ปาย...ในวันฝนสั่งลา
ปาย...ในวันฝนสั่งลา
ลมหนาวเริ่มพัดโชยมาปะปนกับสายฝนที่ตกโปรยปรายเย็นฉ่ำ บ่งบอกว่าช่วงเวลานี้เป็นการสลับหน้าที่ของฤดูฝนที่หลีกทางให้ฤดูหนาวเข้ามาแทน
เสียงเพรียกจากเพื่อนพ้องที่เฝ้ารอการเดินทางค้นหาธรรมชาติบริสุทธิ์หลังจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการทำงานอย่างคร่ำเคร่งในเมืองหลวงมานานแรมปี เอ่ยปากชักชวนให้เตรียมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปแอ่วภาคเหนือในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อผ่อนจังหวะการก้าวเดินของชีวิตที่ชินชากับความเร่งรีบให้ช้าลงเสียบ้าง

ตกลงกันว่าสถานที่พักกายและพักใจของพวกเราในครั้งนี้คือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์ ที่มักจะใช้เวลาเที่ยวแบบยาวๆ แม้ว่าเมืองปายจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ กระแสน้ำป่าไหลพัดถล่มจนอาคารบ้านเรือนเสียหายตามที่เป็นข่าวไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความหวังของบรรดาหนุ่มสาวนักล่าฝันที่ปรารถนาว่า สักครั้งหนึ่งจะเดินทางไปเมืองปาย เพื่อพิสูจน์ว่ามีเสน่ห์ตรึงใจมากสักเพียงใดถึงดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้มาเยือนสวรรค์บนดินแห่งนี้ได้มากมาย

เราย่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้สั้นลงด้วยเครื่องบินร่อนสู่จังหวัดเชียงใหม่ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะไปขึ้นรถประจำทางสายเชียงใหม่-ปายที่สถานีขนส่งอาเขต ซึ่งมีบริการวันละหลายรอบ จากต้นทางถึงจุดหมายมีระยะทาง 135 กิโลเมตร บางคนเมารถเพราะดื่มด่ำกับเส้นทางที่คดเคี้ยวเป็นงูเลื้อยเลาะเลียบไปตามไหล่ผาสูงชัน ตลอดสองข้างทางเราได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาทอดตัวเป็นแนวยาวสลับซับซ้อน ปุยหมอกลอยฟุ้งปกคลุมความเขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ของป่าหลังฝน แสงตะวันยามสายสาดส่องผ่านต้นสนดูเหมือนภาพแรเงา

ด้วยเวลา 3 ชั่วโมงเศษๆ รถพาเรามาถึงเมืองปาย ทุกคนลงมายืนสูดอากาศเข้าปอดเต็มแรง ปล่อยให้สายลมเย็นๆ ลอยมาปะทะผิวกาย ก่อนจะเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งบ้านพักชื่อ "เดอะ คันทรี่ไซด์ บังกะโล" ซึ่งเราจองไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยราคาย่อมเยา บ้านพักแห่งนี้ตั้งออกมานอกตัวอำเภอปาย จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบและแตกต่างจากเกสต์เฮาส์ในเมืองที่ค่อนข้างจะพลุกพล่าน โดยมีการจัดตกแต่งรูปทรงบ้านอย่างเป็นเอกลักษณ์ มีบันไดขึ้นไปนั่งชมวิวด้านบนหลังคา ท่ามกลางแมกไม้และสายหมอกในยามเช้า ระเบียงทอดยาวเห็นทุ่งนา รวงข้าว ไอดิน และกลิ่นฟางในฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังมาถึง

หลังชื่นชมธรรมชาติสักพักก็โทรศัพท์หาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ให้เขานำรถมาส่งเราถึงที่พัก เพื่อสะดวกต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวจุดต่างๆ ในเมืองปาย เมื่อพระอาทิตย์หล่นหายตรงหลังเขาทิศตะวันตก เราขี่รถกินลมชมวิวและตระเวนชมบรรยากาศรอบตัวเมือง ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก วางแบกะดินจากชาวไทยใหญ่ เริ่มเปิดขายแต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวออกมาเดินไม่มากนัก สะพานและรีสอร์ตหลายแห่งริมแม่น้ำปายปรากฏร่องรอยความเสียหายจากน้ำป่า ขี้ฝุ่นจากดินโคลนที่น้ำป่าพัดมาปลิวฟุ้งเต็มถนน แต่ถึงกระนั้นในค่ำคืนแห่งต้นฤดูหนาวพระจันทร์ได้ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของเมืองปายให้มีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง

นอกจากการพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านที่ผสมผสานความเจริญแบบตะวันตกอย่างลงตัว เราไม่พลาดที่จะเข้าร้านดื่มกิน ฟังเพลงเบาๆ จิบชากาแฟร้อนๆ ในร้านที่จัดตกแต่งด้วยภาพศิลปะน่าชม เลือกซื้อโปสการ์ดหรือภาพถ่ายไอเดียเก๋ในมุมต่างๆ ของเมืองปาย เปลี่ยนรสชาติด้วยอาหารฝรั่ง เช่น แฮมเบอร์เกอร์ และอาหารพื้นเมืองอย่างข้าวซอยเนื้อในร้านน้องเบียร์

วัดถัดมาเรากางแผนที่สัญจรไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น วัดพระธาตุแม่เย็น วัดเก่าแก่คู่เมืองปาย ซึ่งตั้งอยู่บนเขา มีบันไดเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพบ้านเรือนและทุ่งนาเมืองปาย บริเวณทางเข้าพระอุโบสถมีคุณยายนั่งขายตุงข้าวเปลือก ซึ่งเอาไว้บูชาพระหรือห้อยคอเป็นเครื่องรางก็ได้ พวกเราอุดหนุนซื้อกันคนละเส้นสองเส้นเอาไว้เสริมกำลังใจในการเดินทางให้ปลอดภัย

น้ำพุร้อนท่าปาย แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติที่ไหลมาจากใต้ดิน โดยรอบเป็นป่าต้นสักที่อุดมสมบูรณ์ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 80 องศาเซลเซียส มีน้ำผุดเป็นฟองขึ้นมาและไอหมอกปกคลุมพื้นที่ น้ำตกหมอแปง น้ำตกสามชั้นแวดล้อมด้วยป่าไม้ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน

ปิดท้ายด้วยวัดน้ำฮู เพื่อไปกราบสักการะพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองปาย พระอุ่นเมืองเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยอายุประมาณ 500 ปี ตามประวัติศาสตร์ได้เล่าว่า เดิมทีนั้นเป็นวัดร้างที่ประดิษฐานพระอุ่นเมือง เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระพี่นางสุพรรณกัลยา และเมื่อครั้งได้บูรณะวัดใหม่จึงอัญเชิญมาเป็นพระประธานในโบสถ์พระอุ่นเมือง มีพระเศียรกลวง ส่วนพระเกษาเปิดปิดได้มีน้ำซึมออกมา ชาวบ้านถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์

3 คืน 4 วันที่พวกเราร่วมดื่มด่ำเสน่ห์เมืองปาย มิตรภาพวันเก่าๆ ในลิ้นชักความทรงจำที่รางเลือนได้กลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง พร้อมกับเติมความประทับใจครั้งใหม่ที่ตราตรึง.

/



Create Date : 29 เมษายน 2551
Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 18:21:26 น.
Counter : 528 Pageviews.

0 comments
ทริปอเมริกา #2 - ต่อเครื่องที่มะนิลา+ผ่านตม.แบบ fast trackที่นิวยอร์ค ฟ้าใสทะเลคราม
(18 เม.ย. 2567 18:15:13 น.)
春和歌山市 : ทำไมต้องวากะยามะ mariabamboo
(15 เม.ย. 2567 11:06:33 น.)
++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir
(13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)
ตลาดน้ำกวางโจว ดาวริมทะเล
(12 เม.ย. 2567 18:42:45 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Voiceofangel.BlogGang.com

toyor
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด