังกฤษ


ครอบครัว "เบ็คแฮม" มีทรัพย์สินประมาณ ๔๗๐ ล้านปอนด์ (ประมาณ ๒๕,๘๕๙ ล้านบาท) ซึ่ง "มากกว่า" ควีนอลิซาเบ็ธที่๒ แห่งอังกฤษ ซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ที่ ๓๔๐ ล้านปอนด์ (ประมาณ ๑๘,๗๐๙ ล้านบาท) แต่ครอบครัวนี้ก็ยังให้ “ลูก" ไปทำงานหาเงิน(เอง)ทุกวันนี้


“บลู๊คลินทำงานอยู่ร้านกาแฟในลอนดอน ทำงานที่คาเฟ่ได้ ๒ ปีแล้ว มีหน้าที่ล้างถ้วยล้างชาม ซึ่งคิดว่าแบบนี้ก็ดีนะ เพราะฉันและเดวิดต่างก็ทำงานหนักมาก และลูกๆ ก็เป็นทุกอย่างสำหรับเรา และเราคิดว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงาน หรือการพยายามช่วยเหลือคนอื่น" วิคตอเรียกล่าวในรายการ The Ellen DeGeneres Show ขณะที่คุณพ่อบอกว่าดีใจมากที่ลูก "รู้จักทำงาน"


"คุณน่าจะรู้นะว่า เด็กๆ น่ะ อยากได้โน่น อยากได้นี่กันเยอะแยะ อย่างลูกของผมเนี่ย เขาอยากได้รองเท้าใหม่บ้าง อยากได้รองเท้าเตะบอลบ้างและพอเขาอายุ ๑๔ ผม และวิคกี้(วิคตอเรีย) ก็เลยคิดตรงกันว่า หากลูกอยากได้อะไร ลูกก็ควรจะรอทำงานเพื่อเก็บเงิน และใช้จ่ายด้วยเงินที่ตัวเองหามาได้" เดวิดให้สัมภาษณ์รายการ Late Late Show และว่า "ทุกวันนี้ เขาก็ยังคงทำงานที่ร้านกาแฟนั้นนะ ผมไปส่งเขาทุกวันเสาร์ มีบางอาทิตย์ที่เขาไปทำงานทั้งเสาร์อาทิตย์ เรียกได้ว่า เขาเก็บเงินได้ดีทีเดียว นี่ผมได้ยินเขาชักชวนน้องชายไปทำงานพิเศษกับเขาด้วย"


พ่อแม่ของน้องคนนี้รวยมากๆ แต่เขาสอนให้ลูกหาเงิน อยากซื้อของที่อยากได้ก็ให้ทำงานหาเงินซื้อเอง ทำให้น้องคนนี้รู้คุณค่าของเงินว่ากว่าจะหามาได้ต้องใช้ความมานะพยายามอดทนอดกลั้น มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เมื่อโตขึ้นน้องคนนี้จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า มีคุณภาพที่จะไปทำงานพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ ผิดกับพ่อแม่บางคนหวังดีแต่ประสงค์ร้ายต่อลูก ลูกร้องขออะไรก็หามาให้ไม่สอนให้ลูกทำงานหาเงิน ทำให้ลูกไม่รู้จักโต ไม่รู้จักทำมาหากิน ไม่รู้คุณค่าของเงิน แบมือของเงินตลอดเวลา เมื่อโตขึ้นลูกคนนี้จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ ใครมีลูกก็ควรพิจารณาดูเอาเองว่าจะเลี้ยงลูกแบบไหน.


เครดิต ภาพและบทความ เพจ 234743487003153




ขอบคุณของแต่งบล็อก // ญามี่ // ชมพร // oranuch_sri // Zairill // Rainfall in August


Create Date :29 พฤศจิกายน 2561 Last Update :29 พฤศจิกายน 2561 5:02:34 น. Counter : 2279 Pageviews. Comments :9