นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดเทพกระต่าย
นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดเทพกระต่าย

“เทพกระต่าย” คือ เทพนักษัตรที่มีลักษณ์กึ่งเทพกึ่งกระต่าย ประจำอยู่สวรรค์ชั้นที่หนึ่ง (ซ้อนทับกับโลกมนุษย์) และเป็นหนึ่งในเทพนักษัตรทั้ง ๑๒ องค์ผู้ดูแลโลกมนุษย์โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปปีละ ๑ องค์ เทพกระต่ายจะลงมาดูแลโลกมนุษย์เต็มที่ในปีเถาะ และมีวิธีการช่วยเหลือมวลมนุษย์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ การหาทางหนีทีไล่ เพราะกระต่ายมักจะมีทางหนีมากกว่าหนึ่งทางไว้หนีศัตรูทำให้ศัตรูสับสนและตามไม่ถูกเสมอ แต่เมื่อบำเพ็ญบารมีจนถึงที่สุดเทพกระต่ายจะถึงแก่ความตาย ดังจะอธิบายนี้

เทพกระต่ายบรมโพธิสัตว์
เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมบำเพ็ญบารมีอยู่ ก็ได้เคยเสวยชาติเกิดเป็นกระต่าย ในชาตินั้นเอง ที่ท่านได้สอนให้สัตว์อื่นๆ อยู่ในศีลธรรมและสร้างคุณงามความดี วันหนึ่ง มีมนุษย์ตกยากขาดอาหารใกล้ตายมาถึง สัตว์หลายชนิดที่ท่านเคยสอนไว้ต่างก็มีอาหารที่สะสมไว้ นำออกมาช่วยชีวิตมนุษย์ผู้นั้น ยกเว้นแต่ท่านที่ไม่มีอาหารสะสมไว้เลย สัตว์อื่น จึงท้วงติงว่าท่านสอนให้ผู้อื่นสร้างคุณงามความดี แต่คราวนี้ ผู้อื่นได้สร้างคุณงามความดีแล้วท่านเองจะสร้างคุณงามความดี ช่วยเหลือมนุษย์นี้อย่างไร ในที่สุด ท่านจึงตัดสินใจใช้เนื้อตัวเองสละเป็นทานแก่มนุษย์นั้น โดยการกระโดดเข้ากองไฟให้คนได้กิน เมื่อนั้น พระอินทร์ได้ทราบจึงได้นำภูเขามาแกะสลักรูปกระต่ายไว้บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้

และในชาติที่ราชวงศ์โจวกำลังล่มสลายนั้น ฮ่องเต้ลุ่มหลงนางสนมที่ชื่อ “ต๋าจี” ถึงขนาดออกอุบายนำเนื้อบุตรชายของอ๋องโจวเหวินหวังไปทำลูกชิ้นให้อ๋องโจวเหวินหวังกิน ซึ่งบุตรชายของอ๋องโจวเหวินหวัง ก็คือ “เทพกระต่าย” มาเกิด โดยบุตรชายผู้นี้ ทราบว่าพ่อของตนถูกกักขังอยู่ จึงหาทางช่วยเหลือให้ออกไป ต่อมา แม้ช่วยให้พ่อของตนหลุดพ้นออกมาได้ ทว่าตนกลับต้องมาตายแทน (คนละองค์กับอดีตชาติของพระสมณโคดม) ในที่สุดอ๋องโจวเหวินหวังเกิดความแค้นจึงได้ร่วมมือกับเจียงจื่อหยา และ “นาจา” ในที่สุดก็โค่นบัลลังก์ฮ่องเต้ผู้โฉดชั่วได้ ต่อมา บุตรชายอีกคนของเขาจึงก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้นได้

รอยกรรมและการบำเพ็ญบารมีของเทพกระต่าย
เทพกระต่ายมักเกิดเป็นบุตรชายของพระนิตยโพธิสัตว์มีหน้าที่คล้ายกับพระราหุล จะเป็นบุตรที่ดี, มีปัญญา, เลี้ยงง่าย, ว่านอนสอนง่าย, น่ารักและลักษณะดี ทำให้บิดารักได้มาก เป็นบ่วงที่ผูกมัดบิดาให้รักและไม่ยอมสละครอบครัวออกไปสู่การแสวงหาสัจธรรมได้มาก แต่จะมีวิบากกรรม เมื่อบำเพ็ญบารมีมาก มักจะเสี่ยงชีวิตจนตนเองต้องตายไปอย่างกล้าหาญ ด้วยความที่ไม่ค่อยมีอิทธิฤทธิ์ ไม่ค่อยถนัดด้านการต่อสู้แบบเทพนักษัตรองค์อื่นๆ จึงอ่อนแอและตายได้ง่าย จึงเป็นด่านทดสอบที่สำคัญของพระนิตยโพธิสัตว์ ว่าจะตัดใจจากลูกชายอันเป็นที่รักได้หรือไม่ ถ้าบารมีแก่กล้า แม้บุตรชายจะจากหรือตายไป ก็จะไม่หวั่นไหว แต่ถ้าบารมีอ่อน ก็อาจจะทำให้การบำเพ็ญบารมีผิดเพี้ยนไปได้ เช่น เกิดความ แค้นขึ้นจนก่อกรรมทำเข็ญมากมายหรือใจแตกสลายที่ต้องเสียลูกชายอันเป็นที่รักไป ถ้าหากพระนิตยโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีได้กายมัญชุศรี เทพกระต่ายมักจะออกรบและตายในสงครามแต่หากพระนิตยโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีได้กายเมตตรัย เทพกระต่ายมักจะหาทางหนีให้แก่บิดาที่ถูกคุมขัง, กักขังอยู่, ให้ได้เป็นอิสระ ในสองทางนี้ เทพกระต่ายล้วนต้องสละชีพตนทั้งสิ้นจึงจะได้บารมีเต็ม และเมื่อเทพกระต่ายบำเพ็ญบารมีถึงที่สุดแล้ว ต่อมา พระนิตยโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะไม่อาจดำรงตนอยู่ในสถานภาพเดิมได้อีกต่อไป จะต้องถูกทำให้กระเด็นออกจากตำแหน่งเดิม, จรออกจากที่ หรือถูกเล่นงานอย่างหนัก ฯลฯ เช่นนี้ เป็นเพราะรอยกรรมที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องขยับไปสู่ธรรมเมื่อบุตรบำเพ็ญถึงที่สุด

ในช่วงเข้าปีเถาะให้สังเกตดู ผู้ที่เป็นคนดีว่าสอนนอนง่าย, ทำตัวดีมาตลอด, อยู่ในกฎในระเบียบเรียบร้อย แต่มีความกล้าหาญ พร้อมยอมเสี่ยงชีวิต จะออกมาทำกิจ และอาจถึงขั้นเสียชีวิต (บางครั้งจะเกิดก่อนเข้าปีเถาะหนึ่งเดือนก็มี) ชะรอยว่าอาจเป็นเทพกระต่าย



Create Date : 20 ธันวาคม 2553
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 9:24:37 น.
Counter : 775 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของความจริง : กะว่าก๋า
(26 เม.ย. 2567 05:08:53 น.)
กฎหมาย สาเหตุของปัญหาและความทุกข์ การเก็บ ปัญญา Dh
(22 เม.ย. 2567 02:15:11 น.)
เป็นขันธ์ที่มีคุณค่า แบ่งเวลา คุณค่าของสิ่งต่างๆ ปัญญา Dh
(19 เม.ย. 2567 23:27:48 น.)
: รูปแบบของความว่าง : กะว่าก๋า
(18 เม.ย. 2567 04:00:35 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Worldlingo.BlogGang.com

ฉันนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด