สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 1




  สะดุดรักคุณเมีย

บทที่ 1

ปริมกลับไปทำงานได้ 2 วันก็ถึงวันศุกร์ เขาก็เตรียมตัวออกจาก

ออฟฟิตแต่ตั้งแต่บ่าย4 โมง 

จนเลขาสาวอดเหน็บเจ้านายหนุ่มหล่อไม่ได้


“คุณปริมจะรีบไปไหนคะ ทุกวันศุกร์ เหมือนตั้งนาฬิกาไว้เลยนะคะ 4 โมงทีไร ไม่เห็นเงาเลย”

เขาหันมามองเลขาสาวที่ส่งสายตาวิ้งๆ ใส่


“ถ้าคุณได้เจอที่ที่ทำให้คุณรู้สึกดีแล้วล่ะก็คุณจะไม่อยากพลาดแม้เสี้ยวนาทีเดียวที่จะไปใช้ชีวิตที่นั่น”


“โห...พูดแบบนี้น่าอิจ..ฉา จังนะคะ”


ชายหนุ่มอมยิ้ม ยิ้มที่ทำเอาใจสาวๆ สะลายกันค่อนเมืองแม่เลขาสาวเองก็แทบจะฝันเพ้อไปกับรอยยิ้มที่นานๆ ทีได้เห็น


“ไปล่ะ เดี๋ยวต้องไปหาซื้อเค้กมะพร้าวอ่อนอีก จะมืดก่อน”

“วานให้เด็กไปซื้อให้ก็ได้นิคะ” เธอแย้ง


“ไม่ได้หรอก ผมต้องไปซื้อด้วยตัวเอง” เขาเอ่ยก่อนเดินอย่างมาดมั่นจากไปทิ้งเลขาสาวมองตามตาระห้อย


เลขาหนุ่มถือเอกสารกลับมานั่งโต๊ะ ถึงกับมองตามสายตาฝันเพ้อของอีกฝ่าย


“คุณฝ้าย เป็นอะไร”


“ก็คุณปริมสิ ยิ้มที หล่อจริงๆ ปกติ น่าขรึมก็โครตเท่ห์แล้ว ยิ้มทีไรฝ้ายหมดแรง เลย”

เอกราช มองแล้วส่ายหน้ากับอาการของเพื่อนร่วมงาน


“ก็ได้แต่มองล่ะครับ”


ได้ยินเสียงคำตอบที่ขัดใจทำเอาฝ้ายหุบยิ้มหน้าตึง


“ทำไมล่ะ คุณปริมก็เป็นอาหารหูอาหารตา ทำอะไรก็ดูดีไปหมด 


ไม่ได้ขวางหูขวางตาเหมือนใครบางคน” เธอแขวะอีกฝ่าย


“เอ้อ ผมน่ะ ไม่กล้าไปขวางตาคุณฝ้ายหรอกครับ”ชายหนุ่มรีบตัดบทการสนทนาที่จะบานปลาย หญิงสาวเลยเปลี่ยนท่าที


“แล้วนี่เจ้านายเขาจะรีบไปไหนทุกวันศุกร์”


“กลับบ้านล่ะมั้ง”


“คุณปริมก็กลับบ้านอยู่ทุกวันนิ”

“หรือไม่ก็ไปหาแฟน”


“ฮ้า....คุณปริมมีแฟนแล้วเหรอ” ฝ้ายเอ่ยอย่างตกใจ พอประมวณสถานการณ์แล้วท่าจะจริง

เอกราชเงยหน้ามอง


“ไม่รู้สิ ก็เดาเอา เห็นทุกวันศุกร์ เจ้านายหน้าระริกระรี้เป็นดอกไม้บาน ถ้าไม่มีความรักแล้ว มันก็ผิดปกตินิสัยแก” 


เขาสาธยายแต่ตอนนี้ดูสีหน้าเพื่อนร่วมงานแล้วแตกร้าวกับสิ่งที่รับรู้จนแป้งพับบนหน้าเป็นร่องรอยร้าวระแหง


“ไม่จริง เพลย์บอยอย่างคุณปริม จะมีแฟน ไม่จริงสิอาจจะเป็นแค่ของเล่นชั่วครู่ชั่วยามก็ได้ คุณปริมไม่เคยจริงจังกับใคร 

คุณปริมไม่เคยควงใครเกิน 2 อาทิตย์ ผู้หญิงพวกนั้นเป็นแค่ทางผ่าน”เธอพร่ำเพ้ออย่างเสียสติ

เอกราชมองตื่นตะลึง


“เอ้อ...ก็คงจะจริงล่ะมั้งผมก็ไม่เคยเห็นเจ้านายออกอาการมีความสุขมากมายขนาดนี้เลยนะ”เขายังไม่วายก่อเชื้อเพลิงต่อ


ฝ่ายนั้นกลับร้องห่มร้องไห้ไม่เป็นอันทำงาน

ปริมแวะซื้อเค้กมะพร้าวอ่อนจากร้านประจำของเขา แล้วตรงไปอยุธยาทันที

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ปริมไปหาลูกค้าที่อยุธยาหลังจากประชุมกับลูกค้าจนเย็น ลูกค้าพาไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารเล็กๆ ริมน้ำ 


ขากลับมืดค่ำขับรถออกจากซอยเล็กๆ แคบๆนั้นแต่ดูเส้นทางกลับไม่เหมือนขามาเอาเสียเลย 

ระยะทางเหมือนไกลกว่าเดิมจนเขาเองเริ่มมึนงง ทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล้า 

อยู่ๆฝนก็ตกลงมาจนเขาไม่รู้ทิศทาง ขณะที่งุนงงหาทางออกไม่เจอเขาก็เกิดอุบัติเหตุหน้าบ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง ตัวเขาหมดสติไป ร่วม 2 วัน 

พอตื่นขึ้นมาพบหญิงสาวหน้าตาแปลกหน้าที่เฝ้าเขาอยู่ในโรงพยาบาลที่มีคนไข้มากมายนักธุระกิจหนุ่ม ไม่เคยเจอสภาพแบบนี้ 

แต่เขาก็หัวโล่งว่างเปล่าหญิงสาวพยายามถามข้อมูลญาติจากเขา แต่เขาเองกลับบอกเธอไม่ได้สักอย่าง 

เธอถามหมอว่าเขาความจำเสื่อมหรือไม่เพราะถามอะไรก็ไม่ยอมตอบและตอบไม่ได้ราวกับว่าเขาไม่มีความทรงจำของตัวเองเหลืออยู่เลย 

หมอบอกเพียงมันเป็นผลกระทบจากอุบัติเหตุ พักฟื้นสักระยะหนึ่งจะดีขึ้นเอง หลังออกจากโรงพยาบาล 

เธอจนใจพาเขาไปอยู่ที่บ้าน บ้านเรือนไทยริมน้ำ อันเงียบสงบหญิงสาวแปลกหน้าและแม่ผู้สูงวัยช่วยกันดูแลเขา 

เธอปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขายให้ร้านค้าและโรงแรมทุกๆ วัน เธอพยายามถามข้อมูลบ้านและญาติจากชายหนุ่ม 

แต่หัวเขากลับว่างเปล่าไม่สามารถบอกอะไรเธอได้ จนเธอจนใจ ต้องดูแลเขาต่อไป ผ่านไป2 อาทิตย์ 


จนชายหนุ่มสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เขารับรู้ถึงความอบอุ่นและความน่ารักของสองแม่ลูกที่ดูแลเขาอย่างเรียบง่าย 

ชีวิตของเขาไม่เคยพบพานสิ่งที่เรียบง่ายหากสุขใจแบบนี้มาก่อน ขณะเดียวกันความเร้นลับของบ้าน 

ที่เขาสัมผัสได้ ไม่ว่ากลิ่นธูป และน้ำปรงสมัยเก่าที่ลอยมา 

หรือเงาเลือนรางของชายชราและหญิงชราเจ้าของบ้านคนเก่าที่เขาเห็นในรูปมาปรากฏให้เขาเห็น 

หลังจากรถเขาซ่อมเสร็จ ชายหนุ่มค้นรถจึงพบนามบัตรของตัวเองจึงนึกได้ว่าเขาเป็นใคร 

กระเป๋าสตางค์ที่หญิงสาวเก็บไว้ให้เขาเธอให้เขามาตั้งแต่เขาฟื้น 

มันไม่มีเงิน มีเพียงแต่บัตรเครดิตหลายใบเพราะเขาไม่เคยพกเงินสด 

เขาต้องชดใช้เงินที่หญิงสาวช่วยจ่ายให้เขาทั้งค่าพยาบาลและค่าซ่อมรถ 

เขาขอร้องให้หญิงสาวพาเขาไปซื้อโทรศัพย์ใหม่แทนอันเก่าที่พัง 


หลังจากได้โทรศัพย์แล้วเขาโหลดแอฟที่จำเป็นต้องใช้เรียกเบอร์จากซิมการ์ดแล้วโทรหาพ่อ เพื่อเรียนให้ท่านทราบว่าเขาปลอดภัยดี 

ครอบครัวของเขาต่างตกใจและขวัญหายกับการจากไปของลูกชายร่วม 3 สัปดาห์ 

ท่านได้จ้างนักสืบออกตามหาแต่ก็ไม่พบ จนนึกว่าเขาได้ตายไปแล้ว 

แต่ก็ยังรอคอยการติดต่อกลับจากเขา เนื่องจากตรวจสอบการเคลื่อนไหวต่างๆ เงียบหายทั้งการรูดบัตรธนาคาร 


และการใช้โทรศัพย์ที่ไร้สัญญาณตอบรับชายหนุ่มถามจำนวนเงินที่หญิงสาวเป็นธุระให้กับเขา 

เมื่อหญิงสาวแจ้งยอดไปแล้วเขากลับโอนเงินให้เธอเป็น 2 เท่า สร้างความไม่พอใจให้กับอีกฝ่าย


“ฉันช่วยคุณไว้ เพราะมันเรื่องมนุษยธรรมฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาจ่ายเงินให้” เธอบอกเขา


ปริมคิดไม่ถึงว่า จะมีคนที่ปฏิเสธเงินในโลกใบนี้ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว 

ผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาทุกคนล้วนต้องการชื่อเสียง มีหน้ามีตาและต้องการเงินทั้งนั้น


บ้านเธอเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเงินที่ใช้ในการช่วยเขาทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถเธอต้องเจียดจากเงินเก็บของเธอด้วยซ้ำ


“ผมให้คุณส่วนแรก คือชดใช้ค่าใช้จ่ายที่คุณออกให้ผมส่วนที่สองคือดอกเบี้ย ที่คุณพึงจะได้ ผมไม่อยากให้คุณคิดมาก 

ผมไม่ได้ใช้เงินส่วนนี้เพื่อซื้อชีวิตหรือความสุข หรือตอบแทนน้ำใจของคุณที่มากล้นกับผม" 

"แต่เงินส่วนนี้มันคือค่าเช่า ค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าเวลาของคุณที่เสียสละมาเฝ้าผม และคุณแม่ของคุณอีกอย่าปฏิเสธมันเลย"

" ให้คุณคิดว่าผมมาเช้าบ้านคุณอยู่ 2 อาทิตย์ก็แล้วกัน”ชายหนุ่มยกเรื่องมาให้อีกฝ่ายหาข้อแย้งไม่ได้


“ต่อให้เป็นหมาแมวเจ็บป่วยมาฉันก็ยังเมตตา” เธอย้อนเขาอย่างทันคน ทำเอาคนฟังสะอึกที่โดนเปรียบกับหมาแมว


หญิงสาวไม่ได้สะสวยอะไร รูปร่างบอบบาง ตัวเล็ก หน้ากลม ตากลมโตจมูกทรงชมพู่แบบคนใจดี 

ดูภายนอกเรียบร้อย บุคคลิกนิ่ง แต่ดูๆ แล้วร้ายและขาหวีนอยู่ในที


หลังจากรับรู้ว่าชายหนุ่มท่าจะเป็นผู้มีอันจะกิน หญิงสาวก็อยู่ห่างๆเขา 

ไม่เข้าใกล้ และเตรียมขับไล่ไสส่งเขาออกจากบ้าน


“ผมขอพักอยู่ต่ออีก 2 อาทิตย์ได้ไหม” เขาขอร้องหญิงสาว


“ดูท่าทางคุณก็หายดีแล้วนิ”


“แต่ผมก็ยังเจ็บอก แผลก็ยังไม่แห้ง พักอยู่ที่นี่อากาศดีๆมันจะได้หายไวๆ”


“อืม พ่อแม่ พี่น้อง ลูกเมียคุณ เขาจะไม่ตามหาคุณเหรอคะ”


“พ่อกับแม่ท่านทราบแล้วผมอยู่ที่นี่ ลูกเมียผมยังไม่มี”ใบหน้ารูปหล่อปากบางได้รูปจีบปากจีบคอตอบ


พอเขาจำอะไรได้ ดูพฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปเยอะมาก 


ท่าทางเหมือนเสือผู้หญิง ไม่น่าไว้ใจ หญิงสาวคำนึงถึงความปลอดภัยของเธอกับแม่


“ที่จริงคุณก็มีเงินนะ จะไปอยู่ที่ดีๆ ก็ได้”


“บ้านคุณน่ะดีที่สุดแล้ว ผมชอบที่นี่”


หญิงสาวเลยปล่อยให้เขาอาศัยอยู่ด้วย โดยเธอแค่หาข้าวหาน้ำให้เมื่อถึงเวลาพาไปหาหมอเมื่อครบกำหนดนัด 

จนเขาพอใจ กลับบ้านไป เธอก็คิดว่า ทุกอย่างคงจะดีเองเธอจะไม่ได้พบพานกับเขาอีก



ชายหนุ่มกลับไปที่บ้าน พ่อกับแม่ให้เขาไปตรวจสุขภาพอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย 


ปริมเป็นลูกคนเล็กของท่าน มีนิสัยรักสนุก แต่ก็เอาการเอางานเขาจริงจังกับงานที่ตัวเองรับผิดชอบ 


แต่นั่นก็เพราะจากการเคี่ยวเข็ญจากพ่อกับแม่ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นวัยรุ่นที่ชอบสนุกเที่ยวเตร่ 

ผลาญเงินพ่อกับแม่ไปวันๆแต่พอมาทำงาน เขาเองก็สามารถต่อยอดธุระกิจไปได้ไกล 

จากเด็กไม่เอาไหนกลายเป็นนักธุระกิจหนุ่มอนาคตไกลเป็นที่หมายปองของสาวๆ


ในเดือนธันวาคม ชินแสดูดวงประจำปี ได้ตรวจดวงชะตาให้ทั้งครอบครัว 

ชินแสเอ่ยอย่างตกใจเมื่อตรวจดวงชะตาของชายหนุ่ม


“อาปริม ลื้ออาจจะตายได้นะ ถ้าลื้อไม่รีบแต่งงานก่อนข้ามปี”


เหมือนสายฟ้าฟาดลงครอบครัว พ่อกับแม่ต่างวิตกกังวล ด้วยพ่อลูกชายพวงมาลัยไม่ได้มีสาวที่เขาจริงจังด้วยสักคน


“ผมยังไม่อยากแต่งนะครับ” เขาโต้แย้งไป


“ลื้อไม่แต่งลื้อก็ตาย”


“มีอะไรช่วยได้ไหมท่านชินแส อย่างไปทำบุญเก้าวัด แบบนี้ค่ะ” แม่รีบถาม


“ไม่เลย ดวงชะตาลื้อมันขาดแล้ว ถ้าไม่แต่งงานเพื่อเอาดวงเมียมาฉุด”


“ผมยังไม่อยากแต่งนิ” ชายหนุ่มรั้น


“ลื้อไม่แต่งก็ตาย” ชินแสยังยืนกรานคำพูดตัว


“มีบ้างไหมที่ท่านชินแสดูผิด” เขาแย้งหน้าตายอย่างท้าทาย


“นี่ลื้อกล้าลองดีกับอั๊วเหรอ” ชินแสเสียงดังอย่างโมโห


พ่อรีบเข้ามาห้าม


“เอ่อ เอ่อ ไม่ใช้อย่างนั้นน่า ท่าชินแส ปริมมันยังเด็กปากพล่อยไปหน่อยไม่มีอะไรหรอกครับอย่าเคืองหลานเลย” ท่านชินแสสะบัดหน้างอนไป 1 ตลบ


“ท่านชินแส เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ดูแลความเรียบร้อยให้บ้านเรามาหลายสิบปี มีอะไรบ้างที่ท่านไม่รู้ไม่เห็นมีอะไรจะให้แก้อะไรเราไม่เคยติดขัดหรอกครับ”


“จะให้ทำอะไรก็บอกมาได้เลยครับ เราต้องแก้ให้ดีขึ้นอยู่แล้ว”ชินแสอารมณ์ดีขึ้น เดินเชิดหน้ามาหาปริมที่นั่งฟังอย่างเนื่องๆ


“เดือนที่แล้ว ลื้อไปประสบอุบัติเหตุมาใช่ไหม ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนั้นช่วยลื้อลื้ออาจจะตายก็ได้” ชินแสเอ่ยเสียงเข้ม


ปริมมองตาปริบๆ เขาไม่ได้เล่าเรื่องณรินทร์ช่วยเขาให้ใครฟังเลย


“ผู้หญิงคนนั้นแร่ะที่จะผูกดวงชีวิตลื้อได้หากไม่แต่งกับเขาก่อนสิ้นปี ลื้อตายยยย” ชินแสพูด


ทุกคนหันไปมองหน้าปริมที่ตาเหลือกลาน





Create Date : 03 มกราคม 2562
Last Update : 5 มกราคม 2562 15:46:33 น.
Counter : 881 Pageviews.

0 comments
: หยดน้ำในมหาสมุทร 33 : กะว่าก๋า
(11 เม.ย. 2567 05:15:42 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 32 : กะว่าก๋า
(10 เม.ย. 2567 06:04:44 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 31 : กะว่าก๋า
(9 เม.ย. 2567 05:58:44 น.)
๏ ... เสียดายเงิน ค่าจ้างด่า ... ๏ นกโก๊ก
(9 เม.ย. 2567 21:03:39 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Unitan.BlogGang.com

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด