สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 8 หน้า 3
ค่ำคืนนั้นณรินทร์ฝันว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำ เธอพยายามจะช่วยตัวเอง

พยายามพยุงตัวแต่สุดท้ายก็เหนื่อยล้าและจมน้ำไป เธอฝันซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นทั้งคืน

เหมือนเป็นเรื่องที่เธอฝังใจจากอดีตอย่างเครียดแค้นคนที่ทำให้เธอต้องตาย

ปริมเห็นหญิงสาวนอนดิ้น และทำเสียงอู้อี้อย่างทรมาน เขาคิดว่าเธออาจจะฝันร้าย

ได้แต่กอดปลอบเธอทั้งคืน
 
………………………………………………………………..

ปริมเข้ามาประชุมบริษัทประจำเดือน หลังจากประชุม

เขากลับเข้าห้องเพื่อเคลียร์แฟ้มเอกสารหลายอย่างที่ต้องอนุมัติ

มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาที่ออฟฟิต ร่างระหงส์

มองไปรอบห้องรับรองอย่างพิจารณา ห้องถูกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะตรงกลางและเก้าอี้อีก  5 ตัว

ปริมออกจากห้องประชุม เลขาสาวรายงานว่ามีแขกมาขอพบ

เขาเดินไปที่ห้องรับรองอย่างสงสัย หญิงสาวหน้าสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางค์สีสด หันมาส่งยิ้มหวานให้เขา


“ปริมคะ”
“ช่อลดา” ปริมเรียกชื่อแขกผู้มาเยือนด้วยความประหวาดใจ


“พอดีผ่านมาทางนี้ เลยซื้อขนมมาฝากค่ะ” หญิงสาวลุกขึ้นยื่นถึงขนมให้เขา


“ขนมเจ้านี้ อร่อยนะคะ ไม่หวานเกินไป อย่างที่ปริมเคยชอบไง” เธอส่งสายตามีความหมายให้เขา


“ขอบคุณครับ เขารับมาอย่างมีมารยาท”

“ออฟฟิตของปริมเก๋ดีนะคะ ไม่ได้เจอแค่ 5 ปี ไม่อยากเชื่อว่าจะกลายเป็นนักธุระกิจพันล้านไปแล้ว”

หญิงสาวมอบไปรอบๆ อย่างสนใจ

“เป็นธุระกิจของครอบครัวครับ”

“วันนี้ว่างไหมคะ ลดา ว่าจะชวนไปทานมื้อเย็นที่ร้านหน่อยค่ะ”

“ต้องขอโทษด้วยครับ ยังเคลียร์งานไม่เสร็จ”

น้ำเสียงอันสุภาพปฏิเสธ ทำเอาหญิงสาวหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้า

“พรุ่งนี้ล่ะคะ ลดา อยากให้ปริมไปช่วยติร้านหน่อยค่ะ”

ช่อลดาพยายามจะหาช่องทางชักจูง

“พรุ่งนี้ผมออกต่างจังหวัดครับ”

“ว้า แย่จัง ลดา คงมารบกวนปริมแน่ๆ เลย นักธุระกิจพันล้านไหนเลยจะมีเวลากับเรื่องเล็กน้อย”

หญิงสาวพูดอย่างจริต

“ไว้ว่างค่อยนัดกันดีกว่าครับ”

เขามองเห็นอีกฝ่ายทำท่าเสียใจเลยพูดเลี่ยงอย่างให้เกียรติ

“ลดา ก็อยากจะหาเวลาให้เราได้คุยกันอีกนิคะ”

หญิงสาวออดอ้อนเลื่อนมือมากุมมือเขาไว้ ทำเอาปริมสะดุ้ง พอดีเสียงโทรศัพย์ดังขัดจังหวะ

เขาถอนหายใจอย่างโล่ง มองดูเป็นเบอร์เมษ

“มาแล้วเหรอครับ เดี๋ยวเจอที่ห้องก่อนนะครับ”

เขาพูดเป็นการเป็นงาน

“ผมมีลูกค้าครับ ต้องขอโทษที่ไม่มีเวลาคุยกับลดานาน”

หญิงสาวมองอย่างผิดหวัง แม้จะเอ่ยว่าเธอจะรอก็ดูไม่งาม

“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นลดา กลับก่อน แล้วเจอกันใหม่นะคะ นี่คะนามบัตร เกิดว่าอยากจะเลี้ยงข้าวลูกค้า ก็แวะไปที่ร้านนะคะ”

หล่อนยัดเยียดนามบัตรให้เขาไว้


“ครับ”

ช่อลดาลุกขึ้นถือกระเป๋า ชายหนุ่มลุกแล้วเปิดประตูให้เธอ

แล้วเอ่ยลาอย่างสุภาพ

ช่อลดาคิดในใจ ว่ายังไงเธอจะต้องกลับมาหาเขาอีก

แล้วการที่เขาทำห่างเหินเธอขนาดนี้ นางฟ้าอย่างเธอจะต้องช่วงชิงเขากลับมา

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีใครอยู่ก็ตามแต่ เธอหันกลับมามองแผ่นหลังร่างสูงโป่รงที่ไม่หันกลับมาแลเธอแล้วขัดใจนัก

“คุณฝ้ายครับ มีขนมในห้องรับรองเอาไปทานด้วยนะครับ”

เขาบอกเลขาหน้าห้องก่อนเข้าห้อง

ฝ้ายฉีกยิ้มแป้นที่ได้ลาภปากอีกแล้ว

...............................................................................................

ปริมนั่งลงบนโต๊ะทำงาน แล้วเปิดแฟ้มเอกสารเพื่อเคลียร์งานต่อ
 
เมษโผล่มาเหมือนรู้เวลา เขาพยายามลอยหน้าลอยตาเพื่อให้เพื่อนรู้การมาถึง

“มีอะไร” เขาเงยหน้ามองเพื่อนสนิท

“โหวว มีอะไร นี่ประโยคคำถามเหรอ ก่อนหน้านี้นายเรียกฉันมาทุกวัน”

“แล้ววันนี้ว่างเหรอ?”

เมษมองเพื่อนอย่างแปลกประหลาด ที่เพื่อนไม่สนใจเขาเลย

“ช่วงนี้นายไม่มีปัญหากับเมียแล้วเหรอ แล้วนี่ฉันมาออฟฟิตไม่เคยเจอนายเลย”

“ก็งานยุ่ง เร่งงานที่อยุธยา”

“อ้อ” เมษพยักหน้ารับรู้ แม้จะคิดว่าไปเฝ้าเมียหรือไปทำงานกันแน่

“มีข่าวจะบอก” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง

“พอดีฉันไปงานประมูลของกระทรวงวัฒนธรรมมา” เมษเริ่มเรื่องของเขา

ชายหนุ่มยังก้มหน้าเซ็นส์เอกสารฟังเพื่อนเล่าไปพลาง ดูเขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่

“นายรู้ไหมฉันไปเจอใครมา ก่อนหน้านี้ลูกน้องบอกว่ามีบริษัทใหม่ไฟแรงมากวาดประมูลงานรับเหมาไปหมด”

เมษทำธุระกิจรับประมูลงาน เขาจะคลุกคลีกับงานประมูลอย่างดี งานประมูลของเขามีทั้งทำเอง

และรับจ้างประมูลให้กับบริษัทอื่น หลายงานที่ปริมเองก็ให้เมษประมูลให้

“วันก่อนฉันเลยไปดูเอง” เห็นเพื่อนยังไม่มีท่าทีสนใจ

“ฉันเจอพี่แทนคุณ” ปริมเงยหน้ามองเขาแว๊บหนึ่งแล้วก้มลงเซ็นส์เอกสารต่อ

“นี่นายไม่สนใจเหรอ”  
                              
“ฮืม เล่าต่อไปสิ” ปริมยังนิ่งขรึมฟังเพื่อนพูดพลางเซ็นส์เอกสารต่อ

“บริษัทใหม่ไฟแรงที่ว่าก็คือพี่แทนคุณ เขาชนะการประมูลแทบทุกงานเลยนะ”

“ก็ดีนิ ฉันก็เจอเขาที่เกาะช้าง เห็นบอกว่าจะขยายงานปีละ 7%”

“แล้วกระทรวงวัฒนธรรมเขาประมูลงานอะไร?”

เขาถามเมษ เพราะดูแล้วไม่ใช่งานน่าสนใจสำหรับเขานัก


“จัดงานซุ้มเรือนไทย  4 ภาค เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาตร์ให้ชลรุ่นหลังที่ประทุมธานี งบก็ ราวๆ 5 ล้านบาท” ชายหนุ่มเอ่ย


“ฮืม เหมือนจะงานไม่ใหญ่ไม่โตเท่าไหร่ แล้วงานท่าเรือใหญ่ ที่ปากน้ำล่ะ

นัดเซ็นส์สัญญาเมื่อไหร่”

ชายหนุ่มถามเพื่อนเรื่องงานที่ให้ไปเป็นธุระให้


“อาทิตย์หน้า ยังไงฉันโทรบอกนายอีกที”

ปริมพยักหน้ารับทราบ ปิดแฟ้มลง เมษแปลกใจที่ดูเขาไม่ได้สนใจกับข่าวแทนคุณเท่าไหร่
 
“ถึงงานไม่ใหญ่ไม่โต นายก็รู้นิ ว่าราชการมันเป็นยังไง?” เมษบอกเพื่อน


“ก็งั้นแร่ะ ฉันเลยไม่สนใจประมูลงานราชการมาทำ ยกเว้นถูกจ้างให้ทำ”

“แล้วนี่นายไม่สนใจพี่แทนแล้วเหรอ?”

“ฮืม ทำไมต้องสนใจด้วยล่ะ”

“อ้าว ก็ไหนบอกว่ากลัวเขามาสวมเขานายไง”

เมษแปลกประหลาดใจกับท่าทีไม่ใยดีของเพื่อน

ปริมยิ้ม

“ไม่จำเป็นแล้ว ยัยนั่น ไม่มีเวลาไปหาเขาหรอก”

เมษกระพริบตาปริบๆ มันชักจะยังไงแล้วนิ หน้าตาแบบนี้

“แล้ววันนี้เราจะไปไหนต่อดี”

“ไปไหน?” อีกฝ่ายถามอย่างไม่รู้ว่าเพื่อนจะมีจุดมุ่งหมายยังไง

“ก็ ไปหาอะไรทาน นั่งดื่มชิวๆ ไง ร้านไหนดี?” เมษพยายามเตือนสติเขา

ยังไม่ทันที่ปริมจะตอบ มีสายโทรศัพย์เข้ามา โชว์หราว่า “เมียจ๋า”

ปริมรีบรับ เมษมองอย่างจับผิด

“ว่าไงจ๊ะ ให้รีบกลับเหรอ มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ได้จ้า ไม่เกิน ชั่วโมงนึงนะจ๊ะ”

ชายหนุ่มวางสายไป มองเมษอย่างลืมตัว

อะไรนั่นล่ะ จ๊ะจ๋า มันใช่ปริมซะที่ไหนกัน เมษมองอย่างกับถูกผีหลอก แล้วนี่จาก อ่อนนุช จะเหาะ

ไปหรือไงมิทราบจะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง ถึงอยุธยา  เมษคิดอย่างแตกตื่น


“นายหมดเรื่องหรือยัง” ทำเสียงขรึมใส่เมษซะงั้น


“นี่นาย จะไปไหน?” เขาถามจ้องเขม่ง

“ก็กลับบ้านสิ นายจะไปด้วยไหมล่ะ”


“บ้านไหน อย่างบอกนะ ว่า... บ้าน.... เมีย..... จ๋า” เขาเว้นเสียงถามขาดช่วง


ปริมยักไหล่

“อึม จะไปด้วยไหมล่ะ” พูดแล้วลุก ถือกระเป๋าเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไม่สนใจ เมษวิ่งตาม


“นี่ ไม่เจอกันแป๊ปเดียว นายเป็นแบบนี้เลยเหรอ”


“แบบไหนว่ะ พูดให้เคลียร์”

“ก็ ยังงี้ไง”

ทั้งสองเดินไปที่ลิฟท์

“สรุปจะไปด้วยไหม ถ้าไปจะไปกับผมหรือไปเอง”

“ไปกับนายแล้วฉันจะกลับยังไง”

“ก็กลับพรุ่งนี้ไง พรุ่งนี้ผมมาส่ง”

“จะบ้าเหรอ ฉันมีบ้านนะ”

“ก็เห็นปกติไม่เคยกลับบ้านไปนอน”

“อ้าว พูดให้ประวัติเสียอีกแล้ว”

ทั้งสองทำเป็นทะเลาะกันฮาเฮ ก่อนจะแยกขึ้นรถคนละคันแล้วขับตามกันไป

เมษไม่ได้ไปอยุธยานานแล้ว เขาเลยถือโอกาสนี้ไปเยี่ยมครอบครัวของเพื่อน

เพราะเห็นอาการแปลกๆ แล้วชักจะยังไง
 

 



Create Date : 26 เมษายน 2562
Last Update : 16 สิงหาคม 2562 7:12:16 น.
Counter : 404 Pageviews.

0 comments
เวลาที่หายไป - บทที่ 27 ดอยสะเก็ด
(16 เม.ย. 2567 20:17:49 น.)
เรา คือ เอไอ ชีวภาพ..ที่ ทุกอย่าง ทำงาน อัตโนมัติ..อวิชชา ไม่รู้ โง่ ทุกข์..โดย อัตโนมัติ 15 CXO.Asia
(15 เม.ย. 2567 05:12:22 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Unitan.BlogGang.com

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด