สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 15 ตอนจบ หน้า 4
ไฟในห้องประมูลก็ดับพรึบลงทันที

ทุกคนต่างแตกตื่น สักพักกลิ่นเหม็นราวกลิ่นศพฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง

แทนคุณหันรีหันขวาง เพราะมองอะไรไม่เห็น เขาจะลุกขึ้นแต่ก็ขนเข้ากับร่างใครสักคนที่ยืนข้างๆ ต้องกลับไปนั่งตามเดิน


ร่างที่ยืนข้างๆเขา พร้อมกลิ่นเหม็นสุดจะทน

เขาปิดจมูกไว้ หน้าน้อยๆ หันมาพร้อมไฟที่ส่องให้เห็นใบหน้าที่เน่าเฟะ



“แทนนนคุณณณณณ นายยยยจะเอาบ้านนนเราไปทำไมมมมมม”

เสียงเยือกเย็นเอ่ยลากเสียงยาว


“รินทร์”


แทนคุณตาเหลือกลาน ร้องออกมาอย่างไม่คิดมากว่าจะเป็นคนอื่นมาปรากฏตัว

จะลุกก็ลุกไม่ได้ ตัวแข็งเทื่อ เหงือออกท่วมตัว


“รินทร์ รินทร์...”


เขาพร่ำเรียกชื่อเธอราวคนบ้า หัวใจรนรานหวาดกลัวกับสภาพเน่าเฟะของอีกฝ่าย



ณรินทร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้



“รินทร์ เราขอโทษ”


แทนคุณพนมมือไว้



“นายยยยยฆ่าเราทำไมมมมม  นายยยยยยจาอาวววววบ้านนนนนนเราเหรอนนนนน”


เสียงเยือกเย็นเอ่ยถาม


แทนคุณลนลานจะหนี


“เราขอโทษเราไม่ตั้งใจฆ่าเธอ เราไม่รู้ว่าเธอท้อง เราจะเอาบ้านเธอไปทำโครงการ เราขอโทษ เราไม่ตั้งใจฆ่าเธอนะ เราขอโทษ”


แทนคุณพร่ำพูดเสียงสั่น พนมมือไหว้



“เอาบ้านนนนนนเราคืนนนนมา”



“เราขอโทษรินทร์ เราขอโทษ เราไม่เอาบ้านเธอแล้ว รินทร์ อย่าทำอะไรเราเลย เราไม่ได้ตั้งใจจะวางแผนฆ่าเธอ เราขอโทษ”


แทนคุณนั่งพนมมืออยู่กับพื้นอย่างหวาดกลัว



“เอาบ้านนนนฉานนนนนคืนนนนนมา”


“ฉันไม่เอาแล้ว ฉันไม่เอาๆๆๆ”


แทนคุณก้มหน้าก้มตาไหว้ตัวสั่นงันงก


ไฟห้องประมูลเปิดพร้อมกัน ทุกคนที่อยู่ในห้อง


ยืนอยู่ห่างๆ ปริมรีบกระโจนออกจากที่เข้ามาหาณรินทร์

ตำรวจที่นั่งรวมกับนักประมูลออกมารวบตัวแทนคุณ ที่หน้าตางงงวย


รินทร์ดึงฮูดออกจากผมหันไปมองหน้าปริมที่มายืนประคองเธอไว้


ปริมทำเป็นสะดุ้ง


“น่ากลัวเหมือนกันเฮะ” เขาเอ่ย



รินทร์ทำท่าจะอ๊วกเหม็นกล่องหนูเน่าที่เธอถือมา


ไตรภพรีบเอาถุงซิปใหญ่รับกล่องหนูเน่าแล้วปิดไว้ไม่ให้กลิ่นออก


แทนคุณเหมือนได้สติ


“นี่มันอะไรกัน รินทร์เธอตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ”


“ใช่มั้ง”


“พวกนายหลอกฉันใช่ไหม?”

เขาตั้งสติได้


“ไม่ได้หลอกนะ ฉันยังไม่ใช่ผีซะหน่อย”

ณรินทร์ตอบ


“สรุป นายจะเอาเงินบริจาคทำบุญใช่ไหม 450 ล้าน”

เธอถามเขา


“บ้า ไอ้พวกบ้า ไอ้พวกเฮงซวย”


“นี่นายอยากได้บ้านฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”


“ฮึ ใครจะรู้บ้านเก่าๆ โบราณอย่างบ้านเธอ ฝรั่งมันต้องการ ให้ราคาสูงลิบเลย ไม่ขายก็โง่แล้ว เธอมันโง่ เงินเป็น พัน พัน ล้าน หาทั้งชีวิตก็ไม่ได้”



“นี่นายคิดจะขายมรดกชาติอย่างนั้นหรือ?”

ณรินทร์ไม่คาดคิดว่าเพื่อนที่รู้จักร่วม 10 ปี ผู้ชายที่ดูอ่อนโยนเขามีจิตใจน่ากลัวขนาดนี้


“นายมีความตั้งใจจะทำร้ายฉัน ตั้ง 2 ครั้ง ฉันมีหลักฐานชัดเจน มีกล้องวงจรปิดที่คลินิคหมอสูติ แล้วยังที่ท่าน้ำอีก พวกฉันมีกล้องติดรอบบ้าน จึงได้รู้ว่านายจ้างวานพวกเรือยนต์มาชนเรือที่ฉันนั่ง พวกที่ขับเรือยนต์ฉันรู้จักดี พวกนั้นสารภาพกับฉันเองว่าโดนนายจ้างแล้วหลอกพวกเขาว่าทำหนังอยู่ ฉากที่นายจะให้พวกนั้นช่วยเป็นฉากบู้ เพื่อให้พระเอกช่วยนางเอกที่ตกน้ำ พอพวกนั้นรู้ข่าวว่าเป็นฉันที่จมน้ำตาย เขาก็มาสารภาพผิดกับแม่ แต่นายจงใจจะฆ่าฉัน เพราะว่านายอยากได้บ้านฉัน นายรู้ว่าฉันไม่คิดจะขายบ้าน ถ้าฉันตาย นายก็จะขอซื้อบ้านจากแม่ฉันมันง่ายกว่าใช่ไหม  ฉันเลยจัดฉากว่าตัวเองตาย แล้วให้ ปริมเอาบ้านมาประมูล เพื่อล่อนายมา แล้วนายก็กระหายอยากได้บ้านฉันจริงๆ ยอมลงทุนประมูลบ้านราคาสูงลิบขนาดนั้น นายมันใจร้าย กระทำความผิดแล้วยังลอยหน้ามานั่งประมูลเอาบ้านเขาอย่างใจเย็นขนาดนี้ เชิญเข้าไปอยู่ในคุกชดใช้ความผิดของนายเลย”



ณรินทร์สรุปคดีให้เพื่อน


แทนคุณหน้าตาเหลือกลานทำหน้าหวาดกลัว


“ณรินทร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเธอนะ”


“ฉันส่งหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว เดี๋ยวตำรวจจะสอบปากคำนายเองแร่ะ”


“ณรินทร์ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งนั้น เป็นช่อลดา ช่อลดาที่เขาอยากได้ปริมคืนไป ไม่ใช่ฉัน”

รินทร์มองเพื่อนที่รนรานกลัวความผิดแล้วยังโยนความผิดให้กับผู้หญิงอีก ทำให้รู้สึกหดหู่


“ไม่เป็นไรหรอกนะ นายไม่ต้องกลัวไป สมัยนี้ โรงพัก มีอาหารการกินที่ดี ไว้ว่างๆ ฉันจะไปเยี่ยม”


“รินทร์...รินทร์ ทำไมพูดแบบนี้ ไม่นะ ไม่”

เขาพูดเหมือนคนขาดสติจะตรงเข้าหาณรินทร์


ตำรวจรีบดึงตัวเขาไว้ ปริมดึงณรินทร์ไปข้างหลังเขา

ตำรวจจึงพาเขาไปจากห้องประมูลเพื่อสงบสติที่โรงพักต่อ


รินทร์หันไปมองหน้าปริม


“เราคงต้องไปให้ปากคำที่ สน ใช่ไหม” เธอเอ่ย


 
“ยังไง แทนคุณ เขาไม่ได้โดนประหารหรอก เขาแค่มีเจตนาจะฆ่า แต่ฉันยังไม่ตาย อาจจะแค่ โทษทำร้ายร่างกาย อาจจะแค่ปรับหรือติดคุก”


“ไม่ว่าจะแบบไหน ก็หวังว่าชาตินี้คงไม่ต้องเจอกันอีก” ปริมเอ่ย
 


“อืม แต่ผม ไม่โอเค กับการที่คุณทำแบบนี้เลยนะ มันอันตราย หากพลาดหกล้มไป หรือโดนพี่แทนทำร้าย ผมจะเสียใจขนาดไหน”


ปริมเอ่ยก่อนจะจูงมือณรินทร์ไปขึ้นรถกลับ


รินทร์รับหลบหน้าสามี เพราะท่าทางเขาจะสวดมากกว่านั้น

ตั้งแต่เธอท้อง เขาก็ระแวดระวังจนเธอแทบจะไม่ได้ไปไหน ยิ่งมีเรื่องนี้เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด


เธอขอร้องที่จะทำงานศพให้ตัวเอง แม้เขาจะไม่เห็นด้วยมากมาย แต่ก็จำใจยินยอมเหตุผลของเธอ


แต่แลกกับการห้ามเธอเข้าไปยุ่งกับพิธีงานศพ เพราะทางพ่อแม่เห็นว่าเป็นงานอัปมงคล

เธอจึงถูกขังไว้แต่ในห้อง ช่วงเวลา 1 เดือนที่หลบหน้าชาวบ้านอยู่ที่บ้าน

ก็แสนอุดอู้ แถมสามี วีดีโอคอล ตลอดวัน

แทบจะไม่ได้ทำอะไร นี่เขาไม่รู้สึกเบื่อบ้างหรือยังไง ที่ต้องมองหน้าเธอตลอด 24 ชั่วโมง

 



Create Date : 28 สิงหาคม 2562
Last Update : 28 สิงหาคม 2562 10:00:00 น.
Counter : 629 Pageviews.

0 comments
The Greatest Hits (2024) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(18 เม.ย. 2567 18:36:03 น.)
เวลาที่หายไป - บทที่ 27 ดอยสะเก็ด
(16 เม.ย. 2567 20:17:49 น.)
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Unitan.BlogGang.com

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด