นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดโลกมืด
นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดโลกมืด

“โลกมืด” เป็นภพๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งสวรรค์, โลกมนุษย์ และนรก เป็นภพที่จิตวิญญาณเมื่อจุติไปแล้วไม่ถูกทรมานเหมือนในนรก แต่ต้องอยู่ในความมืดมน, มืดมิด ทำให้ต้องทุกข์ใจแม้ไม่มีความทุกข์กายก็ตาม นอกจากนี้ โลกมืดยังมีสิ่งต่างๆ ให้จิตวิญญาณได้อาศัยอยู่กินอีกด้วย ทำให้พวกเขาอยู่กันอย่างลุ่มหลงโดยมี “ซาตาน” เป็นใหญ่ในโลกนี้

โลกมืดเกิดจากกรรมสั่งสมในจิต
ผู้ใดก่อกรรมสะสมไว้มากเข้าย่อมก่อเป็น “ภพ” เนื่องมาจากภาวะความเคยชินและยึดติดของจิตสร้างภพขึ้นมาจากภาวะต่างๆ นั่นเอง เช่น ภพมาร ก็เกิดจากความเคยชินและยึดติดในความสุขจากสวรรค์ และการทำบุญ ส่วนภพ “โลกมืด” นั้น จะมีที่ตั้งอยู่ใต้พื้นพิภพใกล้กับนรกแต่คนละส่วนกัน เวลาจิตวิญญาณตายลงจะถูกยมทูตนำพาไปนรกแต่ถ้าหลงออกนอกเส้นทางก็จะเข้าสู่ “ภพมืด” นี้ทันที และไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีการเวียนว่ายตายเกิด ทำให้ไม่สามารถกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกจนกว่าพระโพธิสัตว์จะไปปลดปล่อยมาเรียกว่าการ “ไถ่จิตวิญญาณ” ดังเช่นที่พระเยซูคริสต์ได้เคยทำไว้แล้วนั่นเอง อนึ่ง ผู้ที่ต้องกรรมต้องตกอยู่ในภพมืด, นรกมืด หรือโลกมืดนี้ จะกระทำกรรมตามลำดับดังต่อไปนี้คือ

๑) ช่วงมีสุขในโลกส่วนตัว
คนที่มีสุขอยู่ในโลกส่วนตัว เช่น ไม่สนใจใครวันๆ เอาแต่ดูทีวี, ฟังวิทยุ, โทรศัพท์พูดคุย เหมือนคนมีโลกส่วนตัว ใครมายุ่งเกี่ยวด้วยไม่ได้จะโมโห ไม่ชอบ ตอนแรกจะมีความสุขดี เพราะบุญยังมีอยู่ ยังหนุนตัวเองอยู่ แต่เมื่อหมดวาระบุญแล้ว โลกส่วนตัวที่สว่างไสวมีสุข ก็จะเปลี่ยนไปทันที อนึ่ง ลักษณะพฤติกรรมนี้ เป็นวิสัยของเหล่าปัจเจกชน เช่น ฝรั่ง
๒) ช่วงเสวยบุญจนหมด
ช่วงนี้ เข้าข่ายเรียกได้ว่า “บริโภคนิยม” คือ จะเสวยผลบุญในอดีตชาติของตนจนหมดตัว เพราะความที่เสพติดความสุข, โลกีย์สุข และประมาทในชีวิต คิดว่าความสุขมีความเที่ยง มีความจีรังยั่งยืน จึงเสวยบุญ, ผลาญบุญไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีรูปแบบไหนก็ตาม เช่น รวย, มีชื่อเสียง, มีตำแหน่ง, มีคนรักมากมาย ฯลฯ แต่แล้วเมื่อถึงวาระหมดผลบุญจะทุกข์ทันที
๓) ช่วงรับวิบากกรรม
ช่วงนี้ โลกส่วนตัวจะเริ่มมืดดำลง, ไม่สว่างไสวดังเดิม, ไม่มีความสุขดังเดิม จะมีแต่ทุกข์ จะเริ่มกลายเป็นโลกที่มืดดำสนิท เหมือนคนที่อยู่ในโลกมืด มองไม่เห็นแสงสว่าง มืดมนตกทุกข์ หากจิตจุติ (ตาย) ในช่วงนี้ จะตกอยู่ในภพมืดหรือนรกมืดทันที อนึ่ง ในบางคนก็ถึงวาระชะตาขาดแล้วแต่ซาตานมาต่ออายุให้ แล้วแลกเอาจิตวิญญาณเดิมของเขาไปยังภพมืด จากนั้นก็จะแทรกเข้าใช้ร่างของเขาในการทำกิจบนโลกมนุษย์ มนุษย์คนนั้นจะไม่เหมือนคนเดิม จะเปลี่ยนแปลงไป สังคมมักเห็นว่าเขาประสบความสำเร็จมาก แต่ในทางธรรมแล้ว ไม่เลย เขาถูกซาตานแลกเอาจิตวิญญาณไป ร่างของเขาถูกซาตานยึดแล้ว

ทางแก้ไขภาวะโลกมืด
๑) ไม่ผิดประเวณี (ทำให้ตกนรกมืด)
๒) ไม่เสพสุขในโลกส่วนตัว
๓) ไม่เป็นพวกบริโภคนิยม
๔) ไม่เป็นพวกสุขนิยม
๕) ไม่หลงบุญว่าเที่ยงแท้
๖) มีจิตที่ผ่องใสเพราะปัญญา
๗) ไม่ขออะไรจากซาตาน
๘) ไม่บนบานสานกล่าวขอนั่นนี่
๙) พึ่งตนเอง ของฟรีไม่มีในโลก

นอกจากนี้ ถ้ายังไม่นิพพาน การศรัทธาตรงต่อสวรรค์เช่น สุขาวดี ก็ช่วยไม่ให้หลงภพได้



Create Date : 11 ตุลาคม 2553
Last Update : 11 ตุลาคม 2553 9:32:27 น.
Counter : 317 Pageviews.

1 comments
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 31 : กะว่าก๋า
(9 เม.ย. 2567 05:58:44 น.)
  
โดย: โลกธรรม8 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:34:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Worldlingo.BlogGang.com

ฉันนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด