ธรรมอารี -ตื่นรู้ สู่ อมตธรรม- #ทำอะไรอยู่ก็ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา
ธรรมอารี -ตื่นรู้ สู่ อมตธรรม-
#ทำอะไรอยู่ก็ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา
ธรรมอารี -ตื่นรู้ สู่ อมตธรรม-
#ทำอะไรอยู่ก็ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา
การปฏิบัติจะไม่ใช่ว่าเร่งไปให้ถึง
ที่ปลายทางเท่านั้นแล้วถึงจะดี
ระหว่างการดำเนินนี่แหละ
ให้เราเรียนรู้กับสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
เวลาเมื่อพัฒนาสติเข้าถึงฐานเวทนาแล้ว
ก็เรียนรู้กับฐานเวทนาที่เกิดขึ้น
ฐานเวทนาจะมีประโยชน์ในการใช้ชีวิตมาก
เพราะว่าจะเป็นชั้นความรู้สึกตัวที่มีกำลังได้ดี
#ความรู้สึกตัวเป็นคู่ปรับกับความคิด
เมื่อเราอยู่กับความรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้ดี
ความคิดจะลดกำลังลงเองโดยธรรมชาติ
ผลที่ตามมาคือจะทำให้
ความทุกข์ ความทรมานต่าง ๆ
จะเบาบางลงไปมากทีเดียว
ผลพวงจากการใช้ชีวิต
.. ความเครียด
.. ความวุ่นวายใจต่าง ๆ
.. ความเศร้าความโศก
.. ความโกรธ ความขุ่นเคืองต่าง ๆ
มันจะเบาลงไปมากทีเดียว
เมื่อมีสติตั้งมั่น
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่
ฐานเวทนาจะเป็นบาทฐานใหญ่
ก่อนที่จะขึ้นสู่สภาวธรรมที่สูงขึ้นไป
ก็ฝึกให้ชำนิชำนาญ
อยู่กับฐานเวทนาจนรู้สึกเต็มตัว
ที่มันเป็นชั้นพลังงานทั้งตัว
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมาได้เนือง ๆ
สังเกตที่เป็นชั้นพลังงาน
ใจจะนิ่งขึ้นมาก
รู้สึกได้ทั่วกายทั่วใจ
.. นั่ง ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม
.. ยืน ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม
.. เดิน ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม
.. ทำอะไรอยู่ ก็ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
ขึ้นมาได้เนือง ๆ
สังเกตเวลาเราอยู่กับ
ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมดี ๆ
ความรู้สึกตัวที่มีกำลัง ใจก็จะนิ่ง
เรียกว่ามีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง
ทำให้เราสามารถสิ่งที่เรียกว่า
" พึ่งตน พึ่งธรรมได้ "
#กฎของธรรมชาติพึ่งตนและพึ่งธรรม
การจะพึ่งธรรมได้
เราต้องพึ่งตนเองได้ก่อน
สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับจิตใจได้
ร่างกายยังต้องมีภูมิคุ้มกันเลย
ถ้าร่างกายไม่มีระบบภูมิคุ้มกัน
เราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หรอก
เจอเชื้อโรคต่าง ๆ ก็ตายไปแล้ว
แต่ที่เรายังมีชีวิตอยู่ได้เพราะว่า
ร่างกายมันมีระบบภูมิคุ้มกันอยู่
สังเกตช่วงไหนระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
เราจะป่วยง่ายมาก เป็นสารพัดโรค
เราถึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มีความแข็งแรง
#จิตใจเราก็เช่นกัน
#เราก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา
ด้วยการฝึกหัดปฏิบัติ มีสติที่ตั้งมั่น
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่
จะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
ภูมิคุ้มกันของจิตใจนั่นเอง
ถ้าเราไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่มีกำลังสติ
จิตใจเปราะบาง เวลาเจอเรื่องราวต่าง ๆ
ก็จมไปกับโลก ทุกข์ไปกับสิ่งต่าง ๆ
หวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ในแต่ละวันกี่เรื่องล่ะ?
ที่มันเข้ามาในชีวิตของเรา
แล้วก็ทำให้เราทุกข์ใจ ให้วุ่นวายใจ
ให้เจ็บปวดทุกข์ทรมาน
ที่เราจมไปกับโลกเช่นนั้นก็เพราะว่า
เราไม่มีภูมิคุ้มกันของจิตใจนั่นเอง
.. ทำให้เกิดความเครียด
.. เกิดความวุ่นวายใจต่าง ๆ
.. น้อยออกน้อยใจ เสียอกเสียใจ
.. ร้อนอกร้อนใจ
#เป็นผลพวงจากการที่เราไม่มีภูมิคุ้มกัน
#ไม่มีความเข้มแข็งของจิตใจ
การฝึกหัดปฏิบัติ อบรมตนเอง
ด้วยสติปัฏฐาน 4 อยู่เป็นประจำ
จะทำให้เราสามารถ
สร้างภูมิคุ้มกันของจิตใจได้
ทำให้จิตใจมีความเข้มแข็งมั่นคงได้
สามารถพึ่งตัวเองได้
คำว่า "พึ่งตัวเอง" อย่างเรื่องกายภาพ
ก็เรียนหนังสือ มีความรู้
เรียนจบทำงาน หาเงิน
สร้างครอบครัว มีบ้าน
ดูแลตนเองและผู้อื่นได้
นี่คือเราพึ่งตัวเองในทางโลก
ส่วนในทางธรรม
ก็คือเรื่องของ "สภาวธรรม"
คือเรื่องของจิตใจ
การที่เราพัฒนาสติปัญญาขึ้นมา
จนมีจิตใจที่ตั้งมั่นตื่นอยู่
ไม่หลงไปกับอารมณ์ต่าง ๆ ในโลก
#คนสมัยนี้ทุกข์เพราะความคิด
เห็นจมอยู่กับโลกของความคิดปรุงแต่ง
และส่วนใหญ่ก็ชอบคิดให้ไม่สบายใจ
คิดให้วุ่นวายใจ ที่เรียกว่า "คิดลบ"
คิดลบต่อตนเองบ้าง ต่อคนอื่นบ้าง
... แล้วก็ทุกข์ไป
อันนี้เรียกว่าพึ่งตัวเองยังไม่ได้
ในทางสภาวะยังหลงกับโลกอยู่
เหมือนคนที่ตกลงไปในน้ำ
แล้วก็ยังจมอยู่ในน้ำอยู่
อย่างคนสมัยนี้ก็จะขาดที่พึ่ง
เพราะว่ายังพึ่งตัวเองไม่ได้
แบบนี้ในทางธรรมเรื่องจิตใจ
ก็อาจจะไปบนบานศาลกล่าวบ้าง
ไปอะไรต่าง ๆ อ้อนวอนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้าง
ก็เพราะว่าขาดที่พึ่งของจิตใจ
#กฎของธรรมชาติ
#พึ่งตนพึ่งธรรม
การที่เราจะพึ่งตนได้
เราก็ต้องฝึกปฏิบัติ
อบรมตัวเอง ด้วยสติปัฏฐาน
เปลี่ยนจากใจที่มันหลงไปกับสิ่งต่าง ๆ
พลิกมาเป็นใจที่ตื่นรู้ขึ้นมา
สติมีความตั้งมั่น
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
อันนี้เรียกว่า "ยั้งตัวขึ้นมาได้"
พึ่งตัวเองได้
#เมื่อพึ่งตัวเองได้
#ความทุกข์ในชีวิตมันจะเบาบางลงได้มาก
เมื่อพึ่งตัวเองได้
ก็จะเข้าถึงการพึ่ง "พระธรรม" ได้
ก็คือมีโอกาสที่จะสัมผัส
ความเป็นธรรมชาตินั่นเอง
.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
เช้าวันที่ 25 เมษายน 2566 Education Blog/Dhamma Blog newyorknurse