2-3 ปีมานี้ เราไม่เคยทำอาหารให้ลูกกินเลย เนื่องจากเราต้องทำงานเข้าเวรเป็นกะ เช้า บ่าย ดึก ส่วนใหญ่เราจะทำงานควบ 2 กะ คือบ่ายต่อดึก พอกลับมาบ้านก็เหนื่อยเเละง่วง เราจะนอนตอนกลางวัน พอตื่นมาต้องไปทำงานอีกเเล้ว มายืนทำกับข้าวให้ลูกคงไม่ไหว ขี้เกียจล้างถ้วยล้างจานด้วย ไปซื้อเขากินสะดวกกว่า อร่อยด้วย ส่วนตัวเราไปอาศัยกินที่ทำงาน เขาเลี้ยงอาหารเช้า กลางวัน เเละเย็น พร้อมเครื่องดื่ม ขนม ฟรี!!
ช่วงหลังเราทนเข้าเวรดึกไม่ค่อยไหว มันง่วงเเละทรมานมาก สังขาลส่งสัญญาณเตือนเเล้ว ถ้าคืนไหนเข้าเวรดึก คืนต่อไปเราจะนอนไม่หลับ เเม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม ซึ่งเมื่อก่อนไม่เป็นเเบบนี้ เราสู้งานนะ เเต่บัดนี้อายุ 58 ปีเเล้ว ร่างกายสู้กลับ ช่วงนี้เลยทำงานน้อยลง อีก 4 ปี วางเเผนจะรีไทม์เเล้วค่ะ
เราทำงานได้รับค่าเเรงเป็นชั่วโมง เงินออกทุก 2อาทิตย์ ทำมากได้เงินมาก ทำน้อยได้น้อย ถ้าทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่ออาทิตย์จะได้โอเวอร์ไทม์
เราพักอยู่เวียดนามทาวน์ มีร้านอาหารเวียดนาม จีน เเละไทยอยู่หลายร้าน เราเเวะซื้ออาหารใส่ถุงให้ลูกกลับไปกินที่บ้าน พอวันหยุดเราก็จะพาลูกไปไชน่าทาวน์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ขับรถไปประมาณ 25 นาที หรือจะขึ้นรถไฟฟ้าไปก็ได้ อยู่ในเมืองก็สะดวกเรื่องการเดินทางนี่เเหละค่ะ
เรากับลูกมาไชน่าทาวน์บ่อยมาก เมื่อก่อนลูกไม่กินอาหารไทย เนื่องจากตอนเราไปอยู่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่เเล้ว เราอยู่รัฐจอร์เจีย เเถวบ้านเราไม่มีคนเอเซียอยู่เลย ที่เราอยู่เป็นเเหล่งคนผิวสีเขาอยู่กัน หาร้านเอเชียทำยายาก
เราเอาลูกเข้าเดย์เเคร์ตั้งเเต่เขาป็นเบบี้จนโต เนื่องจากตัวเราเป็นซิงเกิ้ลมัม ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงลูกเเละส่งเงินกลับไปให้เเม่ใช้ที่ไทยด้วย ลูกเลยต้องกินอาหารที่เดย์เเคร์ เวลาไปโรงเรียนเขาก็ไปกินอาหารกลางวันที่โรงเรียน เขาจึงคุ้นชินกับอาหารฝรั่ง
พอเราย้ายมาอยู่ชิคาโก คนเอเชียเยอะมาก โดยเฉพาะคนไทยเเละร้านอาหารไทย เพียบค่ะ! อาหารไทยรสชาติไทยเเท้ๆ เหมือนเราไปซื้อมาจากตลาดสดหน้าบ้าน ประมาณนั้นค่ะ ประกอบกับบ้านเราอยู่เวียดนามทาวน์ อาหารเอเชียเพียบ ลูกเลยหันมาหัดกินอาหารเอเชียน
เราพาลูกมาไชน่าทาวน์บ่อยมาก มีเวลาเป็นต้องมา ได้กินอาหารอร่อยๆ ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะคะ
ไชน่าทาวน์ ชิคาโก จะคึกคักช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เเละวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนวันธรรมดามีคนน้อยในช่วงหน้าหนาว เเต่ในช่วงซัมเมอร์จะมีนักท่องเที่ยวมามาก เเละจะเงียบในช่วงสามสี่ทุ่ม ไม่จอเเจเหมือนไชน่าทาวน์ที่ไทย (ตัวเราเองยังไม่เคยไปไชน่าทาวน์เมืองไทยเลยค่ะ เห็นเเต่ในรูปบนอินเตอร์เนต)
หลังจากโควิดผ่านไป ราคาข้าวของเครื่องใช้เเละอาหารต่างพร้อมใจพากันขึ้นราคาทั่วโลก ที่นี่ก็เช่นเดียวกัน ราคาปรับตัวเเพงขึ้น 2-3 ดอลล์ เเต่ถึงกระนั้น คนต้องกินอาหาร 3 มื้อนะคะ
เราชอบมากินติมซำที่ร้านนี้ มันอร่อยมาก ไม่รู้เขาทำยังไง รสชาติต้องยกนิ้วให้ 2นิ้วโป้งเลย ร้านที่ไชน่าทาวน์อร่อยทุกร้าน เเต่ร้านนี้ถูกจริต เลยมาบ่อยหน่อยค่ะ
เราสั่งอาหารมา 4อย่าง คือเกี้ยวซ่า, เกี้ยวหมู, เส้นเล็กผัดหมู เเละหมูเเดง ราคาทั้งหมด 40 กว่าดอลล์ มาทานร้านอาหารแบบนี้ต้องให้ทิปด้วยนะคะ ตามมรรยาทควรให้ 20% ของราคาอาหาร ส่วนใครจะให้น้อยหรือมากกว่านั้นก็ได้
ร้านนี้เป็นเบเกอรี่ร้านฝรั่ง ลูกอยากกินขนม จัดไป ชิ้นนึงราคา 3ดอลล์อัพ
อีกร้านที่เเวะไปกิน ร้านอาหารจีนที่เวียดนามทาวน์ วันนี้สั่งข้าวผัด กับกุ้งล๊อปเตอร์ซอส จานนี้ 11 ดอลล์
จานนี้เป็นมองโกเลียนเนื้อกับข้าวผัด จานจะ 10 ดอลล์
จานนี้เป็นเกี้ยวซ่า ตัวใหญ่ เเป้งหนา ตัวละ 1 ดอลล์
ช่วงนี้ที่ชิคาโกยังเป็นหน้าหนาวอยู่ จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ เพราะมันหนาวไปหมด บางวันมีหิมะตก คงไม่เหมาะกับการออกไปนอกบ้าน นอนดูทีวี สั่งอาหารมากินที่บ้าน คือไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่ค่ะ
ก่อนไปทำงานกะบ่าย เราเดินไปซื้ออาหารให้ลูกทุกวัน ซื้อเสร็จเราก็เลยไปทำงาน
ขับรถไปไชน่าทาวน์ค่ะ ซื้ออาหารกลับมากินที่บ้าน
ขอบคุณทุกทานที่เเวะมาเยี่ยมบล้อกนะคะ
วันที่: 5 มีนาคม 2566 เวลา:15:40:27 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [