มารยาทสังคม (Social Etiquette) พื้นฐานที่คุณรู้แล้วจะดูดี
 

มารยาทสังคม (Social Etiquette)
พื้นฐานที่คุณรู้แล้วจะดูดี

 
 

1. ตัวเปิดของทุกบทสนทนาคือการไหว้ทักทาย หลายคนเข้าใจว่า คนด้อยอาวุโสกว่าจะต้องเป็นคนเริ่มไหว้ทักทายก่อนเสมอ ซึ่งไม่ผิดแต่ไม่ถูก เพราะที่จริงคนที่ยิ่งใหญ่มักจะไหว้คนอื่นก่อนแทบทุกครั้ง (โดยที่ไม่กลัวว่าจะเสียเกียรติ เพราะเขามีเกียรติมากเหลือเฟือ คนที่กลัวเสียเกียรติ คือคนที่ไม่ค่อยมีมัน เลยกลัวที่จะเสียมันไป)
.
2. ทริคเล็กน้อยของการไหว้ คือไม่ควรนั่งไหว้ ยืนได้ควรยืน โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ ถ้าเรานั่งโต๊ะอยู่ก่อนในร้านอาหาร ผู้ใหญ่มาถึงทีหลัง สิ่งดีงามที่สุดสิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้คือ ยืนขึ้นต้อนรับพร้อมไหว้แบบเต็มรูปแบบ และรอให้ผู้ใหญ่นั่งลงก่อนทุกครั้ง
.
3. ความอ่อนน้อมถ่อมตัวคือหัวใจสำคัญในการเป็นที่รักของผู้คน
ทะเลที่มันยิ่งใหญ่เพราะมันอยู่ต่ำ แม่น้ำทุกสายจึงไหลเข้ามาหา มารวมกันที่ทะเล ถ้าคุณได้มีโอกาสเจอคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คุณจะต้องประหลาดใจว่าทำไมเขาอ่อนน้อมมาก ไหว้เราก่อนและก้มต่ำจนเราเขิน ไหว้คืนแทบไม่ทัน (มหาเศรษฐีหลายคนเป็นแบบนี้!)
.
4. ตรงข้ามกับความอ่อนน้อมถ่อมตัว คือการขี้อวด
3 อวดที่คุณต้องระวังสุดๆ คืออวดเก่ง อวดรวย และอวดรู้ ในวงสนทนาใดๆ ใครอวดหนึ่งในสามอย่างนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ จะเป็นที่น่าหมั่นไส้ น่ารำคาญพาลไปถึงน่ารังเกียจ
จงจำไว้เสมอว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่ชอบคนขี้อวด
ซึ่งอาจไม่ทุกคนที่ชอบคนอ่อนน้อม แต่ทุกคนไม่ชอบคนขี้อวดแน่นอน และให้จำไว้อีกว่า ยิ่งใครอวดเรื่องไหน คนจะมองว่าคุณยิ่งขาดเรื่องนั้นมากขึ้นเท่านั้น! (ไม่มีราชสีห์ตัวไหน ไปยืนคำรามริมผาทุกชั่วโมงหรอก ที่เห่าบ่อยๆ คือหมาทั้งนั้น! คนเบ่งคือไม่จริง คนจริงคือไม่เบ่ง เพราะไม่จำเป็น!)
.
5. มารยาทสากลในการโทรศัพท์
สำหรับฝั่งคนโทร ถ้าเรื่องทั่วไป โทรไปไม่รับให้ missed call 1 สายแล้วเว้นไว้ซัก 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยโทรใหม่ แต่ถ้าเรื่องด่วนประมาณหนึ่ง อนุญาตให้ missed call 2 สายในครั้งเดียวได้พร้อมส่ง SMS ไปแจ้งให้โทรกลับพร้อมระบุหัวเรื่องสั้นๆ ไม่มีใครควร missed call เกิน 2 สายติดกันทั้งนั้น ยกเว้นเรื่องคอขาดบาดตาย
.
6. ส่วนฝั่งคนรับโทรศัพท์เมื่อเห็น missed call ควรโทรกลับให้เร็วที่สุด เวลาที่คุณใช้โทรกลับยิ่งน้อยเท่าไหร่แสดงถึงปริมาณความใส่ใจที่มากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่อยากให้ทำตอนที่ติดงานคุยไม่สะดวก คือรับสายแล้วบอกว่าไม่สะดวกคุยพร้อมแจ้งว่าจะโทรกลับตอนกี่โมง หรืออย่างน้อย SMS ก็ยังดี เพราะไม่มีใครควรรออย่างไร้ความหวังทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่เสียมารยาทที่สุด ไม่ควรทำอย่างยิ่งในทุกกรณี คือเห็น missed call แล้วไม่โทรกลับภายในวัน
.
7. หลักสำคัญของการคุยโทรศัพท์คือ คนที่โทรมาไม่ว่าสนิทกันแค่ไหนต้องถามเปิดก่อนเสมอ ว่าสะดวกคุยสายไหม? ยิ่งถ้าก่อนเก้าโมงและหลังสองทุ่ม ถ้าไม่ด่วนหรือไม่สนิทจริงๆ ไม่ควรโทรเลยเพราะถือเป็นการเสียมารยาท แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ต้องขอโทษก่อนทุกครั้ง และคนที่เป็นฝ่ายรับสายต้องให้คนที่โทรมาเป็นคนวางสายก่อนเสมอ (หลายคนชอบรีบวาง ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายคุยไม่จบ)
.
8. สิ่งแรกที่คุณต้องทำเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณ ไม่ใช่การรับโทรศัพท์ แต่เป็นการปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าเป็น iPhone กดปุ่ม volume มันจะหยุดเสียงหยุดสั่นทันที...และสำหรับการปิดเสียง หลายคนคนเข้าใจว่าต้องปิดเสียงโทรศัพท์เวลาเข้าโรงหนัง เวลาประชุม เวลาคุยงานกับลูกค้า แต่ความจริงก็คือคุณต้องปิดเสียงทุกเวลา! ตอนที่คุณจะเปิดเสียงมือถือของคุณได้ คือเวลาที่คุณอยู่คนเดียว หรืออยู่กับเพื่อนกับครอบครัวเท่านั้น!
.
9. ศิลปะในการใช้ภาษาเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะ request อะไรใคร ไม่ว่าจะแค่สั่งอาหารกับพนักงานหรือสั่งงานลูกน้อง พูดคำว่า "รบกวน" ขึ้นต้น และลงท้ายว่า "ขอบคุณ" เสมอ และในภาษาไทยหางเสียง(ครับ/ค่ะ) สำคัญมาก ไม่ว่าจะพูดกับใครต้องใส่หางเสียงเสมอทุกกรณีแบบไม่มีข้อยกเว้น ในบางครั้งกับบางสถานการณ์หางเสียงสำคัญกว่าทั้งประโยคซะอีก!...Tip เล็กน้อยในการใช้ภาษาคือใส่คำอุทานที่เหมาะสมไปด้วยเสมอบวกอารมณ์ที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย จะทำให้คนประทับใจมากขึ้นหลายเท่า เช่น
จาก "เยี่ยมมาก" เป็น "โว้ว! เยี่ยมมากก!"
หรือจาก "น่ากินนะ" เป็น "หูวว น่ากินจังง!"
.
10. การใช้ภาษาว่าสำคัญแล้ว แต่ที่สำคัญกว่าคือการใช้น้ำเสียง แววตาและภาษากาย ในทุก communication สิ่งที่คุณไม่ได้พูดออกมา (non-verbal) สำคัญกว่าสิ่งที่คุณพูดออกมา (verbal) เสมอ...วิธีฝึกคือ ลองฝึกใช้คำพูด น้ำเสียง แววตาและภาษากายที่อ่อนโยนกับคนที่ธรรมดาที่สุดเช่น พนักงานเสิร์ฟ แม่บ้าน ภารโรง รปภ. ถ้าคุณปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ได้อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติได้มากเท่าไหร่ คุณจะทำกับทุกคนได้เหมือนกัน...ยิ่งคุณให้เกียรติคนที่คนส่วนใหญ่ให้เกียรติเขาน้อยที่สุดได้มากเท่าไหร่ คุณจะได้รับเกียรติที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้มากที่สุดเท่านั้น...การให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม จะเป็นหนึ่งในนิสัยติดตัวที่ดีที่สุดในชีวิตคุณ!
.
11. โปรดจงจำไว้เสมอ คนที่อยู่ข้างหน้าคือคนที่สำคัญที่สุดเสมอ อย่ารับโทรศัพท์ใครต่อหน้าถ้าสายนั้นไม่จำเป็นและสำคัญจริงๆ และจงเดินไปคุยที่อื่นเสมอ เพราะจริงๆแล้วไม่มีใครควรใช้มือถือต่อหน้าคนอื่นทั้งนั้น ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการโทร รวมถึงการเล่นเฟส เล่นไลน์ด้วย!...เวลาเข้าสังคม จงเข้าสังคม ให้เกียรติคนที่อยู่ข้างหน้าคุณเสมอ ใช้มือถือเฉพาะเท่าที่ถ้าจำเป็นจริงๆ รวมถึงต้องขอโทษและขออนุญาตก่อนเสมอ...การหยิบมือถือมาเล่นโดยที่ไม่มีเหตุผล (คล้ายๆกับเล่นแก้เก้อ แก้เขินหรือฆ่าเวลา) ถือเป็นภาษากายเชิงลบ สื่อถึงการป้องกันตัวเอง (Defense mechanism) คล้ายๆกับการนั่งไขว้ห้าง กอดอก เพราะฉะนั้น เวลาคุยกับใคร เวลาไปปาร์ตี้ เวลาเข้าสังคม อย่าหยิบมือถือมาเล่นเลย เพราะคนจะไม่อยากหรือไม่กล้ามาคุยกับคุณ
.
12. มารยาทในการขึ้นรถโดยสารสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า คือ ขยับชิดในเสมอ อย่าขวางประตูเพราะแค่อยากลงง่ายๆ อย่าทำให้การลงรถง่ายๆของคุณทำให้คนอื่นลงยาก อย่ายืนพิงเสา เพราะเสาไม่ใช่ของคุณ และเช่นเดียวกับในลิฟท์ ไม่ควรรับโทรศัพท์หรือพูดคุยเสียงดัง และจงระมัดระวังเสียงจากหูฟังของคุณ บางทีคุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณเปิดดังเกินไปแล้ว และอย่าละเลยมารยาทพื้นฐานในการเสียสละที่นั่งให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงท้อง (อันนี้ต้องดูดีๆ)
.
13. การตรงต่อเวลาเป็นหนึ่งในมารยาทสังคมที่สำคัญที่สุด คนที่ตรงต่อเวลาไม่ใช่คนที่เคารพเวลา แต่เป็นคนที่เคารพคนอื่น ให้เกียรติคนอื่นเสมอ เพราะคุณไม่มีสิทธิมีเวลาในชีวิตมากขึ้น โดยการไปเบียดเบียนเวลาชีวิตคนอื่นให้น้อยลง
.
14. แต่ในบางครั้งคุณ accident ต้องไปสายจริงๆ ศิลปะของการสาย คือห้ามสายแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ เมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องสายแน่ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องทำให้เร็วที่สุด คือแจ้งคนที่เรานัดด้วยว่าเราสาย พร้อมบอกเวลาว่าคุณจะถึงประมาณเท่าไหร่ (สมัยนี้ใช้ app google map สามารถประมาณเวลาได้อย่างแม่นยำแล้ว) อย่างที่บอกไป ว่าไม่มีใครควรรอแบบไร้ความหวังทั้งนั้น! สิ่งที่แย่คือก่อนเวลานัดสิบนาทีเพิ่งมาบอกว่าสาย (เพราะจริงๆใครก็ดูรู้ว่าคุณต้องรู้ก่อนหน้านานแล้ว) แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือสายโดยไม่บอก ให้เขารอไปเรื่อยจนต้องโทรมาตามถามว่าถึงไหนแล้ว ห้ามเด็ดขาด! อีกอย่างที่อยากให้ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ไปทันเวลา=เซฟ คนอื่นจะมองคุณโอเค ไปก่อนเวลา=ดูดี คนอื่นจะมองคุณยอดเยี่ยม (บางประเทศในยุโรป มาตรงเวลา=สาย เพราะคุณต้องมาก่อน 15 นาที เป็นมาตรฐาน บางทีความรู้สึกสายไม่ได้เกี่ยวกับเวลา แต่เกี่ยวกับพอตอนมาถึง แล้วมีคนนั่งรออยู่อีกเพียบ!)
.
15. ในวงสนทนา ทักษะการฟังบางครั้งสำคัญกว่าการพูด การฟังอีกฝ่ายให้จบโดยไม่พูดขัดขึ้นมาเป็นเรื่องที่บางคนอาจไม่เคยทำได้เลยในชีวิต... สำหรับการเข้าสังคม การฟังคนอื่นให้จบแล้วเราค่อยพูดเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ระดับแอดวานซ์คือฟังแบบเอาใจใส่ ฟังแบบตื่นเต้น ฟังแบบอยากให้พูดอีก ศิลปะการฟังขั้นสูงคือฟังยังไงให้อีกฝ่ายคิดว่าเราสนใจเรื่องราวของเขามากๆ และอยากเล่าต่ออีกเยอะๆๆ จำไว้ว่าทุกคนเวลาพูดอยากมีคนตั้งใจฟังมากๆ ฟังแบบสบตาเราแล้วตาเป็นประกาย พยักหน้าตามตลอด อินตามความรู้สึกเรา ถามเราว่าแล้วยังไงต่อเสมอ...ลองสังเกตตัวเราเองก็ได้ ใครที่เป็นผู้ฟังที่ดีของเรา เรามักจะชอบคนนั้นเป็นพิเศษ บางทีไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำไป
.
16. การที่เราจะใช้ของคนอื่น ทำอะไรบนพื้นที่ของคนอื่น (โต๊ะคนอื่น บ้านคนอื่น แม้กระทั่งกรุ๊ปไลน์คนอื่น) ต้องขอ"อนุญาต"ก่อนเสมอในทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนคุณสนิทด้วยที่สุดหรือกระทั่งเป็นแฟนของคุณก็ตาม เพราะการพูดขออนุญาต บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการขออนุญาตจริงๆก็มี(เพราะเรารู้ว่าเขาให้อยู่แล้ว) แต่มันคือการ inform ว่าเราจะใช้ และเมื่อใช้เสร็จต้องบอกอีกครั้งใช้เสร็จแล้ว และต้องพูดขอบคุณเสมอในทุกครั้งไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้แหละสะท้อนถึงการได้รับการอบรมที่ดี
.
17. คุณรู้อยู่แล้ว มารยาทพื้นฐานที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคม คือการไม่ทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ แต่นอกจากขยะที่เป็นชิ้นๆแล้ว ผมยังหมายถึงขยะความคิด พวก junk thought ความคิดลบๆ คำพูดลบๆพวกนี้ ต้องระวังในการทิ้งมาในที่สาธารณะ เช่น ในวงสังคมใหญ่ที่คุณไม่ได้สนิทด้วยทุกคน หรือในเฟสบุคของคุณที่อาจมีคนไม่เกี่ยวมาเห็นด้วย...พวก junk thought หรือความคิดขยะพวกนี้ ผมเข้าใจว่าบางทีคุณอยากบ่น อยากระบาย แต่เรื่องจริงก็คือ คุณบ่นได้กับเพื่อนสนิทของคุณในที่ไพรเวทเท่านั้น แต่เรื่องจริงกว่าคือ จริงๆ ไม่ควรปล่อยความคิดขยะไปให้ใครทั้งสิ้น!...คนที่พูดบวกมากกว่าพูดลบ จะมีความสุขมากกว่าใครทุกคนบนโลกนี้! และไม่ว่าคนๆนี้จะไปที่ไหน เขาจะทำให้ society นั้นๆ มีความสุขไปกับเขาด้วยได้เสมอ
.
18. ศิลปะของการใช้เสียง เป็นอีกเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ หลักสำคัญก็คือ เวลาคุณจะทำอะไรต้องทำให้เบากว่าเสียงสิ่งแวดล้อม 1 level เสมอ...ถ้าไปร้านอาหารริมทางที่โช้งเช้งเสียงดัง คุณคุยดังหน่อยได้...แต่ถ้าไปร้านหรูบนโรงแรมที่ร้านเงียบมาก มีแค่เสียงเพลงคลอๆ เบา คุณต้องคุยเบา เคี้ยวอาหารให้เบา วางช้อนส้อมให้เบา อย่างตอนดูหนังก็เหมือนกัน เนื่องจากในโรงจะเงียบมาก การคุยกัน การเล่นมือถือ เป็นเรื่องต้องห้ามที่คุณรู้อยู่แล้ว แต่การเคี้ยวป๊อบคอร์นให้เบาที่สุด เป็นมารยาทที่หลายคนมองข้าม การระมัดระวัง volume ของตัวเองเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ดี...เรื่องพวกนี้บางทีต้องฝึก เริ่มฝึกจากการเป็นใส่ใจรายละเอียดของสิ่งแวดล้อม ฝึกใช้ชีวิตให้ประณีตขึ้น แล้วคุณจะได้ชีวิตที่ประณีตขึ้นมาในระดับที่คุณคู่ควร
.
19. หลายคนชอบสงวนคำชม จริงๆ แล้วคนที่ชมคนง่ายจะเป็นที่รักของทุกคน เป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆ ก็จดจำได้และอยากเข้าใกล้ จงชื่นชมสิ่งรอบตัว คนรอบตัว แล้วโลกรอบตัวคุณจะสดใสขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้ตังค์ซักบาท! เทคนิคการชมที่ทำให้คนชอบที่สุด คือชื่นชมยินดีในความสำเร็จของเขา ยิ่งเขาภูมิใจกับความสำเร็จนี้เท่าไหร่ เวลาคุณพูดถึงเรื่องนี้ เขาจะยิ่งประทับใจคุณมากเท่านั้น!
.
20. ในขณะที่หลายคนกลับตำหนิง่าย วีนง่าย บ่นง่าย พวก negative พวกนี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากกว่า อย่าพูดตำหนิใครไวเกินไปโดยที่ไม่ well-design การจะ blame หรือ complain ใครในแต่ละครั้ง คำพูด ท่าทาง น้ำเสียงของคุณต้องผ่านการ well-design มาแล้ว คือคัดสรรมาอย่างดีแล้ว นั่นแปลว่าคุณต้องสงบอารมณ์มาก่อนแล้ว แล้วจึงใช้สมองมาดีไซน์ มาคิดประมวลผล ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป...จำไว้เสมอว่า คำพูดเป็นหนึ่งใน 3 สิ่งที่ย้อนคืนไม่ได้ (คำพูด เวลาและโอกาส ผ่านไปแล้วย้อนคืนไม่ได้) แม้ว่าจะขอโทษทีหลังก็ตาม และคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคำพูดไหนของคุณอาจจะบาดใจเขาไปทั้งชีวิต! คุณมีคำพูดลบของใครที่เขาพูดมานานแล้วจนคนพูดลืมไปแล้ว แต่คุณยังฝังใจอยู่ไหม? นั่นแหละ! อย่าทำสิ่งนี้กับคนอื่น!
.
21. จริงๆแล้วศิลปะของการพูดชม-ตำหนิ หัวใจสำคัญที่สุด คือความจริงใจ ทุกอย่างต้องมีพื้นฐานจากความจริงใจและความอยากให้เสมอ แต่หลักที่ผมอยากให้ยึดก็คือ เวลาชมใครให้ใส่อารมณ์ไปเยอะๆ แต่เวลาจะตำหนิใครให้ใส่เหตุผลเท่านั้น แยกอารมณ์เก็บไว้ก่อนเลย!...และอีกหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของผู้นำทุกคน คือเวลา

ขอบคุณเจ้าของข้อมูล

 




 
Education blog
 
newyorknurse



 



Create Date : 26 เมษายน 2565
Last Update : 5 มิถุนายน 2565 7:11:14 น.
Counter : 466 Pageviews.

9 comments
สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 เรื่องปราชญ์ท้องถิ่น นายแว่นขยันเที่ยว
(10 เม.ย. 2567 03:05:45 น.)
แคดเมียม Cadmium ความอันตรายของมัน สมาชิกหมายเลข 4149951
(8 เม.ย. 2567 07:11:22 น.)
เมนูที่เต็มไปด้วยคุณค่าอาหาร ข้าวยำ สมาชิกหมายเลข 4313444
(4 เม.ย. 2567 00:28:04 น.)
กาแฟคั่วเข้ม เหมาะกับเมนูไหนดี สมาชิกหมายเลข 7983004
(29 มี.ค. 2567 02:14:10 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปัญญา Dh, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณทนายอ้วน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณtuk-tuk@korat, คุณกะว่าก๋า, คุณSertPhoto, คุณSweet_pills

  
สวัสดีครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 5 มิถุนายน 2565 เวลา:8:24:08 น.
  
จริงๆ มันเป็นมารยาทพื้นฐานแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสากลเลยด้วยควรทำให้ได้ครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 มิถุนายน 2565 เวลา:10:30:07 น.
  
โอ๊ยยุ่งยาก ขอเป็นคนไม่มีมารายาท
ดูจะง่ายกว่าค่ะพี่น้อย บางข้อก็เก๊๊น
ปิดเสียงโทรศัพท์ตลอดเวลา
ฝันไปเถอะค่ะสำหรับคนไทยเรา



โดย: หอมกร วันที่: 5 มิถุนายน 2565 เวลา:20:21:04 น.
  
อ่านแล้วนึกถึงผู้รู้ในสังคมไทยคนหนึ่ง เจ้ากอแก้วประกายกาวิล เลยครับ


ความมีมารยาทไม่ได้ทำให้คนที่รู้และปฎิบัตตัวเป็นคนที่น่าชื่นชม แต่ยังสะท้อนถึงการเลี้ยงดูด้วยครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 5 มิถุนายน 2565 เวลา:20:24:28 น.
  
ตอนรุ่นเราเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ปวดหัว
ตอนรุ่นลูกหลาน เราก็ถึงเวลาปวดหัวบ้างนะคะ
โลกเปลี่ยน ธรรมเนียมก็เปลี่ยนไป

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 มิถุนายน 2565 เวลา:13:08:49 น.
  
สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

มารยาทในเรื่องการพูด การสื่อสาร
นับเป็นคุณสมบัติที่สำคัญข้อหนึ่ง
บางคนพูดหรือเขียนอะไรโดยไม่คิด
สุดท้ายคำพูดหรือการเขียนของตัวเองนั้น
ก็กลับทำให้ภาพลักษณ์ตัวเองแย่ลงจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2565 เวลา:5:52:16 น.
  
เป็นคุณสมบัติที่ดี
ที่ทุกคนต้องทำนะครับ
โดย: SertPhoto วันที่: 7 มิถุนายน 2565 เวลา:13:00:22 น.
  
บางคนก็ไร้มารยาท ไม่รู้จักคิดจริง ๆ ค่ะพี่ เป็นไปได้ควรเลิกยุ่ง
โดย: sawkitty วันที่: 7 มิถุนายน 2565 เวลา:15:22:20 น.
  
มีประโยชน์มากค่ะ
ขอบคุณพี่น้อยนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 8 มิถุนายน 2565 เวลา:0:29:56 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Newyorknurse.BlogGang.com

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ...   United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]

บทความทั้งหมด