นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดผีประจำเมือง
นิทานธรรมะ ตำนานผีประจำเมือง

ผีประจำเมืองคือ ผีที่เป็นใหญ่ในเมืองนั้น กำเนิดมาพร้อมกับเมืองนั้น และคอยช่วยเหลือดูแลเมืองนั้น อนึ่ง ผีประจำเมืองคล้ายเทพประจำตัวมนุษย์ แต่ทำหน้าที่กว้างขวางกว่าเพราะดูแลคนจำนวนมากกว่า ดังนั้น จึงมีหลายตนด้วยกัน เช่น ผีเสาเมือง ที่เรียกว่าพระเสาหลักเมือง, ยักษ์ประจำเมือง ที่เรียกว่า พระเสื้อเมือง (ถ้ายักษ์ประจำวัดจะเรียกว่าผีเสื้อวัด) ซึ่งมีวิธีจัดหามาแตกต่างกันออกไป เช่น ผีเสาเมือง ตอนตั้งเสาเมือง เขาจะร้องเรียกชื่อคนที่มีชื่อมงคลแล้วคนไหนขานรับเขาก็เอาไปทำ “ผีเสาเมือง” คือ ต้องตายลงไปในหลุมตั้งเสานั้นแหละ เวลาตายลงไปในนั้น มีตำนานที่หลงเหลือไว้เรื่องหนึ่งกล่าวว่าพราหมณ์ใช้เลือดที่กระเด็นขึ้นมาในการทำนายอนาคตของเมืองนั้นๆ ว่าจะดำเนินไปถึงไหน จบอย่างไรได้ด้วย ในตำนานนั้นเป็นเลือดของหญิงท้องแก่ และกระเด็นไปเจ็ดสาย ไม่ขออธิบายเพิ่มในที่นี้ละกันครับ ต่อมา ประเพณีทำ “ผีเสาเมือง” ก็เลิกไป เพราะโหดร้ายถึงขั้นเอาชีวิตคน จึงกลายเป็น “พระเสาหลักเมือง” ขึ้นมาแทนที่ คือ ไปเชิญเอารุกขเทวดาประจำต้นไม้ที่มีอายุมากและลักษณะที่ดี ตัดแล้วเอามาทำเสาเมืองแทนที่ ดังนั้น ท่านจะเห็นอาณาจักรยุคหลังๆ มี “เสาหลักเมือง” ขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าดูย้อนไปถึงอาณาจักรที่เก่าแก่โบราณกว่านั้น ประเพณีหา “ผีเสาเมือง” ก็อาจยังพบได้ มีได้อยู่ (ลองไปดูที่อุทยานประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน เมืองโบราณต่างๆ เมืองโบราณไหนที่มีเสาหลักเมืองแล้ว แสดงว่าเลิกประเพณีผีเสาเมืองไปแล้วครับ)

สรุป ก็คือ หาผีมาช่วยดูแลเมืองนั่นแหละ แต่จะหาอย่างไรละ

สำหรับคนจีนแล้ว เขาจะหาจาก “ผีบรรพชน” เองนี่แหละ ไปต้องไปหาใครที่ไหน เพราะบรรพชนของเราที่ตายไปแล้ว ห่วงใยเรา อยากดูแล อยากเป็นเทพประจำตัวเราก็ยังมีอยู่ เราก็บูชาบรรพชน เลี้ยงดูอย่างที่ท่านมีชีวิต นานวันเข้า ผีบรรพชนของเราก็แก่กล้าและเหนือกว่าผีอื่นใดทั้งมวล แล้วหนุนให้ตระกูลของเรากลายเป็นใหญ่เหนือผู้อื่นได้ นี่คนจีนเขาเล่นกันแบบนี้ เวลาจนๆ ก็บูชาด้วยการกราบไหว้ก็พอถ้าค้าขายรวยขึ้นมากๆ ก็ทำการ “ตั้งศาลบูชา” กันเลย ดังนั้น “ศาลเจ้า” จึงเกิดขึ้นด้วยวิธีนี้ ศาลเจ้าบรรพชนของคนจีนนี่ เขาทำตามหลัก “ฮวงจุ้ย” โดยอาศัยความรู้จากซินแสเก่งๆ ถ้าทำขึ้น เลือกชัยภูมิดี ก็จะยิ่งแก่กล้า แต่สำหรับญี่ปุ่นแล้ว นอกจากเขาจะตั้งศาลประจำตระกูล โดยเฉพาะพวกที่มีอำนาจคือ โชกุน ตระกูลต่างๆ นี่จะมีศาลเจ้าเพื่อค้ำจุนตนเอง เขาก็จะต้องมี “มิโกะ” คือ นักบวชหญิงคอยทำสมาธิส่งพลังค้ำจุนอีกทีด้วย แหม สูงขึ้นไปอีกขั้นเชียวครับ

เล่าถึงทั้งคนไทย, คนจีน, คนญี่ปุ่นกันมาแล้ว ยุคปัจจุบันเราทำอย่างไร ก็ผสมผสานกันไปเลยครับ คือ ถ้าตระกูลไหน ตั้งศาลบรรพชนได้ เลือกชัยภูมิที่ดี แล้วบูชาผีบรรพชน แถมมีลูกหลานที่เป็นนักบวช คอยบูชา สวดมนต์ ส่งกำลังจิต กำลังบุญ กำลังสมาธิไปเสริมอีก รับรองว่าลูกหลานได้เป็น “พญาหงส์ พญามังกร” กันแน่นอนครับ อ้อ เคล็ดลับอีกประการ คือ ผีประจำเมืองของเจ้าผู้ก่อตั้งนครคนไหน ก็ควรมาจากบรรพชนของเขาคนนั้น ยิ่งบรรพชนที่เคยตายแล้วเกิดเป็น “พระภูมิ” ยิ่งดี เพราะจะมั่นคงมาก แน่วแน่มาก ส่วนลูกหลานก็ให้คนใดคนหนึ่งบวชห่มขาวหรือห่มเหลือง แล้วปฏิบัติธรรมหนุนพลังให้เสริมอีกที เลือกชัยภูมิที่พอเลือกได้ ฮวงจุ้ยจะได้ดีๆ หน่อย เวลาตั้งศาลก็ตั้งแยกกันนะ เช่น พระเสาเมือง (รุกขเทวดา), พระเสื้อเมือง (ยักษ์), พระทรงเมือง (วิทยาธรหรือคนธรรพ์) ฯลฯ แยกกัน ให้ครบทุกหมวดหมู่ไปเลย แต่ก่อนจะตั้งเป็นผีประจำเมืองได้ ก็ต้องตั้งเป็นผีประจำบ้านก่อน ไปตั้งเป็นผีประจำเมืองก่อนได้เป็นเจ้าเมืองไม่ได้นะครับ ผิดผี ผิดประเพณีเอานะครับ อย่าง “พระขพุงผี” ก็เป็นผีประจำเมืองสุโขทัย ส่วนมาเป็น ได้อย่างไรอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ ที่ทราบก็คือ “พระสยามเทวาธิราช” เป็นผีหรือเทพประจำกรุงรัตนโกสิน ที่อัญเชิญมาโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันนี้ ก็พอทราบกันดีอยู่ เคยไปดูที่เชียงใหม่ มีคนทำแบบนี้เหมือนกัน แต่เชิญอีกองค์มาเขาเรียกเป็น “พระบิดาฯ” แต่ไม่ขอเอ่ยนาม ลักษณะเหมือนพระวิสุทธิเทพครับ สวัสดี...



Create Date : 06 สิงหาคม 2553
Last Update : 6 สิงหาคม 2553 9:17:49 น.
Counter : 395 Pageviews.

0 comments
เวลาที่หายไป - บทที่ 27 ดอยสะเก็ด
(16 เม.ย. 2567 20:17:49 น.)
๏ ... ขอฝน แทน พรวันมหาสงกรานต์ ... ๏ นกโก๊ก
(15 เม.ย. 2567 15:30:08 น.)
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
๏ ... คืนฟ้าไร้ดาว ... ๏ นกโก๊ก
(14 เม.ย. 2567 09:49:36 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Worldlingo.BlogGang.com

ฉันนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด