นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดลอยกระทง
นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดลอยกระทง

ตามตำราพราหมณ์ได้กล่าวถึง “แม่พระคงคา” ไว้ว่า แม่พระคงคาเสด็จลงมาจากสวรรค์ เพื่อช่วยให้กุมารหกหมื่นพระองค์ที่ต้องไฟของพระนารายตายแล้วไม่ได้ไปผุดไปเกิดนั้น จะสามารถกลับคืนสู่สวรรค์ได้ ต้องอาศัยพระแม่คงคาในการชำระล้างบาปให้ เมื่อใดเกิดคนตายมากๆ แล้วผู้คนหวาดผวา อยู่กันไม่เป็นสุข พราหมณ์ก็จะใช้ “พิธีชำระบาปด้วยแม่พระคงคา” นี้ เพื่อล้างบาปเชิญดวงวิญญาณทั้งหลายที่รบกวนมนุษย์ ขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ วิธีการคือ ให้จุดดวงประทีปแล้วให้พราหมณ์ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่อยู่บริเวณนั้นๆ ให้เดินตามพราหมณ์ผู้ถือดวงประทีปไป จากนั้นก็เอาดวงประทีปไปลอยลงในแม่น้ำ ดวงวิญญาณทั้งหลายก็จะลงสู่แม่น้ำ ให้พระแม่คงคาชำระบาปให้ จากนั้น ก็จะกลับคืนสู่สรวงสวรรค์ได้ อันเป็นที่มาของพิธี “ลอยกระทง” และการ “ปล่อยโคมไฟลอยฟ้า” เป็นเครื่องหมายว่า “ดวงวิญญาณทั้งหลายได้กลับคืนสู่สรวงสวรรค์แล้ว” นั่นเอง ในพิธีกรรมนี้ ถ้าทำเต็มพิธีจะยุ่งยากมาก และใช้พราหมณ์นำทางดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วย นับเป็นพิธีใหญ่มากพอดู แต่จะไม่ทำเต็มพิธีบ่อยครั้งนัก จะทำเพียงในช่วงแรกๆ ของการเริ่มต้นพิธีกรรมเท่านั้น ปีต่อๆ ไป เมื่อประชาชนไม่เกิดความหวาดผวา ภูตผีปีศาจไม่มารบกวนแล้ว ก็จะทำเพียง “ย่นย่อ” เรียกว่า “ทำพอเป็นพิธี” ให้ระลึกนึกถึงพิธีกรรมดั้งเดิมเท่านั้น คือ ทำเพียงเอากระทงมาลอยน้ำ ไม่ต้องทำพิธีจุดประทีปนำทางเชิญดวงวิญญาณไปลงแม่น้ำ ส่วนการ “ลอยโคม” ยุคหลังๆ ก็ทำเพราะเห็นว่าเป็นพิธีกรรมที่สวยงามเท่านั้นเอง

ในสมัยสุโขทัย การลอยกระทง ไม่ใช่เป็นครั้งแรกของโลก ในประเทศจีนมีพิธีกรรมลอยกระทงแบบนี้เหมือนกันเช่น เมื่อลูกตนตายอยากช่วยให้ลูกได้ไปผุดไปเกิด ก็ทำพิธีลอยประทีปเขียนชื่อผู้ตายพร้อมวันเดือนปีเกิดลงในกระทงให้ไหลไปตามน้ำ ดังนั้น ประเพณีลอยกระทง จึงไม่ใช่ประเพณีที่เกิดขึ้นในสุโขทัยเป็นครั้งแรก ความเชื่อเรื่องการล้างบาปด้วยแม่น้ำหรือแม่พระคงคานี้มีมานานแล้วก่อนยุคสุโขทัยและแพร่หลายในหลายภูมิภาค ทั้งในประเทศอินเดียและจีนในสมัยโบราณ แต่ประเพณีลอยกระทงในประเทศจีน เป็นสิ่งที่ทำกันมาเหมือนประเพณีทั่วๆ ไป ไม่ได้ยกขึ้นเป็น “ราชประเพณี” แตกต่างจากในสมัยสุโขทัย ที่ยกเอาประเพณีลอยประทีปนี้ ขึ้นเป็น “ราชประเพณี” อย่างสมบูรณ์ที่สุด

สืบเนื่องมาจาก ในยุคเริ่มต้นก่อตั้งราชวงศ์สุโขทัยนั้น พ่อขุนผาเมืองได้เอานางสิงขรเทวี ซึ่งเป็นลูกของขอมผู้ยึดครองเมืองสุโขทัยเป็นภรรยาแล้วหลอกจนได้เมืองสุโขทัยต่อมา นางสิงขรเทวีมีความแค้นต่อราชวงศ์สุโขทัยจึงได้สาปแช่ง แล้วกระโดดน้ำตายทำให้คนสุโขทัยพากันร่ำลือต่อๆ กันไปและหวาดผวาอย่างมาก ต่อมาสมัยพ่อขุนรามฯ จึงต้องใช้ประเพณีลอยประทีปเพื่อนำส่งดวงวิญญาณทั้งหลายทั้งนางสิงขรเทวีและทั้งทหารที่ตายในสงครามไปสู่สรวงสวรรค์ด้วยพร้อมกัน ประเพณีนั้น จึงกลายเป็น “ราชประเพณี” ไม่ใช่ประเพณีธรรมดาที่คนทั่วๆ ไป ทำกันอยู่แล้ว แต่เป็นการกระทำที่ได้รับการยอมรับและได้ รับการสนับสนุน และกระทำโดยพระมหากษัตริย์โดยตรง ทั้งยังทำอย่างพร้อมเพรียงกัน คือ ประชาชนก็ร่วมในประเพณีนี้ด้วย จึงนับได้ว่าประเพณีลอยกระทงได้รับการยอมรับในระดับกษัตริย์ จนกลายเป็น “ราชประเพณี” ครั้งแรก ณ สมัยสุโขทัยนั่นเอง แต่ประเพณีการลอยประทีปลงน้ำ หรือลอยโคมไฟขึ้นฟ้านั้นมีมาอย่างแพร่หลายก่อนนั้นนานแล้ว

หากท่านเข้าใจถึงเหตุผลและที่มาของการลอยประทีป ทั้งที่ลงน้ำ (ลอยกระทง) และขึ้นฟ้า (ลอยโคม) นี้ ท่านก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตปัจจุบันได้ เช่น เมื่อท่านได้ที่ดินผืนใหม่มา (เหมือนพ่อขุนรามฯ ได้ครองเมืองสุโขทัยใหม่ๆ) แต่ท่านมีความหวาดผวาและกังวล เช่น ถูกรบกวนด้วยจิตวิญญาณจำนวนมาก ก็ให้ทำพิธีกรรม เชิญดวงวิญญาณทั้งหลายให้ตามประทีปดวงไฟไป แล้วนำประทีปเหล่านั้นลงไปลอยในน้ำ จากนั้น ก็จุดโคมไฟขึ้นฟ้า เพื่อส่งดวงวิญญาณที่ได้รับการชำระล้างบาปจากแม่คงคาแล้ว ให้กลับสู่สรวงสวรรค์ โดยเฉพาะที่ดินที่บุกเบิกใหม่ทั้งหลาย มักพบว่าผู้ถือครองอยู่ได้ไม่นาน ก็ให้ทำพิธีแบบนี้ เจ้าที่ทั้งหลายก็จะได้รับการปลดปล่อยไป แล้วจึงตั้งศาลพระภูมิมาแทนที่ภายหลัง



Create Date : 18 สิงหาคม 2553
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 10:07:45 น.
Counter : 339 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของการตระหนักในการรับรู้ : กะว่าก๋า
(15 เม.ย. 2567 05:37:45 น.)
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 32 : กะว่าก๋า
(10 เม.ย. 2567 06:04:44 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 30 : กะว่าก๋า
(7 เม.ย. 2567 05:51:28 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Worldlingo.BlogGang.com

ฉันนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด