นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดพรหมทัณฑ์ นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดพรหมทัณฑ์ พรหมทัณฑ์ คือ บทลงโทษนักบวชที่ประพฤติร้ายแรงจนไม่อาจจะสั่งสอนได้อีก โดยการไม่คบค้าสมาคมด้วย ปล่อยให้อยู่ตัวคนเดียวไป ในพระพุทธศาสนาก็มีผู้ถูกลงพรหมทัณฑ์เช่นกัน คือ พระฉันนะ เนื่องจากพระฉันนะ ไม่ยอมฟังใคร ในพระไตรปิฎกจึงกล่าวไว้ว่าพระพุทธองค์ทรงสั่งเสียให้พระอานนท์ไปลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ (เท็จจริง ไม่ ทราบแต่เท่าที่ทราบตามตำรากล่าวไว้เช่นนั้น) ทว่า ประเพณีการลงพรหมทัณฑ์นั้นมีมานานแล้ว ตามตำนาน กำเนิดพระจันทร์ ได้กล่าวไว้ว่าพระจันทร์มีรูปงามมาก แต่มีกามมากด้วย ได้กระทำผิดทางกามไว้ ด้วยการลักเอาภรรยาของพระพฤหัสบดีไป ทำให้ต้องรับโทษแบบ พรหมทัณฑ์ คือ ไม่อาจเข้าเทวสมาคมได้ (ในตำราพราหมณ์ไม่ได้กล่าวตรงๆ ว่าการลงโทษนี้คือพรหมทัณฑ์ แต่ผู้เขียนแสดงความคิดเห็นว่าน่าจะเป็นรากเหง้าที่มาของการลงพรหมทัณฑ์) จนกระทั่ง พระอิศวร (หรือพระศิวะ) ได้นำพระจันทร์เสียบไว้ที่มวยผมจึงสามารถเข้าเทวสมาคมได้ อันเป็นที่มาของสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวของพระศิวะ นั่นเอง อนึ่ง ที่กล่าวเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อ ชี้ทาง แก่บางท่านที่อาจได้รับวิบากกรรมอยู่ เช่น กระทำผิดทางกามไว้ (หรือผิดอย่างอื่น) แล้วรับวิบากกรรมเหมือนต้องถูกโดดเดี่ยว ไม่มีสมาคมอาศัย ก็ยังมีทางออก ทางแก้ได้ คือ การขอให้ผู้ที่มีบารมีธรรม มีจิตวิญญาณเป็นพระอิศวรหรือพระศิวะ ซึ่งไม่ยากเกินไปที่จะหาได้ ให้ท่านผู้นั้นช่วยนำพาเข้าสมาคม อนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินตัวเพราะหลายท่านไม่ทราบว่าได้ถูกเคราะห์จากพระจันทร์ ครอบงำอยู่ ทำให้มีวิบากกรรม, รอยกรรมคล้ายพระจันทร์ คือ ทำผิดบางอย่างไว้ ทำให้ต้องถูกโดดเดี่ยว หรือรู้สึกเหมือนไม่มีหมู่คณะเลย (แม้ว่ามีคนอยู่รอบกายก็ตาม) ซึ่งอาจเกิดได้กับหลายท่านและเป็นบางช่วงบางคราวเนื่องจากเคราะห์กรรมทั้งมวลของสัตว์นั้น มี ดาวเทพนพเคราะห์ทั้งเก้าองค์ ดูแลอยู่ แต่ละช่วงแต่ละเวลา ถ้าเราสังเกตตัวเองดีๆ จะพบว่าบางช่วงมีรอยกรรมคล้ายดาวเทพนพเคราะห์องค์ใดองค์หนึ่งคล้ายเสี้ยวใดเสี้ยวหนึ่งของดาวเทพนพเคราะห์นั้น หรือบางทีก็ได้รับอิทธิพลจากดวงดาวทั้งเก้านี้ มากกว่าหนึ่งดวงในเวลาเดียวกันปกติแล้วคนมักคิดว่าเมื่อมีเคราะห์ต้องบูชา พระราหู เนื่องจาก พระราหูเป็นเทพที่ดูแลด้านบาปเคราะห์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างไป เมื่อเราได้รับบาปเคราะห์ให้พิจารณาว่าเข้าข่ายอะไร ถ้าเป็นบาปเคราะห์แบบ มืดมนหลงผิด ทำอะไรผิดโดยไม่ค่อยมีสติ แบบนี้จึงเข้าข่ายถูก ราหูครอบงำ ทำให้มืดมนสติปัญญาไม่สว่างไสวทำผิดต้องรับภัยไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ถ้าไม่ใช่ลักษณะนี้ เช่น ค้าขายไม่ขึ้นแต่สมองก็ปลอดโปร่งดี แสดงว่าพระพุธไม่หนุน, กำลังอ่อน ก็ให้บูชาพระพุธ หรือหาคนที่มีพระพุธหนุนดวงอยู่ มาช่วยทำการค้าขายก็ได้ บางท่านป่วยเป็นโรคสามวันดีสี่วันไข้, เดี๋ยวอ้วน-เดี๋ยวผอม ก็ให้ทราบว่าต้องเคราะห์พระจันทร์เข้าแล้ว อันเป็นกรรมที่เกิดจากการถูกพ่อตาสาปเพราะรักภรรยาไม่เท่ากัน (ได้ลูกสาวเขาไป ๓๓ คน แต่รักอยู่แต่คนเดียว ใจเดียวมากเกินไป) วิธีทำให้กรรมผ่อนหนักเป็นเบาลงคือ อย่าเอาใจผู้หญิงที่ตนรักเพียงคนเดียว แม้หญิงอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น มารดา, ป้า, พี่สาว, น้องสาว ฯลฯ ก็ให้ทำดีด้วยอย่างเท่าเทียมเสมอกัน บางท่านมีวิบากกรรมไปอยู่กับผู้ใดก็นำหายนะมาถึงแก่ผู้นั้น แสดงว่าตกเคราะห์ มฤตยู ให้แก้ไขด้วยการผ่านธาตุไฟเสีย ตามตำนานดาวลูกไก่ ซึ่งกระโดดเข้ากองไฟแล้วจึงถือกำเนิดเป็นดาวลูกไก่ได้ เมื่อผู้ตกกรรมเป็น มฤตยู (มักถูกด่าหรือถูกมองว่าเป็นตัวสร้างความหายนะ) ก็ให้หาโยคีหญิงที่มีพลังธาตุไฟ (แม่เตโช) ให้เขาสอนให้เป็นคนดีขึ้น อนึ่ง เรื่องพรหมทัณฑ์นี้เป็นเรื่องของ พระจันทร์ โดยเฉพาะแต่ก็เกี่ยวข้องกับคนทุกคน เพราะมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากเทพดวงจันทร์ทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าจะเป็นเวลาใดหรือเรื่องใดก็เท่านั้น เมื่อใดท่านตกเคราะห์พระจันทร์ต้องถูกโดดเดี่ยวอ้างว้าง อยู่อย่างวิเวกสันโดษ ก็ให้พิจารณาดูว่าเข้าข่ายนี้หรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็ไม่ยากให้หาคนที่มีบารมีเป็นพระศิวะหรือพระอิศวร แล้วอาศัยเขาคนนี้นำพาไปสู่ เทวสมาคม ได้ ซึ่งเมื่ออยู่กับคนผู้นี้แล้ว ท่านก็อาจตกอยู่ในฐานะ บริวาร ของเขาได้ แต่ถ้าท่านไม่ต้องการเป็นบริวารของเขาก็ต้องรับกรรมอยู่อย่างโดดเดี่ยวต่อไป ซึ่งไม่ผิดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกทางเดินของท่านเอง |
บทความทั้งหมด
|