bloggang.com mainmenu search


วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สร้างเมื่อปีพ.ศ.1857 ยุคสมัยประวัติศาสตร์ (อยุธยาตอนต้น) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพ.ศ.1860
ตามประวัติตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานต่อๆ กันมาว่า เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมากองทัพไทยในองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้มาหยุดพักทัพ เพื่อตรวจสอบบัญชีจำนวนทหารในกองทัพว่ามีจำนวนทหารที่สูญหายจากการทำศึกเท่าใด และมีจำนวนทหารเหลืออยู่เท่าใด

ในสมัยนั้นเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า สางบัญชี เมื่อปีพ.ศ.2379 ตามประวัติ ของท่านสุนทรภู่ ได้เดินทางไปสุพรรณบุรี โดยแจวเรือมาจากกรุงเทพฯ ล่องมาตามลำน้ำสุพรรณบุรี และได้จดบันทึกเป็นโคลงสี่สุภาพ โคลงนิราศเมืองสุพรรณบุรี มีตอนหนึ่งได้ประพันธ์ไว้ดังนี้


"สำปะทิวงิ้วง้าวสะล้าง กรางไกร

ถิ่นท่าป่ารำไร ไร่ฝ้าย

เจ๊กอยู่หมู่ไทยมอญ ทำถั่วรั้วเอย

ปลูกผักฟักกล้วยกล้าย เกลื่อนทั่วทางจร"

จากโคลงนิราศเมืองสุพรรณบุรีนี้เอง แปลความได้ว่า ครั้งหนึ่ง วัดแห่งนี้เคยถูกเรียกชื่อว่า "วัดสำปะทิว" แต่เนื่องจากสาเหตุอันใดไม่ทราบ ได้ทำให้การเรียกชื่อวัดแห่งนี้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม จากชื่อว่าวัดสางบัญชี เป็นวัดสำปะทิว ก่อนที่จะเป็นวัดสำปะซิวมาจนถึงทุกวันนี้

"พระมหาอนันต์ กุสลาลังกาโร" เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว กล่าวว่า ที่วัดมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สมัยทวารวดีอายุกว่าพันปี ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะปางพุทธรูปที่พิเศษแปลกอัศจรรย์กว่าพระพุทธรูปปางใดๆ ในสยามประเทศ ซึ่งมีให้เห็นไม่ปรากฏบ่อยนัก ที่จะมีพระพุทธรูปปางเช่นนี้ กล่าวคือ นั่งอย่างสง่างาม บนฐานแท่นบัลลังก์บัวคว่ำบัวหงาย ขัดสมาธิเพชร พระบาทซ้อนพระบาท ซึ่งหมายถึงลักษณะอันงดงาม มั่นคง แข็งแกร่ง ดุจดังเพชร ในขณะที่พระกรขวายกขึ้น พระหัตถ์ขวาแผ่ประทานพร พระกรซ้ายยกขึ้น พระหัตถ์ซ้ายแผ่ให้พรมงคล

ทั้งนี้ เมื่อปีพ.ศ.2495 ปีมะโรง นายส่ง สุจินตวงษ์ ได้นำมาถวายวัดสำปะซิว เป็นที่แตกตื่นฮือฮากันอย่างมากแก่ผู้ที่รู้ข่าวและได้มาพบเห็น พากันมาบูชาสักการะจำนวนมาก คนเก่าคนแก่ในครั้งนั้นเล่าให้ฟังว่า "ใครมากราบไหว้บูชาขอปรารถนาในสิ่งใด สำเร็จในสิ่งนั้น สมดังชื่อหลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมีความหมายแปลว่า สำเร็จ สมหวัง สมปรารถนา" นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ อยู่ในสมัยทวารวดี อายุกว่า 1,000 ปี หล่อด้วยโลหะเนื้อทองสัมฤทธิ์โบราณ ด้วยพุทธลักษณะที่งดงาม และมีอายุเก่าแก่

ในสมัยที่ พระครูสุวรรณคุณสาร หรือ หลวงพ่อเต๋ย อดีตเจ้าอาวาสวัดสำปะซิว มีชีวิตอยู่นั้น มีนักค้าวัตถุมงคลหลายรายติดต่อขอเช่า มีอยู่รายหนึ่งเสนอราคาสูงถึง 16 ล้านบาท แต่หลวงพ่อไม่ให้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ปรากฏว่ามีคนร้ายใช้ความพยายามมาโจรกรรม โดยวางยานอนหลับพระทั้งวัด แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ทำให้โจรไม่สามารถเคลื่อนย้ายพระได้ ในอดีตนั้นคณะกรรมการวัดได้สร้างกรงปิดไว้ และจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ขอพรได้เฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ทางวัดเปิดให้กราบไหว้ได้ทุกวัน

เนื่องในปีพ.ศ.2555 เป็นปีมะโรง ปีงูใหญ่ หรือปีนาคธรรมบาล พญานาคเป็นเทพที่เชื่อมโยงฟ้ากับดิน สวรรค์กับมนุษย์ คนโบราณเชื่อกันว่าพญานาคเป็นสัตว์กึ่งเทพ เป็นเจ้าแห่งแผ่นดิน เจ้าแห่งทรัพย์ในบาดาลพิภพ มีฤทธานุภาพมาก ดังนั้นหากบูชาก็จะช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ค้ำจุนดวงชะตาและนำมาซึ่งแก้วแหวนเงินทอง ร่มเย็นเป็นสุข อุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง อีกทั้งสาเหตุที่เกิดมาเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ ดังนั้นจึงช่วยหนุนเรื่องความรักด้วยอีกแรง

วัดสำปะซิว ได้จัดสร้าง เหรียญพญานาคราช และ กำไลพญานาค รุ่นอนันตทรัพย์ โดยเหรียญพญานาคราชด้านหลังเป็นดวงตราราชาโชค "ราชาโชคโฉลกเฉลา ผลบุญเก่าส่งให้เห็นเป็นสง่า แสดงอำนาจราชศักดิ์ดุจราชา ไม่ต้องซื้อต้องหาก็มาเอง" ในพื้นชะตาของใครที่มีดาวได้ตำแหน่งราชาโชค ผู้นั้นจะมีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่มนุษย์ทั้งหลาย มีเมตตามหานิยม ชีวิตบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ มีอำนาจราชศักดิ์ ประสบกับโชคลาภยิ่ง ใหญ่มหาศาล ผู้ใดได้ครอบครองเหรียญพญานาคราช รุ่น อนันตทรัพย์ ที่มีดวงตราราชาโชคอยู่ด้านหลัง จะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ได้พรรณนามาแล้ว ด้านหลังของเหรียญลงอักขระหัวใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ และหัวใจพระสีวลี นะ ชาลีติ ตอกโค้ดรวย" กำกับทุกเหรียญ ส่วนกำไลพญานาคราชได้จัดสร้างมี 2 แบบ คือ เนื้อโลหะชุบทองไมครอน และชุบเงินไมครอน เป็นเครื่องรางมีชื่อเป็นมงคล ซื้อง่าย ขายดี มีกำไร โดยจะได้นำรายได้จากการร่วมบุญบูชานำมาสร้างมณฑปบูรพาจารย์ ให้แล้วเสร็จร่วมบุญบูชาได้ที่บริษัทไปรษณีย์ไทย 650 สาขาทั่วประเทศ

สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

วัตถุมงคลรุ่นนี้ประกอบพิธีเทวาภิเษกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2554 มี พระครู สิริวรธรรมาภินันท์ ศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว จุดเทียนชัย หลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู่ พระครูปลัดธรรมวงศานุวัตร วัดแค อธิษฐานจิตปลุกเสก และเข้าร่วมพิธีปลุกเสกที่วัดแคเมื่อ 11 ต.ค. 2554 อีกวาระหนึ่ง มีพระเทพสุวรรณโมลี วัดป่าเลไลยก์ เป็นประธาน สำหรับเหรียญพญา นาคราช และกำไรพญานาคราช ปลุกเสกตลอด 1 ไตรมาส ณ อุโบสถ วัดสำปะซิว

credit : khaosod