วันนี้ขออนุญาตหยิบงานเก่า ๆ ของ "กฤษณา อโศกสิน" มาบอกเล่าค่ะ
"สมมุติว่าเขารักฉัน"ประพันธ์โดย... "กฤษณา อโศกสิน"พิมพ์โดย...
สนพ.เพื่อนดีนวนิยายสะท้อนชีวิตและสังคมที่ขาดแคลนความรักความเข้าใจอันดีระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ผู้เขียนเขียนเรื่องนี้ไว้เมื่อกว่าสามสิบปีที่ล่วงไปแล้ว
แต่เมื่อหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้ง และอีกครั้งเราก็พบว่า...คนอย่าง "ปูมแก้ว"ยังคงมีอยู่มากมายในทุกวันนี้...กลับจะเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป
จากเว็บสนพ.เพื่อนดี : ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ มีสิ่งต่างๆมากมายที่จำเป็นและไม่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ บางคนต้องการเฉพาะบางอย่างที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในขณะที่บางคนหรืออีกหลายคนต้องการในสิ่งที่มิอาจแสวงหาได้ทั้งในสภาวะรูปธรรมและความเป็นจริง บุคคลประเภทหลังนี้ จึงจำเป็นต้องสร้างสิ่งสมมุติจากจินตนาการเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง
ปูมแก้ว ก็เช่นกัน ชีวิตที่ขาดความอบอุ่นในวัยเยาว์ ทำให้เธอไขว่คว้าทุกอย่างที่คิดว่าขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรัก เมื่อพบ อุณา เธอจึงหลงรักเขานักหนา และ สมมุติว่าเขารักฉัน ปูมแก้วทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อุณาไว้ครอบครอง โดยมีตาของเธอเป็นผู้ช่วยวางแผนดำเนินการด้วยความรักหลาน! แต่สิ่งสมมุติก็ไม่มีวันเป็นจริงไปได้ และปูมแก้วก็ยอมรับไม่ได้ แม้ใครจะยืนยันกับเธอว่า สิ่งสมมุตินั้นสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยเหตุการณ์ที่โหดร้ายและเยียบเย็น!
กฤษณา อโศกสิน ได้พาผู้อ่านไปพบและรู้จักชีวิตของ'ปูมแก้ว' ผูกปมปัญหา และหาทางคลี่คลายอย่างแยบยลด้วยความจริงที่แสนจริงอย่างหนักแน่นแต่อบอุ่นและนุ่มนวลด้วยน้ำใจอันแสนประเสริฐของเพื่อนมนุษย์
ส่วนตัว...เมื่อก่อน เมื่อยังเยาว์วัยกว่านี้ ไม่ค่อยชอบอ่านนิยายชีวิตหนัก ๆ ประเภทนี้เลย รู้สึกว่าอ่านแล้วเครียด หนัก...
หากเมื่อเวลาผ่านไป วันและวัยล่วงเลย เราก็ได้เรียนรู้ว่า...นิยายชีวิตแบบนี้นี่แหละที่ชี้ให้เราได้เห็นถึงความเป็นจริงแห่งชีวิต...และช่วยขยายขอบเขตการเรียนรู้ในอันที่จะเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาหลากรูปแบบที่แต่ละชีวิตต้องประสบไม่มากก็น้อยบนเส้นทางเดิน...
"กฤษณา อโศกสิน" เขียนนวนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๙ คือสามสิบสองปีล่วงมาแล้ว แต่เนื้อหาและแก่นของเรื่องราวไม่ได้ล้าสมัยเลยจนนิดเดียว...
ประโยคประทับใจ... "ปมด้อยทุกอย่าง ถ้าเรากล้าเปิดเผย กล้ายอมรับ กล้าสัมผัส จับเนื้อต้องตัวมัน มันก็จะแพ้เราไปเอง..."
ไม่ว่าจะเพิ่งเขียนหรือเขียนไว้นานแล้ว คุณค่าของหนังสือจะคงอยู่เสมอ