เข็นเด็กขึ้นภูเขา · #ผู้ใหญ่จะจัดการความโกรธในเด็กได้อย่างไร
เข็นเด็กขึ้นภูเขา
·
#ผู้ใหญ่จะจัดการความโกรธในเด็กได้อย่างไร
เข็นเด็กขึ้นภูเขา
·
#ผู้ใหญ่จะจัดการความโกรธในเด็กได้อย่างไร
ความโกรธเป็นอารมณ์ชนิดหนึ่งซึ่งทุกๆคนมีได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
การห้ามไม่ให้โกรธคงเป็นเรื่องยาก สิ่งที่เราควรทำคงไม่ใช่
การห้ามไม่ให้เด็กโกรธสำคัญกว่าคือ จะช่วยให้เด็กจัดการกับ
ความโกรธของตัวเองยังไงให้เหมาะสม
1.เริ่มที่ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการกับอารมณ์โกรธของผู้ใหญ่
ทำให้เด็กเห็นก่อน ผู้ใหญ่ต้องยอมรับกับตัวเองว่าอารมณ์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์โกรธ ดีใจ เศร้า เสียใจ เป็นเรื่องธรรมดา
ที่มนุษย์ทั่วไปจะมี
เราเองก็เป็นคนธรรมดาที่เป็นผู้ใหญ่ที่เราก็มีอารมณ์โกรธหรือ
เครียดได้ มันไม่ผิด แต่เมื่อโกรธแล้วเครียดแล้ว สิ่งที่สำคัญมากๆ
ก็คือ การจัดการกับอารมณ์ตรงนั้นอย่างไร
เช่น ถ้ากำลังโกรธพยายามอย่าพูดหรืออย่าทำอะไรตอนนั้น
ให้อยู่นิ่งๆ ออกมาจากจุดนั้นก่อน จนรู้สึกว่าความโกรธ
ของเราลดน้อยลง ไปทำอะไรผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า
เดินเล่น รับรองดีกรีความโกรธและหงุดหงิดจะลดลง หลังจากนั้น
ถ้าเราจะพูดจะคุยกับคนข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนรอบตัวคนอื่นๆ
ก็จะไม่ใช่เรื่องยาก หากเราจัดการกับอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีกับเด็กด้วยว่า เวลาที่เขาโกรธบ้างเขาจะทำอย่างไร
2. เวลาที่เด็กโกรธ ไม่พอใจ ผู้ใหญ่บอกให้เด็กรู้ว่าเรารับรู้และ
เข้าใจความโกรธของเขา เช่น "แม่รู้ว่าหนูคงจะโกรธที่น้อง
เอาสมุดหนูไปวาดเล่น"
3. ถ้าการแสดงออกความโกรธของเขาไม่รุนแรงนัก เช่น หน้าบึ้ง
ฮึดฮัด โวยวายเสียงดัง ร้องไห้ เราปล่อยให้เขาอยู่กับตัวเองสักครู่
(ไม่ต้องบอกให้ เขาเงียบ อย่าร้องไห้ อย่าทำหน้าแบบนั้น แม่ไม่ชอบ
หยุดร้องได้แล้ว การพูดเช่นนี้เป็นการแสดงออกว่าเราไม่ยอมรับ
และไม่เข้าใจเขา) สักพักเขาจะเย็นลง
4. เมื่อเขาหายโกรธ ค่อยเข้าไปพูดคุย ถามความรู้สึก ให้เขา
เล่าความรู้สึกให้ฟังเมื่อพร้อม และพูดคุยถึงการจัดการกับอารมณ์
โกรธของเขา เช่น เด็กบางคนโกรธแล้วไปเตะฟุตบอล
ไปเล่นกับสัตว์เลี้ยง เมื่อทำแล้ว อารมณ์โกรธลดน้อยลง
ก็ให้เราชื่นชมให้กำลังใจว่าเขาจัดการกับความโกรธที่เกิดขึ้นได้ดี
5. ค่อยๆพูดคุยกับเขาถึงแนวทางการจัดการกับอารมณ์โกรธในคราวหน้า
หากมีเหตุการณ์อื่นๆที่ทำให้เขาโกรธ อาจลองยกตัวอย่าง
และฟังวิธีการจัดการของเขา อาจไม่ต้องให้เขาคิดเหมือนเราทั้งหมด
พึงระลึกว่าบางอย่างเราก็ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเองบ้าง
(หากไม่ใช่เรื่องที่อันตราย)
6.ในกรณีที่เด็กโกรธแล้วมีพฤติกรรมที่รุนแรงมาก เช่น ทำร้ายคนอื่น
ทำร้ายตนเอง หรือทำลายข้าวของ เราคงต้องหยุดการกระทำนั้นไว้ก่อน
เช่นในเด็กเล็กอาจเข้าไปกอดเด็กข้างหลัง จนเขาสงบ ถ้ารุนแรงและ
จัดการไม่ได้ อาจต้องปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
7. เด็กจะเรียนรู้จากพ่อแม่และผู้ใหญ่ ย้ำอีกรอบว่าต้องทำตัวเป็น
แบบอย่างที่ดีในการจัดการความโกรธ ไม่ใช่เวลาพ่อโกรธจะ
ขว้างของทุกครั้ง เด็กก็จะซึมซับพฤติกรรมรุนแรงของพ่อได้
8. เมื่อพบเห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมที่มาจากความโกรธ เช่น
ในสื่อสารมวลชน ข่าว ละคร ควรพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ
เด็กในเรื่องการจัดการความโกรธที่เหมาะสม เห็นอะไรที่ดีๆ
เราก็ชื่นชมให้เด็กฟัง แต่ถ้าอะไรที่ไม่เหมาะเราก็ควรบอกเหตุผล
ว่าเพราะอะไรถึงไม่ดี ขณะเดียวกันก็ลองฟังความคิด
และความเห็นของเด็กไปด้วย
#หมอมินบานเย็น
Education Blog newyorknurse
สมัย อ.เต๊ะนี่ พ่อแม่ ไม่มีการมาเอาใจ ผิดก็บอกตอนนั้นเลย
ผิดมาก ตีเลย จะได้จำไม่ทำอีก
แต่เดี๋ยวนี้เอาอกเอาใจ เด็กกันมาก กลัวเด็กจะกระทบกระเทือนจิตใจ
เด็กทำผิด ก็ไม่โดนลงโทษ พ่อแม่ก็ลอยตัว อยู่เหนือปัญหา สบายๆนะครับ
เพื่อน อ.เต๊ะ พ่อแม่ เป็นหมอทั้งคู่ ลูกทำผิดไม่เคยลงโทษ ลูกก็อาละวาดพ่อแม่ ตลอด หนักเข้า เอาไม่อยู่
ตอนนี้ ต้องไปปรึกษา จิตแพทย์แล้วครับ