ขอบฟ้าโน้นเป็นของเธอ & เพื่อนร่วมทาง ~ สิริมา อภิจาริน




ขอบฟ้าโน้นเป็นของเธอ & เพื่อนร่วมทาง
สิริมา อภิจาริน
สำนักพิมพ์ อรุณ /พิมพ์
มี.ค. & มิ.ย.๒๕๔๘


~ รวมเรื่องสั้นสองเล่ม ๓๐ เรื่องจากนักเขียนหญิงสำนวนสวย ซัดส่ายอารมณ์คนอ่านให้หวามไหว วูบวาบ ~







รายละเอียด :

เล่มแรก "ขอบฟ้าโน้นเป็นของเธอ" ผู้อ่านจะเต็มอิ่มกับ ๑๕ เรื่องราวรสละมุน ที่จะเติมความสุนทรีในหัวใจ

คลุกเคล้ากลิ่นขนมนมเนยตามสไตล์นิยายรักที่มีฉากเมืองรื่นรมย์ในต่างแดน
ในเล่มนี้ ผู้อ่านจะได้สัมผัสชีวิตนักเรียนไทยในต่างแดน แต่ละเรื่องล้วนมีจุดเด่น และให้รสชาติแตกต่างกัน

นอกจากจะได้หรรษากับตัวละครแล้ว ยังได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในต่างแดน
ให้แง่คิด มุมมอง ที่น่าสนใจไว้อย่างเพลิดพลิน
สำหรับใครที่คิดจะไปใช้ชีวิตต่างบ้านต่างเมือง หรือต้องไปใช้ชีวิตอยู่หอพักด้วยตนเองแล้วล่ะก็ รับรองว่าไม่ผิดหวัง

ตัวอย่างเรื่องสั้นในเล่ม อาทิเรื่อง เพื่อนร่วมห้อง, ราตรีผี, ลูกเบอร์รี่ป่ากับความรัก...(หรือความใคร่ก็ไม่รู้),ปาร์ตี้ไข่,ดอกไม้ในมือคนอื่น,น้องใหม่ ฯลฯ


เล่มที่สอง "เพื่อนร่วมทาง" เป็นเรื่องราวเบา ๆ สั้น ๆ ๑๕ เรื่อง
ที่แตกหน่อต่อยอดมาจากเหตุการณ์อันแสนจะธรรมดาในชีวิตประจำวัน
หากจุดประกายให้เกิดวาบความคิดที่สร้างสรรค์และเป็นอิสระ
ทั้งขยายมุมมองที่มีต่อโลกและชีวิตให้กว้างไกล







ชวนคุยค่ะ...

รวมเรื่องสั้นอีกสองเล่มที่ตอบสนองอารมณ์ และความรู้สึกที่ตึงเครียด
อันมีสาเหตุมาจากสถานการณ์รอบ ๆ ตัวในช่วงนี้ค่ะ

คุณสิริมาเป็นนักเขียนคนโปรดตลอดกาลของแม่ไก่...
งานของเธอมีไม่มากไม่น้อย แต่ก็มีออกมาให้ได้เสพอยู่เรื่อย ๆ
เธอเป็นนักเขียนที่ใช้ภาษาได้นุ่มนวลและละเมียดละไมมาก
ทุกครั้งที่อ่านตัวหนังสือของเธอเราจะรู้สึกอิ่มเอมและประทับใจ

รวมเรื่องสั้นสองเล่มข้างบนนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้หลายเรื่องจะเป็นเรื่องที่เธอเขียนไว้เมื่อนานมากแล้วและเคยตีพิมพ์ในนิตยสารบางเล่มที่กลายเป็นตำนานไปแล้วก็ตามที (เช่นสตรีสาร และลลนา เป็นต้น)

แต่เรื่องเล่าของคุณสิริมาไม่เคยพ้นสมัย ด้วยเป็นเรื่องราวของอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนชนชั้นธรรมดาแบบเรา ๆ ที่ไม่ได้เน้นบริบทมากนัก ทำให้ผู้อ่านสามารถรับร่วมอารมณ์กับเธอได้โดยง่าย

อ๊ะ...ยกตัวอย่างนิดหนึ่งแล้วกัน...

ในเรื่อง "ชื่อว่ารัก" เรื่องราวอันเป็นห้วงคำนึงของเพลิน หญิงสาวนิสัยร่าเริง ช่างพูดช่างคุย เมื่อต้องเลิกรากับเพื่อนชายที่มีบุคลิกตรงกันข้ามกับเธอ หลังจากการคบหากันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง...

'...ดูเหมือนเพลินไม่เคยโกรธเขาได้ลง แม้จะไม่เคยรักเขามากกว่าที่เพลินปล่อยให้ตัวเองรักเขาได้
ความรักมันอิ่มอยู่ในตัวของมันเอง เมื่อเริ่มรักใครสักคน
ถึงอย่างไร... มันก็รักอยู่อย่างนั้น ถึงแม้จะร้างจะรากันไปแล้วก็ตาม

ใคร ๆ ว่าเพลินไม่ได้อะไรเลยจากเวลาที่เสียไป
คนเรามักวัดการได้การเสียที่อะไรก็ได้ที่หยิบจับได้และมองเห็นได้ กับความรู้สึกเจ็บปวด
แต่เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างทั้ง ๆ ที่เจ็บ กับความรู้สึกอ่อนโยนและให้อภัย
และกับความรู้สึกที่ยอมรับว่า อย่างน้อยตนต้องผิดครึ่งหนึ่งเมื่อใครเลิกร้างไป เป็นสิ่งสิ่งหนึ่งที่เพลินได้รับ
แต่ไม่มีใครเห็น และเพลินคร้านจะบอกกล่าว...

เพื่อนฝูงว่า...'บอกแล้วว่าคบยากยังดันทุรัง...เป็นไงล่ะได้อะไรมาบ้างนอกจากจดหมายรำพึงรำพันเป็นปึกนั่น...'

เพลินมองจดหมายเป็นปึกตรงหน้า...บางทีเพลินคงไม่ได้อะไรติดมือมาจริง ๆ
แต่ไม่หรอก...ชื่อว่ารัก...คนเราต้องได้อะไรบ้างจากมัน...

เพลินยิ้ม...ขณะลอกแสตมป์ออกจากจดหมายเป็นปึกของเขา หลายปีเต็มที แสตมป์สะสวยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ...

ไม่เลวนักหรอก...ที่บังเอิญมีหลานเป็นนักสะสมแสตมป์...'


(จาก...'ชื่อว่ารัก' ใน "เพื่อนร่วมทาง")



หักมุมค่ะหักมุม...อ่านแล้วอมยิ้มเลย







ตัวเอกของคุณสิริมามักจะเป็นหญิงสาวอารมณ์มั่นคง เปรี้ยว ทันสมัย และรักอิสรภาพเหนือสิ่งอื่นใด...
แต่เธอก็มิได้ละเลยจารีตอันดีงามที่สังคมตีกรอบไว้....

อย่างเรื่องราวของ 'มน' นักศึกษาสาวไทยในต่างแดนกับหนุ่มตาคมผมดำ...ผู้เช่าบ้านฝั่งตรงข้าม นักศึกษาศิลปะที่แสนโรแมนติก...

"...พอลล์อบอุ่นเสียเหลือเกิน อ้อมแขนของเขาอบอุ่น...รัก...ไม่รัก ชอบ...ไม่ชอบ...มนนับในใจ
นี่จะสวมสอดกอดรัดให้เขาพาเธอไปถึงฉิมพลีโน้นหรือจะหยุดกันแค่สวนสวรรค์นี้ดีหนอ...มนคิดไม่ถูก....

พอลล์เริ่มรุก ใจคอของมนเริ่มลอยลิบ...ดอกไม้ดอกนิด ๆ สีชมพูที่ริมรั้วสวยน่ารักเสียจริง.... มนคิดท่ามกลางความเผลอไผล...
แล้วรั้วสีขาวนั้นก็น่ารักอีกเหมือนกัน นี่เพราะเธอหลงรักเจ้ารั้วนั่นแท้ ๆ เทียว ถึงได้ดั้นด้นมากับเจ้าของบ้านถึงนี่....

"พอลล์..." มนกระซิบ ใจคอเธอจะขาดเสียให้ได้ ...
แต่ใจคนเรานี่นะมันสำคัญ ทุกข์สุขอยู่ที่ไหน ใจมันถึงก่อน
แล้วคนเรานี่หนอ... มีใจเป็นรั้วใช่ไหม หากรั้วระเนนเสียแล้วจะเหลืออะไร...

"พอลล์คะ..." เสียงมนดังขึ้นท่ามกลางเสียงลมหายใจกระเส่าของพอลล์ "งานที่คุณว่าจะส่งอาจารย์มันอยู่ไหนคะ...?"
พอลล์ชะงัก...เขาครางอย่างไม่เชื่อหูตนเอง..."โธ่...มน"

(จาก...'รั้วบ้านโน้น' ใน "ขอบฟ้าโน้นเป็นของเธอ")



เรื่องนี้ อ่านแล้ว...รู้สึกโล่งค่ะ โล่งใจ...(ตามประสา...ผู้สูงวัย
แหะ ๆ )


ส่วนสำคัญที่ทำให้จขบ.ชื่นชมและประทับใจในผลงานของคุณสิริมาคือเรื่องของสำนวนภาษาค่ะ..

เธอเป็นนักเขียนที่มีลีลาการเขียนและการใช้ภาษาที่ละเมียดมาก...
เรียบง่ายแต่นุ่มนวล พลิ้วไหว อ่านแล้วให้ความรู้สึกสงบ เย็น
เหมือนนั่งอยู่ข้าง ๆ ลำธารสายเล็ก ๆ ที่มีสายน้ำไหลริน...

นำมาชวนอ่านกันในวันที่ขุ่นเครียดค่ะ...
เผื่อจะมีน้ำใสไหลเย็นรินรดหัวใจให้ชุ่มชื่น...














Create Date : 01 ธันวาคม 2551
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 16:20:14 น.
Counter : 2217 Pageviews.

20 comments
  
ว้าว อ่านรีวิวแล้วอยากอ่านเลยค่ะ
ชอบสำนวนคุณสิริมาค่ะ เรื่องล่าสุดที่อ่าน เรื่องปลาหนีน้ำ ชอบคารมคมคายของเค้าที่เข้าใจเปรียบเทียบ เรื่องใกล้ๆ ตัว แล้วก็สำนวนไม่ฟุ่มเฟื่อยเกินไปด้วย เห็นด้วยกับจขบ. ภาษาเค้าสวยจริงๆค่ะ

แถมตอนนี้แอบชอบสำนวนจขบ. ตรงนี้ด้วยค่ะ"รวมเรื่องสั้นสองเล่ม ๓๐ เรื่องจากนักเขียนหญิงสำนวนสวย ซัดส่ายอารมณ์คนอ่านให้หวามไหว วูบวาบ"

ตอนนี้หัวใจทั้งแห้งผากและร้อนรุ่มๆ สลับกัน ถ้าได้น้ำใสไหลเย็นรินรดหัวใจ คงจะดีไม่น้อย

โดย: เบื่อพวกปิดสนามบิน (พื้นที่สีเขียว ) วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:14:14:50 น.
  
ฮ่าๆๆๆ นักสะสมสแตมป์
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:14:32:57 น.
  
ชอบปลาหนีน้ำของสิริมา เรื่องอื่น ๆ ยังไม่ได้อ่านค่ะ

ป.ล.ไปเที่ยวสุวรรณภูมิกันมั๊ย???
โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:15:40:05 น.
  
คุณแม่ไก่ รีวิวได้โดนใจจังเลยค่ะ

งานเขียนของคุณสิริมา ใช้สำนวนได้ "ละเมียดละไม" ดีจัง
แต่ความคิด ความอ่านของตัวเอก
ทันโลก ทันคน....

เรื่องสั้นของเธอเยอะมา เราค่อยๆ ตามอ่านตามเก็บไป อยุ่ค่ะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:19:45:46 น.
  
สวัสดีครับปี้แม่ไก่

วันนี้ออกไปตะลอนตังนอกวันค่ำเลยครับ
กว่าจะปิ๊กเข้าบ้านก่ปอสองสามทุ่มแล้วครับ หุหุหุ

หมื่นตาตอนนี้เป็นซีรี่ย์เลยครับ
มีหลายตอนครับปี้






โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:21:19:52 น.
  
สำนวนยังเด็ดขาดเหมือนเดิม
ชอบค่ะชอบ
โดย: January Friend วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:1:01:43 น.
  
ชอบสำนวนของ สิริมา อภิจาริน เหมือนกันค่ะ อ่านแล้วให้ความรู้สึกนุ่มนวล ภาษาละเมียดละไมมากๆ เรื่อง ปลาหนีน้ำ เป็นหนังสือในดวงใจตลอดกาลเล่มนึงค่ะ

เมื่อกี้ว่าจะพิมพ์ข้อความในช่องข้อความ ไปเห็นว่าเฉพาะสมาชิกเข้าก็ต้องกลับออกไปล็อกอินเข้ามาใหม่ค่ะ
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:7:08:20 น.
  
เป็นอีกคนที่ว่าดีแต่ยังไม่ได้หยิบมาอ่าน เง็งละสิ
โดย: Boyne Byron วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:14:41:02 น.
  
คนชมงานของสิริมาเยอะเลย

มีอยู่ในมือหนึ่งเล่ม แต่ยังไม่ได้ลิ้มลองเสียที แหะๆ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:17:03:32 น.
  
ขอบคุณนะคะสำหรับคำชม

ปกติไม่ค่อยมีคนชม เขิน นิดหน่อย

เข้ามาดูบล้อกแม่ไก่ดีดีอีกรอบมีหนังสือน่าอ่านหลายเล่มเลย กลับเมืองไทยคราวนี้ต้องสอยค่ะ
แต่ก่อนอาศัยอ่านตามห้องสมุดโรงเรียน โตมาก็ห้องสมุดประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคนกรองมาให้อยู่แล้ว ว่าหนังสือในห้องสมุดมักจะมีแต่หนังสือดีเข้าขั้น พอมาอยู่ต่างประเทศก็อาศัยบล้อกชาวบ้านนี่แหละค่ะ ที่กระตุ้นกิเลสว่าควรอ่านเล่มไหนดี(คล้ายๆ คนไม่ค่อยมีความคิดเป็นของตัวเอง เอิ้กก) เพราะกลับไทยทีไรไม่ค่อยมีเวลาไปยืนเลือกหนังสือนานๆ ต้องจดลิสต์ไว้แล้วก็ขนทีเดียว
มีแบบซื้อตามคนอื่นแล้วผิดหวังบ้างถูกใจบ้างสลับกัน แต่ก็มีแนวไว้ว่า จะซื้อแต่ของนักเขียนที่พอจะรู้จักเท่านั้น เพราะซื้อไม่ได้ยืมอ่าน มันต้องติดตู้หนังสือเราไปตลอด

แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ให้โอกาสนักเขียนที่เราไม่เคยอ่านผลงานเค้าเลย อย่างล่าสุดซื้อ เพราะคิดถึง (ความเรียง) ของสร้อยแก้ว คำมาลา มาค่ะ เพราะสุดตรงหน้าปกเป็นรูปดอกไม้ที่ชอบ แล้วชื่อคนเขียนก็ยังเป็นดอกไม้อีก (มารู้ทีหลังว่าเป็นชื่อจริงด้วย) อ่านแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ ชอบสำนวนเธอ คิดว่ารอบนี้ต้องซื้องานเล่มอื่นของเธอแน่ๆ ไม่รู้แม่ไก่เคยอ่านหรือยัง อ่ะ เธอเป็นคนเหนือเหมือนแม่ไก่ด้วยค่ะ
โดย: พื้นที่สีเขียว วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:17:24:31 น.
  
ดูเหมือนเพลินไม่เคยโกรธเขาได้ลง แม้จะไม่เคยรักเขามากกว่าที่เพลินปล่อยให้ตัวเองรักเขาได้
ความรักมันอิ่มอยู่ในตัวของมันเอง เมื่อเริ่มรักใครสักคน
ถึงอย่างไร... มันก็รักอยู่อย่างนั้น ถึงแม้จะร้างจะรากันไปแล้วก็ตาม


ชอบมากเลย
อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ

เดี๋ยวอ่านให้ครบ

โดย: treehouse วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:17:42:46 น.
  
จดรายชื่อไว้แล้วค่ะ...
งานของนักเขียนท่านนี้..ไม่เคยอ่านเลย
แต่จากที่อ่านรีวิวของพี่แม่ไก่
และรีวิวของคนอื่นๆ..อ่านบางตอนที่เอามาลง
บอกตัวเองทันที..ถูกจริตมากเลยค่ะ
เมื่อวานเข้ามาแล้ว..ยังไม่ได้เม้นท์
เพราะตามเนท..ไปหาอ่านบางบทบางตอน
ชอบค่ะ..เดี๋ยวจะลองหามาอ่านบ้าง
เรื่องยาว..เอาไว้ก่อน..ขอเรื่องสั้นก่อนแล้วกัน
โดย: nikanda วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:17:55:01 น.
  
สิริมา อภิจาริน ...อืมๆ เอาไว้น้องจะหามาอ่านให้ได้เลยค่ะ
โดย: BeCoffee วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:8:20:01 น.
  
แวะมาหาบอกว่าคิดถึง
โดย: อัสติสะ วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:8:51:59 น.
  
ยังไม่เคยลองงานของสิริมาซักที เห็นคนชอบกันเยอะ เท่าที่อ่านจากที่ยกตัวอย่างมาก็น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
โดย: หมูย้อมสี วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:17:54:33 น.
  
น่าอ่านจังเลยค่ะพี่แม่ไก่ ดูจากท่อนที่พี่ยกมาแล้ว ก็คิดว่าตัวเองน่าจะชอบอ่านสำนวนการเขียนแบบนี้เหมือนกัน คงต้องรอไปก่อน ยังไม่ทราบเลยค่ะว่าปีนี้จะได้กลับเมืองไทยหรือเปล่า

คืนนี้พี่แม่ไก่นอนหลับฝันดีนะคะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวหนังสือดีดีค่ะ
โดย: discipula วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:21:14:30 น.
  

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันก่อนวันพ่อค่ะ
มีความสุขมากมายในวันหยุดนะคะคุณแม่ไก่

โดย: หอมกร วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:9:12:33 น.
  
สวัสดีครับปี้

วันนี้หนาวลดมาหน้อย
ตะวานี่โอ้โห...สิบโมงป๋าย
ยังหนาวอยู่เลยครับ





โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:11:57:51 น.
  
ต้องไปลองหามาอ่านแล้วค่ะ ^ ^
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:9:10:53 น.
  
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณแม่ไก่ที่น่ารัก

อินชอนกับลุงเคิล
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่



เจ็บมากไหมจ๊ะลุงเคิลสงสารลุงจังเลย
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่



ไม่ต้องกลัวนะคะ หนูรักลุงเคิลเสมอ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่



และจะมาเยี่ยมลุงทุกวัน หายไวๆน๊า
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่



อินชอนรักลุงเคิลมากนะคะ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกันค่ะ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่


ขอบคุณมากนะคะสำหรับความห่วงใยที่มีให้กับครอบครัวของน้องอินชอนค่ะ วันนี้อินชอนพาลุงเคิลมาเที่ยวหาด้วยค่ะ ลุงเคิลอายุสิบปีแล้วค่ะตอนนี้ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ม.เกษตรและอยู่ในความดูแลของคุณหมอทศพล ลุงเคิลเป็นโรคของคนแก่มีโรคเบาหวานเป็นหลักและโรคโฮโมนบกพร่องทำให้หม่ำเก่งจนอ้วนทำให้หลายๆโรคตามมาทั้งค่าตับสูง ปอดอักเสบ และเนื้องอกซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นที่จุดใดสมองหรืออันทระ เพราะต้องรักษาโรคเบาหวานให้ดีขึ้นก่อนถึงจะหาสาเหตุของโรคอื่นอีกค่ะ อินชอนกับแม่ต้องเดินทางไปเยี่ยมลุงเคิลเพราะความห่วงใยและความคิดถึงทุกวันโดยใช้เวลาเดินทางไปกลับร่วมสามชั่วโมงทุกวัน แต่ครอบครัวเราก็ไม่เคยท้อเพราะลุงเคิลเป็นที่รักของครอบครัวเรา คุณหมอบอกว่าโรคเบาหวานต้องใช้ยาราคาสูงมากกับการใช้จ่ายในแต่ละวันเพราะยาต้องสั่งจากนอก ถึงแม้ราคาจะแพงแสนแพงหรือต้องกัดฟันซื้อพวกเราก็ไม่มีวันทิ้งลุงเคิลเป็นอันขาด คุณหมอบอกว่าลุงเคิลไม่ยอมหม่ำข้าว เศร้า แต่พอเราไปหาและป้อนลุงเคิลลุงเคิลจะมีกำลังใจและหม่ำได้หมด โถ!พวกเราไม่เคยจากกันเลยถึงแม้นว่าจะรู้ว่าใกล้ถึงช่วงวัยของลุงเคิลก็ตาม เวลาเราไปไหนเราจะไปด้วยกันเสมอแม้นแต่เวลาไปเที่ยวเราก็ไม่เคยทิ้งกันรวมถึงพี่หัวเทียนบอดและพี่กังฟูลูกของลุงเคิลด้วยค่ะ คุณหมอบอกว่าอีกสามวันจะให้ลุงเคิลกับมาเยี่ยมบ้านและให้แม่ฉีดยาโรคเบาหวานและให้ซื้อเครื่องวัดค่าน้ำตาลมาตรวจลุงเคิลที่บ้านของเรา เพราะลุงเคิลจะมีกำลังใจที่ดี และค่อยไปนอนโรงพยาบาลเจาะเลือดดูอาการอีกที แม่ปูและลูกอินชอนขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดช่วยคุ้มครองให้ลุงเคิลอยู่กับครอบครัวเราไปนานๆด้วยเถ่อะค่ะ นี่คือภาพที่อินชอนไปหาลุงเคิลสองวันที่ผ่านมาค่ะหลังจากขออนุญาติคุณหมอถอดท่ออ็อกซิเจนและน้ำเกลือพาลุงเคิลเดินเล่นออกกำลังกายรับลมเย็นๆ พิมพิ์มาเสียยาวนี่ก็คืออีกสาเหตุนึงที่ทำให้แม่ของอินชอนไม่ค่อยว่างค่ะ แต่เพราะคิดถึงเพื่อนและแคร์มากๆเลยค่ะถึงส่งภาพอินชอนกับลุงเคิลมาให้ดูค่ะ รักมากมาย ขอให้นอนหลับฝันดี คิดถึงอินชอนบ้างนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:14:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maekai.BlogGang.com

แม่ไก่
Location :
ลำปาง  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]

บทความทั้งหมด