พระตำหนักฤดูร้อนบนเกาะสีชัง
พระตำหนักฤดูร้อนบนเกาะสีชัง

ณ ผืนท้องทะเลสีฟ้าคราม ห่างจากชายฝั่งอำเภอศรีราชา
จังหวัดชลบุรี ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร
คือสถานที่ตั้งอันโดดเด่นของ "เกาะสีชัง"
เกาะขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนประตูผ่านเข้าสู่ใจกลางอ่าวไทย ซึ่งเป็นทั้งจุดพักการเดินเรือสินค้านานาชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ในบรรยากาศแบบโรแมนติก ชวนให้ระลึกถึงอดีตวันวานที่น่าพิศมัยบนเกาะใหญ่กลางทะเลแห่งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นเกาะที่ประทับของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ คือรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6

การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะสีชังสามารถเที่ยวได้ในวันเดียว หรือจะพักค้างคืนเพื่อรอชมดวงอาทิตย์ในช่วงเย็นและเช้าก็ได้ โดยสามารถเช่ารถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็บจากท่าเทียบเรือ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปชมสถานที่ต่างๆ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่องคิดเป็นรอบๆ ละประมาณ 150-250 บาทขึ้นอยู่กับระยะทาง

แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คือพระราชวังฤดูร้อนที่มีนามว่า "พระจุฑาธุชราชฐาน" สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นทั้งที่ประทับสำหรับใช้บริหารพระราชกรณียกิจปกครองประเทศและดำเนินกิจการบ้านเมือง นอกจากนี้ยังทรงใช้เป็นที่พักผ่อนและฟื้นฟูพระพลานามัยพระราชวงศ์ และเป็นที่ประสูติของสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฑาธุชธราดิลก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน

พระราชฐานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสีชังตรงบริเวณแหลมวัง ไม่เพียงแต่จะมีทัศนียภาพของเวิ้งน้ำสีฟ้าครามอันกว้างใหญ่ไพศาลและเรือสินค้าเป็นฉากประดับอันสวยงามเท่านั้น หากยังมีสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เต็มไปด้วยหมู่ต้นลั่นทมออกดอกชูช่อส่งกลิ่นหอมเย็น และมีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างเหมาะเจาะงดงาม ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระน้ำ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผาตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของประเทศตะวันตก

เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังแห่งนี้คือ ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการประกาศสร้างพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ แต่กลับเกิดสถานการณ์ไม่สงบ ร.ศ.112 จึงสร้างไม่ทันเสร็จ ต่อมาภายหลังได้รื้อโครงสร้างพระที่นั่งที่เป็นไม้สักทองไปสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆเหลือให้เห็นเพียงส่วนฐานของอาคารเท่านั้น

สำหรับตัวอาคารต่างๆ ที่น่าสนใจเช่น ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ภายในเป็นโถงรูปกลม เพดานไม้ทำช่องระบายอากาศกึ่งกลางเป็นรูปกลีบดอกไม้ ลักษณะหลังคาเป็นทรงกลมยกเป็นรูปโดม ตึกวัฒนา หลังคาทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังผิง พระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร เป็นพระอุโบสถที่อยู่ในเขตพระราชวัง มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือมีพระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบลังกาภายในเป็นโถงรูปกลม เพดานโค้งตามรูปเจดีย์ปลายยอดแหลม เป็นศิลปะแบบโกธิคพร้อมช่องแสงโค้งติดกระจกสี ด้านข้างพระอุโบสถมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อมาจากพุทธคยาประเทศอินเดียมาปลูกไว้ด้วย

ช่วงนี้ลมหนาวปกคลุมประเทศไทย หากลองเปลี่ยนบรรยากาศการสูดไอหมอกจากภูผายอดดอยที่มีแต่ผู้คนแออัดมาเป็นการรับกลิ่นไอทะเลในหน้าหนาวบนเกาะสีชังก็น่าจะทำให้เก็บเกี่ยวความประทับใจที่แตกต่างจากคนอื่นๆ โดยสามารถนั่งรถจากสถานีขนส่งเอกมัยไปลงที่หน้าห้างโรบินสันศรีราชาแล้วต่อรถมาลงท่าเรือจรินทร์ ซึ่งมีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น.ออกทุกชั่วโมงใช้ระยะเวลา 45 นาที อัตราค่าโดยสารคนละ 20 บาท เมื่อไปเที่ยวเกาะสีชังแล้วจะรู้ว่าสีสันของเกาะแห่งนี้สดใสไม่น่าชัง




Create Date : 29 เมษายน 2551
Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 18:19:07 น.
Counter : 747 Pageviews.

1 comments
ทำไมเธอดูไม่ออก? nonnoiGiwGiw
(24 มิ.ย. 2568 12:52:05 น.)
ไหว้ท้าวเวสสุวรรณปลดหนี้ ขอพรที่วัดเถรพลาย สุพรรณบุรี นายแว่นขยันเที่ยว
(23 มิ.ย. 2568 00:14:55 น.)
Fujinomiya ไปกินอีก 1 ร้านที่อร่อยและน่ารักอบอุ่น สมาชิกหมายเลข 8906746
(23 มิ.ย. 2568 13:03:32 น.)
Nagasaki กลิ่นอายของเมืองท่าแห่งการเปิดโลกสู่ตะวันตก poongie
(21 มิ.ย. 2568 08:30:06 น.)
  


นี่ก็ยังไม่ได้เที่ยวขอรับ อิอิ
โดย: คนสาธารณะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:44:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Voiceofangel.BlogGang.com

toyor
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด