ไดฯของผู้จากโลกนี้ไปแล้ว
วันนี้บบรยากาศเหงาๆๆ เศร้าๆๆ ยิ่งไปอ่านเจอไดอารี่ ของน้องที่เราเคยบังเอิญกดเข้าไปอ่าน2-3ครั้ง ตอนที่น้องเขายังมีชีวิตอยู่


แต่ครั้งนี้ไม่น่าเชื่อว่าน้องคนที่เขียนได้เสียชีวิตไปแล้ว ถึงแม้จะไม่เคยรู้จักกัน แต่ก็เหมือนรู้จัก เพราะรู้จักผ่านตัวอักษรที่น้องเขาสื่อ อ่านไปร้องไห้คลอไปด้วย เพราะมาจากชีวิตจริง ที่ไม่ใช่นิยาย

กดคลิกอ่าน ไดอารี่พิมbwitch
นิรันดร


" ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปสรรคใดๆ

ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกพิขังไว้
มีแต่จะแล่นไป
บ่ยอมอยู่ ณ. ที่ขัง "

(มัทนพาธา ~ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6)

พิมเล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในมหาวิทยาลัย
ประกอบวิชาสุนทรียศาสตร์ โดยรับบท มัทนพาธา
เพราะเพื่อนทั้งห้อง ไม่มีใครจำได้หรอก คำฉงคำฉันท์
แต่เธอจำได้ เล่นไป พูดฉันท์ ไป ร้องไห้ไป
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกจริงๆจังๆๆว่า
เพื่อนใหม่คนนี้จะต้องมีอะไรในใจอยู่ลึกๆ และเธอคงเป็นดาราได้

แล้วก็จริง...เธอเหมือนเพลงประจำตัวของเธอ
(พวกเราชอบหาเพลงประจำตัวให้เพื่อนๆ เอาไว้เม้าธ์กันเล่นๆ)
เพลง เหงา ซาร่า มาลากุล - เราเรียกพิมว่า ซาร่า เลว

กลอนบทนี้อยู่หน้าสุดของไดอารี่ของพิม...ที่ยกให้พวกเรา
ที่มีชื่อบล็อคและรหัสผ่านของ Exteen
จึงนำบางส่วนในทั้งหมดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่ได้รู้จักรัก และจบลงด้วยความรัก

เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง
และหากมีประโยชน์ใดๆบ้าง
ขออุทิศให้แก่พิม ได้พบความสงบ ณ. สัมปรายภพ เทอญ


ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง

นางสาว พิรศลัย (พิม) สุวรรณภักดี

ชาตะ 24 กันยายน 2523
มรณะ 24 มิถุนายน 2548

ศศ.บ.(การท่องเที่ยว) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
วันที่อนุมัติจบการศึกษาจากสภามหาวิทยาลัย 16 เม.ย.2548

จากคณาจารย์ พี่ น้อง ผองเพื่อน
ภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม และภาควิชาอื่นๆ
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

ทุกคนรักเธอ...รักมากจริงๆ

ไดอารี่...มหาสมุทรน้ำตา

"...จะว่ายังงัยก้อแล้วแต่...ฉันทนไม่ไหวแล้ว
การอยู่ด้วยกัน..มันไม่ใช่แค่รัก รู้มั้ย
มันต้องเข้าใจ เข้าใจกัน
รักน่ะรัก รักนะ แต่มันไม่ได้น่ะ

ฉันร้องไห้หามัน มันบอกว่าร้องทำไม เป็นโรคจิตเหรอ
ฉันเหงาจัง ตอนรอมันกลับบ้าน ทำไมมันเหมือนตอนที่ฉันรอพ่อกลับบ้านเลยนะ
ฉันมองเห็นเด็กผู้หญิงจากกระจกสะท้อนมา...เด็กคนเดิมยังรออยู่
รอ
รอ
รอ
ทนไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย "
(หน้านี้มีแต่คราบน้ำตา)

" เพิ่งจะได้รู้ ที่แท้เราก็เพียงรักกัน แต่ความรักเท่านั้น ไม่พอ
และไม่ง่ายดาย ก็เพิ่งจะรู้ว่ารักที่ไม่เคยเข้าใจ
จะอย่างไรรักนั้นก็คงจบในไม่นาน
และอาจจะต้องเสียใจ ไม่อาจจะไปด้วยกัน
เพราะเธอและฉันที่ไม่มีคำว่า เหมือนเดิม
(เพลงแอม เสาวลักษณ์-อยู่ในบันทึก) "

" เหงาจัง จะโทรก็ไม่กล้า...กลัวเหมือนดาวหลงฟ้า
ที่นางเอกโทร.ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งวัน
แต่โชคดี ที่พระเอกมันคุยแฮะ ไม่ยักกะบอกว่า
ไม่ต้องโทรบ่อยหรอก ก็เดิมๆนะแหละ
เดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันนะ แต่อยากโทร.นี่ อยากโทร "

" ที่ทำงานโคตรเหงาเลย อยู่หน้าห้องเอ็มดีคนเดียว
กินข้าวก็ใส่กล่องมากินคนเดียว คิดถึงอีนก อีบี อีจอยจัง
เมาธ์แตกใต้คณะ เหงาจัง เหงาจัง "

จดหมายฉบับสุดท้าย..ใต้กล้องแป้งบนโต๊ะในห้องที่เธอหลับนิรันดร์

" ถึงเพื่อนที่วิเศษที่สุด เท่าที่โลกโหดร้ายมอบให้จนโลกไม่ร้ายเกินไป "

" 22 มิถุนายน 2548 อีบี อีจอย อีนก อี...เพื่อนรักทุกคน
...ฉันขอโทษที่คืนนี้ ฉันเพื่อนแกจะเดินทางไกลโดยไม่ต้องเลี้ยงส่ง
ฉันกลัวเหมือนกันนะแก กลัวจริงๆ
แต่นึกถึงเวลาที่เหงาแม้กระทั่งจะรายรอบไปด้วยคน คน คน แต่ก็เหงา...
ฉันอยากนอนหลับยาวๆมากกว่า

และแล้ววันนี้...ฉันก็ทำอีก ขอโทษที่ผิดสัญญา
แต่ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริง ๆ นะ
แกรู้มั้ย บางทีที่ต้องนั่งรออยู่ที่บ้านคนเดียว
ได้ยินเสียงรถก็ใจเต้น ตึกตักๆ วิ่งมาหน้าบ้าน
แต่พอไม่ใช่มัน ใจเหี่ยวเลย
โทรหา...มันก็บอกเดี๋ยวกลับ เดี๋ยวกลับ เสียงเพลงดังเลย
ไม่เหมือนเดิม ฉันรู้ว่ามันเครียดเรื่องบริษัท เรื่องฉัน
มันคงคิดว่าเลือกผิดคนแล้วมั้ง
ฉัร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันบอกว่า ถ้าอยู่กับมันแล้วไม่แฮปปี้ จะคิดใหม่ก้ได้นะ
เล่นง่ายนะ เหี้ยเอ๊ย

กรรมของผู้หญิงนะแกนะ
มันเป็นคนแรก และคนเดียวเท่านั้นนะแกนะ
แกรู้นี่นา ฉันมีมันเป็นคนแรก และเป็นคนสุดท้ายในชีวิต
ไม่เอาอีกแล้วนะ พอแล้วนะแกนะ
อยากเจอพวกแกจังเลย

ไปดูหนังเรื่องเฉิ่มมาล่ะ ดูคนเดียวด้วยล่ะ หนังโคตรดีเลย
ตอนจบฉันร้องไห้ลั่นโรงเลย คนหาตัวกันชิบหายเลย
ฉันอยากมีความรักดีๆ สะอาด ๆ เหมือนในหนังบ้างนะ
เบาะข้าง ๆ ว่างเปล่า อยู่ไหนนะ ไม่กล้าโทรหา

แต่พอแล้วล่ะมั้ง เกมส์โอเวอร์
พอแล้วๆๆๆๆๆ

ทุกอย่างของฉันให้ยกกลับไปที่บ้านป้าเตียบ เผาเลยก้อได้
พวกทอง เครื่องประดับให้แม่ไว้แต่เมื่อวาน
จดหมายถึงแม่อยู้ข้างใต้กำมะหยี่แดงก้นกล่อง
แกแกะหาให้แม่อ่านด้วย
ถ้าไม่ถือ...อะไรๆในกล่องยกให้พวกแกนะ เอาไปเหอะ
เป็นที่ระลึก ระทึกตามใจแก

ช่วยใส่ชุดไทยสีครีมวัน"รดน้ำ"แต่งงานให้ด้วย ตอน"รดน้ำ"ศพ
ฉันวางในกล่องใต้เตียง ก้มหาใต้เตียงก้อเห็น รียูสนะเนี่ย

ลาแล้วนะ ลาแล้ว ฉันเหงา บอก บุ๊ง ด้วย
วาสนาหมดกันเพียงแค่นี้ มีคนอื่นได้เลย จบแล้ว
อโหสิให้ทุกคนนะ ทุกเรื่อง
และขออโหสิด้วยนะทุกคน
ชาติหน้าขอให้ได้เป็นเพื่อนกับพวกแกอีกนะ

โลกนี้ไม่มีที่พอสำหรับคนโง่อย่างฉัน

พิม "

โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายกับเรา 20 มิ.ย.
"พิม - แก...ฉันฝากแกดูแลแม่ด้วยนะ
เรา - ทำไมแกจะไปไหนยะ
พิม - เปล่า...แต่แวะมาบ้างนะ เลยมาหาฉันด้วยนะ เหงาจังแก
เรา - ผัวล่ะ
พิม - มันบอกโทรหาน้อยๆหน่อย ทำงานไม่มีสมาธิ
(เงียบ) แก...คิดถึงพวกแกจัง
เรา - เฮ่ย เป็นไรป่ะเนี่ย บุ๊งมันรักแกจะตาย แต่มันเอาใจไม่เก่งนี่หว่า
พิม - บางทีคุยๆ ทะเลาะๆกัน แล้วฉันร้องไห้ มันบอกปวดหัวไมเกรน
อย่าทำเครียดมากกว่าเดิม

...ฉันอยากเจอพวกแกจังเลย

เรา - ไว้วันเสาร์ดิ อีบี อีจอยด้วยเอาป่ะล่ะ กลับจากออกทริปพอดีเลย
นอนแดกเหล้าให้เยี่ยวราดเลย อาทิตย์ไปสวนกัน
พิม - ดีๆๆๆๆๆๆ อยากเจอๆๆๆๆๆ"

...23 มิ.ย. 48
บุ๊งโกรธเรื่องที่พิมโทรหากว่า 50 มิสคอลล์ เพราะกลับบ้านผิดเวลา
ด้วยว่าออกไปดูสวนของลูกค้าแถวพระราม 3
พอรับสายก็ร้องไห้ โฮๆๆ ให้กลับบ้านซักที กลัวๆๆ
จนครั้งสุดท้าย 23.20น.อยู่บนทางด่วน
รับครั้งสุดท้ายบอกว่า จะถึงแล้ว ไม่ต้องโทร.แล้ว เดี๋ยวรถคว่ำ
พิมเงียบไป ร้องไห้กระซิกๆ

24.00 น.เรากำลังอ่านหนังสือจะนอนแล้ว
อีบี เพื่อนที่เตรียมฯ ของพิมโทร.มาบอกว่า พิมเข้าโรงพยาบาล
ให้แวะรับอีนก ที่ปากทางกม. 7 ด้วย
ส่วน บี กับ จอย อยู่กับ บุ๊ง ที่โรงพยาบาลแล้ว
พิม เข้าโรงพยาบาลด้วย " อาการเดิม "

24 มิ.ย. 2548
02.00น. เสียชีวิตอย่างสงบ ห้องไอซียู
เสียเลือดจากการกรีดข้อมือ และกินยานอนหลับเกินขนาด
หัวใจอ่อนแรง และเสียชีวิตในที่สุด

จดหมายถึงแม่
"...หนูโง่นะแม่ ที่รักไม่เป็น หนูรักแม่ หนูรักแม่
แต่หนูทนไม่ได้แล้ว ไม่ไหว หนูปวดหัว หนูต้องเป็นบ้าแน่เลยแม่
ถ้า บุ๊ง มีคนอื่นจริงๆ หนูจากเป็นไม่เอาน่ะแม่ จากตายดีกว่า"

จดหมายถึงบุ๊ง
"...อโหสิให้ด้วย ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง
บุ๊ง เป็นคนดีที่สุดในใจพิม รักบุ๊งนะ รักที่สุด ไม่รักจะแต่งงานด้วยเหรอ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพิม พิมผิด พิมน่ารำคาญ
ไม่มีพิมแล้ว ไม่ต้องรำคาญ ไม่ต้องปวดหัวแล้วนะ
ลืมพิมไปเลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บุ๊งไม่เคยรู้จักพิมเลย ลืม ลืม ลืม
รักใครก้อรักได้เลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บอกตัวเองไว้นะ ไม่มีพิม
ทำบุญด้วยกันมาแค่นี้

ลืมซะ
ไม่มีพิมทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคตของบุ๊ง"

แผ่นสุดท้ายแปะโพสต์อิทบนกระจก

"การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้า นางสาวพิรศลัย สุวรรณภักดี
กระทำลงไปทั้งที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ
และด้วยความสมัครใจของข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดบังคับให้กระทำ
และกระทำด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
นางสาวพิรศรัย สุวรรณภักดี"

เสียชีวิตขณะอายุ 24 ปี กับ 9 เดือนเต็มพอดี (เกิดวันที่ 24 เสียวันที่ 24)

ขอให้พิมเป็นคนสุดท้ายที่ต้องตายด้วยความรัก
ถ้าพวกเราเฉลียวใจซักนิด ว่า ทีพิมบ่นว่า เหงา ๆๆๆๆๆๆ อยู่เสมอนั้น
มีนัยแฝงอยู่...
เราคงพาพิมไปหาหมอทัน
เราคงให้บุ๊งเคลียร์กับพิม

บุ้งร้องไห้เสียใจ กอดแขน หอมแก้ม หอมมือพิมตลออดตอนรดน้ำศพ
พอจะบรรจุโลง บุ๊งร้องไห้ ไม่ยอมให้บรรจุโลง กอดร่างพิมไว้แน่น
นานกว่าสองชั่วโมง ...
หลวงลุง พระผู้ใหญ่ในวัด ขอบินฑบาตรให้พิม ได้บรรจุโลงตามประเพณี
ในวันเผา บุ๊งบวชหน้าไฟ มีกำหนด 1 เดือน
ทุกคนนรู้ว่าบุ๊งรักพิม แต่ทุกคนก็เสียใจที่บุ๊งไม่รู้จัก ดูแลรักษา
คนที่รักบุ๊งที่สุดในโลก
ทุกอย่างสายไปแล้ว ไม่มีพิมอีกต่อไป ช้าเกินไป

"...ครั้งแรกที่เห็นพิมประทับใจมาก ที่โรงเรียนใครๆก้อพูดถึงว่าน่ารัก สวย
พอรู้จักก้อเริ่มรัก รัก พิมไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนคนนี้รัก รัก รัก รักพิม รักที่สุด"

"...บุ๊งผิดเองที่ตอนนั้นไม่ดูแลพิม บุ๊งทำงานเหนื่อย-เครียด
เวลาพิมโทรมาก็ดีใจนะ แต่บางทีโมโหถ้ามันเกินพอดี แล้วพิมก็ร้องไห้
กลับค่ำหน่อย ดึกหน่อยก็งอน ก็ร้องไห้ ง้อกันทุกคืน บางทีก็โมโห บุ๊งผิดเอง
บุ๊งเพิ่งรู้ว่า บุ๊งได้เสียคนที่รักบุ๊งที่สุด อย่างไม่มีทางกลับมา
บุ๊งรักพิม ไม่เคยลืมพิม "
(จากหนังสืองานฌาปนกิจศพ นางสาวพิรศรัย สุวรรณภักดี 28 มิถุนายน 2548)

ขอบคุณแทนพิม ที่พิมได้เพื่อนดีๆหลายคน
เราเองเมื่ออ่านรีพลายของเพื่อนๆพิมที่นี่ ทุกคนน่ารัก และสดใส
พิมคงมีความสุขมาก
ทุกคนรีบๆทำอะไรๆไว้นะคะ
ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป เหมือนที่เกิดขึ้นกับพิม...

"เวลากูรักใคร...กูรักด้วย หัวใจ กูไม่เคยต้องคิด ว่าจะต้องทำอะไร ยังงัย
กูมีหัวใจไว้รัก ถ้ามึงรักใคร แต่มึงดันใช้สมองเหมือนเล่นเกมส์นินเทนโด
มึงไม่ได้รักหรอก นั่นมันเกมส์ชัดๆ"

(วาทะพิม~เวลาเย็นย่ำโพล้เพล้ ใต้ตึกคณะสังคมศาสตร์ โต๊ะกบฏท่องเที่ยว ธันวาคม 2546- กูประทับใจสุดๆเลยมึง)

คิดถึงพิม...

เสียดายชีวิตที่เกิดมาและเสียดายเวลาที่ล่วงผ่านไป แต่ก็ขอไว้อาลัยให้น้องเขาสู่สุขคติ

จากผู้ไว้อาลัยที่เธอทิ้งเขาไว้ข้างหลัง



"แด่สตรีที่มีรัก .. เป็นสรณะแห่งชีวิต"
..


เรื่องราวจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งได้จากไปเพราะคำว่ารัก
ได้ไปอ่านมาแล้วซึ้งมาก
เลยอยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องราวจริง ๆ
ตอนนี้เธอได้จากไปแล้ว ขอไว้อาลัยด้วยเรื่องราวของเธอ

2005/07/02
แด่ผู้ที่จากไป
ด้วยอาลัยจากผู้ที่เหลืออยู่
ที่ระลึกแด่ผู้เป็นที่รัก ..
พิธีพระราชทานเพลิงศพ
(เป็นกรณีพิเศษ)
นางสาวพิรศลัย สุวรรณภักดี
วัดโสมนัสวรวิหาร กรุงเทพ
"แด่สตรีที่มีรัก .. เป็นสรณะแห่งชีวิต"
ชาตะ 24 กันยายน 2523
มรณะ 24 มิถุนายน 2548

ขออนุญาตตัดทอนบางส่วนจากหนังสือที่ระลึกของพิม
ที่ทุกคนในชีวิตพิมเขียนไว้อาลัย...ด้วยหัวใจ

จากใจผู้ชายคนหนึ่ง
".. ตอนนั้นรุ่นพี่ตึกวิทย์ลือกันมากว่า
มีน้องใหม่ ม.4 ศิลป์-ฝรั่งเศสคนนึงสวยสุดๆ
ตามไปดูซักหน่อย
ผู้หญิงคนนั้นคือ พิม ..
ครั้งแรกที่พบพิม ประทับใจมาก แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องสวย
จำได้ใช่ไหมว่า ..
ข้างสนามบาส 5 โมงเย็น ..
พิมเล่นพนันโกงตังค์บุ๊งไปเกือบสามร้อย
แทบจะไม่มีเงินกลับบ้าน
ต่อมาเราก็เป็นเพื่อนกัน ..
(และภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนสนิท กับนางนพมาศปีนั้น
เพราะเธอเกาะแขนตลอดตอนลอยกระทง---ยืดไปหลายวัน)"



" .. บุ๊งจำทุกคำที่พิมพูดได้นะ
วันที่เราติดฝน – รถติดสุด ๆ - ปีที่แล้ว
กับเพลง "เสียงที่เธอนั้นไม่ได้ยิน"
วันนั้นบุ๊งบอกพิมว่า "รัก"
พิมทำหน้าตลก ๆ และบอกบุ๊งว่า
เพื่อนกัน มารักกันไม่ได้หรอก ..
เดี๋ยวจะเสียเพื่อนซะเปล่า ๆ คบกันมาเกือบสิบปี
แล้วบุ๊งบอกว่า เสียเพื่อนก็เจ๋งสิ
จะได้แฟนมาแทนไง
พิมหัวเราะ หลังจากนั้นมา ทุกอย่างในชีวิตเราก็สดใส
บุ๊งรักพิมคนที่ ..
ชอบทำหน้าตลก ๆ ตอนเจออะไรแปลก ๆ
ชอบแล่บลิ้นให้บุ๊งแล้วทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนไม่ได้ทำอะไร
ทำให้บุ๊งหลุดหัวเราะ
ชอบเอาชีวิตไปคิดตลกๆ
ว่าไหม .. ว่า
ชีวิตของเราสองคนมีอะไรให้จำกันเยอะแยะเลยเนอะ
ก็มันตั้งเกือบสิบปีแล้วนี่
จำตอนที่บุ๊งเข้าปี 1 ม.รังสิต
แล้วต้องมาหาพิมที่เตรียมทุกห้าโมงเย็นได้ไหม
ที่พิมเรียกบุ๊งว่า “ตีนผี“
ตอนนั้น เกือบได้เป็นผีทั้งตัวก็หลายหน "


“ส่วนบุ๊งจะไม่ลืมคนสวยของบุ๊ง
นางฟ้าน้อย ๆ ของบุ๊ง
เจ้าหญิงขี้งอนชอบกระทืบเท้าเร่า ๆ ของบุ๊ง
ที่รักของบุ๊ง
ทุก ๆ อย่างของพิมอยู่ในใจบุ๊ง
พิมรู้ไหมว่าที่พิมบอกว่า
เหงา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ตอนนี้ .. บุ๊งเหงาที่สุด
เพราะดาวดวงนั้นในใจบุ๊ง ..จากไป
แล้วพิมรู้ไหมว่า ..ที่พิมว่า กลัวบุ๊งมีคนอื่น
พิมรู้มั้ย ..
ผู้ชายคนนี้ .. ตื่นขึ้นมากลางดึก
เพื่อที่จะหอมแก้มบาง ๆ ของภรรยา
กอดเธอ
และสัญญากับตัวเองว่า
จะทนุถนอมเธอเท่าชีวิต
แต่วันนี้เธอกลับจากไป ..
พิมรู้ไหมว่า ..
วันแต่งงาน .. ที่เรารับพระราชทานน้ำสังข์แล้วพิมร้องไห้
พิมรู้ไหมว่า .. บุ๊งร้องไห้ยิ่งกว่า ..
เพราะว่าผู้หญิงที่บุ๊งเฝ้าคอยจะปกป้องมาหลายปี
ในที่สุด .. เราก็ได้รักกัน .. ตลอดไป
พิมรู้ไหมว่า ..
ที่โทรมาแล้วร้องไห้ .. บุ๊งไม่ได้โกรธพิม
แต่บุ๊งเจ็บใจตัวเอง
ว่าทำไม .. บุ๊งไม่เอาไหนเลย
ทำให้พิมเอาแต่ร้องไห้
บุ๊งเจ็บใจ และพยายามจะให้พิมมากที่สุด
แต่สิ่งที่พิมต้องการ .. “เวลา”
บุ๊งก้อพยายามให้ .. แต่คงไม่พอ


บุ๊งไม่นึกเลยว่า ..
จะเสียเพื่อน – แฟน – ภรรยาที่ดีที่สุดไปในเวลาเดียวกัน
บุ๊งสาบานว่าจะไม่รักใครอีก
จะไม่แต่งงานอีก
บ้านของเรา .. บุ๊งจะกลับไปอยู่
ดูแลทุกอย่างให้เหมือนพิมยังอยู่กับบุ๊ง
บุ๊งรักพิม บุ๊งมีพิมอยู่ในใจ
บุ๊งไม่ลืม ..
บุ๊งมีพิมอยู่ตลอดเวลาในใจ
พิมคือของขวัญแสนงาม
ที่กาลเวลามอบให้ในเวลาที่เหมาะที่สุด
และจากไปด้วยกาลเวลานำพาจากไป
แด่ความทรงจำอันงดงามที่สุด .. เท่าที่บุ๊งจะมีได้ “
แด่นางฟ้าของบุ๊ง
นางพิรศลัย ศาสตรยานนท์
ภรรยาผู้เดียวในชีวิตของบุ๊ง
”รักพิมที่สุดในดวงใจ"



เพื่อนของพิม
2005/06/29
"ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปสรรคใด ๆ

ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกพิขังไว้
มีแต่จะแล่นไป
บ่ยอมอยู่
ณ.ที่ขัง"
(มัทนพาธา ~ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6)

พิมเล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในมหาวิทยาลัย
ประกอบวิชาสุนทรียศาสตร์ โดยรับบท มัทนพาธา
เพราะเพื่อนทั้งห้อง ไม่มีใครจำได้หรอก คำฉงคำฉันท์
แต่เธอจำได้ เล่นไป พูดฉันท์ ไป ร้องไห้ไป
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกจริง ๆ จัง ๆ ว่า
เพื่อนใหม่คนนี้จะต้องมีอะไรในใจอยู่ลึก ๆ
และเธอคงเป็นดาราได้
แล้วก็จริง .. เธอเหมือนเพลงประจำตัวของเธอ
(พวกเราชอบหาเพลงประจำตัวให้เพื่อนๆ เอาไว้เม้าธ์กันเล่นๆ)
เพลง เหงา ซาร่า มาลากุล - เราเรียกพิมว่า ซาร่า เลว
กลอนบทนี้อยู่หน้าสุดของไดอารี่ของพิม .. ที่ยกให้พวกเรา
จึงนำบางส่วนในทั้งหมดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่ได้รู้จักรัก และจบลงด้วยความรัก
มาเผยแพร่เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง
และหากมีประโยชน์ใดๆบ้าง
ขออุทิศให้แก่พิม
ได้พบความสงบ ณ สัมปรายภพเทอญ


ไดอารี่...มหาสมุทรน้ำตา
" .. จะว่ายังงัยก้อแล้วแต่ .. ฉันทนไม่ไหวแล้ว
การอยู่ด้วยกัน .. มันไม่ใช่แค่รัก รู้มั้ย
มันต้องเข้าใจ เข้าใจกัน
รักน่ะรัก รักนะ แต่มันไม่ได้น่ะ
ฉันร้องไห้หาเค้า
เค้าบอกว่าร้องทำไมเป็นโรคจิตเหรอ
ฉันเหงาจัง ..
ตอนรอเค้ากลับบ้าน
ทำไมมันเหมือนตอนที่ฉันรอพ่อกลับบ้านเลยนะ
ฉันมองเห็นเด็กผู้หญิงจากกระจกสะท้อนมา ..
เด็กคนเดิมยังรออยู่
รอ ..
รอ ..
รอ ..
ทนไม่ไหวแล้ว
ช่วยด้วย"

(หน้านี้มีแต่คราบน้ำตา)
"เพิ่งจะได้รู้ ที่แท้เราก็เพียงรักกัน
แต่ความรักเท่านั้น
ไม่พอ .. และไม่ง่ายดาย
ก็เพิ่งจะรู้ว่ารักที่ไม่เคยเข้าใจ
จะอย่างไรรักนั้นก็คงจบในไม่นาน
และอาจจะต้องเสียใจ ไม่อาจจะไปด้วยกัน
เพราะเธอและฉันที่ไม่มีคำว่า .. เหมือนเดิม
(เพลงแอม เสาวลักษณ์-อยู่ในบันทึก)"


"เหงาจัง จะโทรก็ไม่กล้า .. กลัวเหมือนดาวหลงฟ้า
ที่นางเอกโทร. ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ทั้งวัน
แต่โชคดีที่พระเอกมันคุยแฮะ
ไม่ยักกะบอกว่า ไม่ต้องโทรบ่อยหรอก
ก็เดิม ๆนะแหละ เดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันนะ
แต่อยากโทร.นี่ อยากโทร"

"ที่ทำงานโคตรเหงาเลย
อยู่หน้าห้องเอ็มดีคนเดียว
กินข้าวก็ใส่กล่องมากินคนเดียว คิดถึงนก บี จอยจัง
เมาธ์แตกใต้คณะ
เหงาจัง เหงาจัง"



จดหมายฉบับสุดท้าย .. ใต้กล่องแป้งบนโต๊ะในห้องที่เธอหลับนิรันดร์

"ถึงเพื่อนที่วิเศษที่สุด เท่าที่โลกโหดร้ายมอบให้
จนโลกไม่ร้ายเกินไป"

"22 มิถุนายน 2548
บี จอย นก เพื่อนรักทุกคน
ฉันขอโทษที่คืนนี้
ฉันเพื่อนแกจะเดินทางไกลโดยไม่ต้องเลี้ยงส่ง
ฉันกลัวเหมือนกันนะแก กลัวจริง ๆ
แต่นึกถึงเวลาที่เหงา
แม้จะรายรอบไปด้วยคน คน คน
แต่ก็เหงา ..
ฉันอยากนอนหลับยาว ๆ มากกว่า
และแล้ววันนี้ .. ฉันก็ทำอีก
ขอโทษที่ผิดสัญญาแต่ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริง ๆ นะ
แกรู้มั้ย ..
บางทีที่ต้องนั่งรออยู่ที่บ้านคนเดียว
ได้ยินเสียงรถก็ใจเต้นตึกตัก ๆ
วิ่งมาหน้าบ้าน
แต่พอไม่ใช่เค้า ใจเหี่ยวเลย
โทรหา .. เค้าก็บอกเดี๋ยวกลับ เดี๋ยวกลับ เสียงเพลงดังเลย
ไม่เหมือนเดิม
ฉันรู้ว่าเค้าเครียดเรื่องบริษัท เรื่องฉัน
เค้าคงคิดว่าเลือกผิดคนแล้วมั้ง
ฉันร้องไห้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ
เค้าบอกว่า ถ้าอยู่กับเค้าแล้วไม่แฮปปี้
จะคิดใหม่ก็ได้นะ
เล่นง่ายนะ ..
กรรมของผู้หญิงนะแกนะ
เค้าเป็นคนแรก และคนเดียวเท่านั้นนะแกนะ
แกก็รู้นี่นาฉันมีเค้าเป็นคนแรก และเป็นคนสุดท้ายในชีวิต
ไม่เอาอีกแล้วนะ
พอแล้วนะแกนะ
อยากเจอพวกแกจังเลย
ไปดูหนังเรื่องเฉิ่มมาล่ะ ดูคนเดียวด้วยล่ะ หนังโคตรดีเลย
ตอนจบฉันร้องไห้ลั่นโรงเลย คนหาตัวกันให้วุ่นเลย
ฉันอยากมีความรักดี ๆ สะอาด ๆ เหมือนในหนังบ้างนะ
เบาะข้าง ๆ ว่างเปล่า
อยู่ไหนนะ .. ไม่กล้าโทรหา
แต่พอแล้วล่ะมั้ง เกมส์โอเวอร์

พอแล้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ทุกอย่างของฉันให้ยกกลับไปที่บ้านป้าเตียบเผาเลยก้อได้
พวกทองเครื่องประดับให้แม่ไว้แต่เมื่อวาน
จดหมายถึงแม่อยู้ข้างใต้กำมะหยี่แดงก้นกล่อง
แกแกะหาให้แม่อ่านด้วย
ถ้าไม่ถือ .. อะไร ๆ ในกล่องยกให้พวกแกนะ
เอาไปเหอะ เป็นที่ระลึก ระทึกตามใจแก
ช่วยใส่ชุดไทยสีครีม วัน"รดน้ำ" แต่งงานให้ด้วย ตอน"รดน้ำ"ศพ
ฉันวางในกล่องใต้เตียง
ก้มหาใต้เตียงก็เห็น รียูสนะเนี่ย
ลาแล้วนะ ลาแล้ว ฉันเหงา ..
บอกบุ๊งด้วย วาสนาหมดกันเพียงแค่นี้
มีคนอื่นได้เลย .. จบแล้ว
อโหสิให้ทุกคนนะ
ทุกเรื่อง ..
และขออโหสิด้วยนะทุกคน
ชาติหน้าขอให้ได้เป็นเพื่อนกับพวกแกอีกนะ
โลกนี้ไม่มีที่พอสำหรับคนโง่อย่างฉัน
”พิม"



โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายกับเรา
20 มิ.ย. 2548
"พิม – แก .. ฉันฝากแกดูแลแม่ด้วยนะ
เรา - ทำไมแกจะไปไหนยะ
พิม – เปล่า แต่แวะมาบ้างนะ เลยมาหาฉันด้วยนะ เหงาจังแก
เรา - บุ๊งล่ะ
พิม – เค้าบอกโทรหาน้อย ๆ หน่อย ทำงานไม่มีสมาธิ (เงียบ) แก .. คิดถึงพวกแกจัง
เรา - เฮ่ย เป็นไรป่ะเนี่ย บุ๊งมันรักแกจะตาย แต่มันเอาใจไม่เก่งนี่หว่า
พิม – บางทีคุย ๆ ทะเลาะ ๆ กัน แล้วฉันร้องไห้ เค้าบอกปวดหัวไมเกรน อย่าทำเครียดมากกว่าเดิม
ฉันอยากเจอพวกแกจังเลย
เรา - ไว้วันเสาร์ดิ บี จอยด้วยเอาป่ะล่ะ กลับจากออกทริปพอดีเลย อาทิตย์ไปสวนกัน
พิม - ดีๆๆๆๆๆๆ อยากเจอๆๆๆๆๆ"

23 มิ.ย. 48
บุ๊งโกรธเรื่องที่พิมโทรหากว่า 50 มิสคอลล์
เพราะกลับบ้านผิดเวลา ด้วยว่าออกไปดูสวนของลูกค้าแถวพระราม 3
พอรับสายพิมก็ร้องไห้ โฮ ๆ ๆ ให้กลับบ้านซักที กลัวๆๆ
จนครั้งสุดท้าย

23.20น. อยู่บนทางด่วน
รับครั้งสุดท้ายบอกว่า จะถึงแล้ว ไม่ต้องโทร.แล้ว เดี๋ยวรถคว่ำ
พิมเงียบไป ร้องไห้กระซิก ๆ

24.00 น.
เรากำลังอ่านหนังสือจะนอนแล้ว
บีเพื่อนที่เตรียมฯ ของพิมโทร.มาบอกว่า
พิมเข้าโรงพยาบาลให้แวะรับนก ที่ปากทางกม. 7 ด้วย
ส่วนบีกับจอย อยู่กับบุ๊งที่โรงพยาบาลแล้ว
พิมเข้าโรงพยาบาลด้วย "อาการเดิม"

24 มิ.ย. 2548
02.00น. พิมเสียชีวิตอย่างสงบ ในห้องไอซียู
เสียเลือดจากการกรีดข้อมือ
และกินยานอนหลับเกินขนาดหัวใจอ่อนแรง
และเสียชีวิตในที่สุด



จดหมายถึงแม่

"หนูโง่นะแม่ ที่รักไม่เป็น หนูรักแม่ หนูรักแม่
แต่หนูทนไม่ได้แล้ว ไม่ไหว หนูปวดหัว
หนูต้องเป็นบ้าแน่เลยแม่
ถ้าบุ๊งมีคนอื่นจริง ๆ หนูจากเป็นไม่เอาน่ะแม่
จากตายดีกว่า"

จดหมายถึงบุ๊ง
"อโหสิให้ด้วย ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง
ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง
บุ๊งเป็นคนดีที่สุดในใจ
พิมรักบุ๊งนะ รักที่สุด
ไม่รักจะแต่งงานด้วยเหรอ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพิม
พิมผิด ..
พิมน่ารำคาญ ..
ไม่มีพิมแล้ว ไม่ต้องรำคาญ
ไม่ต้องปวดหัวแล้วนะ
ลืมพิมไปเลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บุ๊งไม่เคยรู้จักพิมเลย
ลืม ..
ลืม ..
ลืม ..
รักใครก็รักได้เลย
ไม่มีพิม ไม่มีพิม บอกตัวเองไว้นะ
ไม่มีพิม ..
ทำบุญด้วยกันมาแค่นี้
ลืมซะ ..
ไม่มีพิมทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคตของบุ๊ง"

แผ่นสุดท้ายแปะโพสต์อิทบนกระจก

"การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้า นางสาวพิรศลัย สุวรรณภักดี
กระทำลงไปทั้งที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ
และด้วยความสมัครใจของข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดบังคับให้กระทำและกระทำด้วย ความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
นางสาวพิรศรัย สุวรรณภักดี"
เสียชีวิตขณะอายุ 24 ปี กับ 9เดือนเต็มพอดี (เกิดวันที่ 24 เสียวันที่ 24)




ขอให้พิมเป็นคนสุดท้ายที่ต้องตายด้วยความรัก
ถ้าพวกเราเฉลียวใจซักนิด
ว่าที่พิมบ่นว่า เหงา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
อยู่เสมอนั้น
มีนัยแฝงอยู่
เราคงพาพิมไปหาหมอทัน
เราคงให้บุ๊งเคลียร์กับพิม
บุ๊งร้องไห้เสียใจ
กอดแขน หอมแก้ม
หอมมือพิมตลออดตอนรดน้ำศพ
พอจะบรรจุโลง บุ๊งร้องไห้ ไม่ยอมให้บรรจุโลง
กอดร่างพิมไว้แน่น
นานกว่าสองชั่วโมง
หลวงลุง พระผู้ใหญ่ในวัด ขอบินฑบาตรให้พิม
ได้บรรจุโลงตามประเพณี
ในวันเผา บุ๊งบวชหน้าไฟ มีกำหนด 1 เดือน
ทุกคนนรู้ว่าบุ๊งรักพิม
แต่ทุกคนก็เสียใจที่บุ๊งไม่รู้จัก
ดูแลรักษาคนที่รักบุ๊งที่สุดในโลก
ทุกอย่างสายไปแล้ว ไม่มีพิมอีกต่อไป ช้าเกินไป

"บุ๊งผิดเองที่ตอนนั้นไม่ดูแลพิม
บุ๊งทำงานเหนื่อย-เครียด
เวลาพิมโทรมาก็ดีใจนะ แต่บางทีโมโหถ้ามันเกินพอดี
แล้วพิมก็ร้องไห้
กลับค่ำหน่อย ดึกหน่อยก็งอน ก็ร้องไห้
ง้อกันทุกคืน บางทีก็โมโห บุ๊งผิดเอง บุ๊งเพิ่งรู้ว่า
บุ๊งได้เสียคนที่รักบุ๊งที่สุด
อย่างไม่มีทางกลับมา บุ๊งรักพิม
ไม่เคยลืมพิม"



“เวลาฉันรักใคร .. ฉันรักด้วยหัวใจ
ฉันม่เคยต้องคิดว่าจะต้องทำอะไร
ยังไง ฉันก็มีหัวใจไว้รัก ถ้าแกรักใคร
แต่แกดันใช้สมองเหมือนเล่นเกมส์นินเทนโด
แกไม่ได้รักหรอก นั่นมันเกมส์ชัดๆ"
(วาทะพิม ~ เวลาเย็นย่ำโพล้เพล้ ใต้ตึกคณะสังคมศาสตร์ โต๊ะกบฏท่องเที่ยว ธันวาคม 2546- )

คิดถึงพิม ...





อันนี้ล่าสุดมีวีดีโอพิมด้วย เสียดายความสวยกะความสามารถจัง



ภาพวีดีโอพิมตอนร้องเพลง

รูปพิมที่มิตติ้งเวบนึง

คนที่ใส่เสื้อแดงลายดอกนะคะ


แต่รูปแฟนพิมบุ้งเขาเคยลงเหมือนกันแต่ไม่ได้เซฟไว้ หน้าตาน่ารักเหมือนกัน


กรรม พึ่งมารู้ว่าเป็นเรื่องแต่ง


คือว่าตอนแรกอ่านอยากจะร้องไห้เลยแต่พอมารู้ทีหลังว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นเสียใจสุดๆๆ ทำไมต้องโกหกด้วเนี้ย
..........จุดโกหก
1. คนฆ่าตัวตายไม่สามารถรับพระราชทานเพลิงศพได้ สำคัญมากมายนะจ๊ะ
2. ค้นหาประวัติ ไม่มีอ่ะจ๊ะ
3. นามกุลคนชื่อบุ้งหากใครได้อ่านไม่มีประวัติเรียนหรือเคยเรียนที่ ม. รังสิต
4. เกีตรินิยมอันดับ 1 รุ่นพิม มีคนเดียวคือ บิ้ม
5. อายุมันดูเวอร์ๆๆมากมาย
6. วัดโสมนัสไปถามพระดูไม่มีอ่ะจ๊ะ
7.พระราชทานเพลิงศพต้องใช้คนที่แก่หรือเชื้อหม่อมหรือมีคุณงามดีมากมาย
การที่แม่รักลูก สามีรักภรรยามันเปนสิ่งที่ดีการนำเสนอที่ดีแต่ไม่ใช่จะโกหกแบบนี้อ่ะจ๊ะ

สรุปคร้าวๆๆๆ อ่ะจ๊ะ
ที่มาไม่ใช่จะมาว่าอ่ะแต่อยากจะถามว่าทำไมต้องโกหกไม่เข้าใจ ตอนอ่านทีแรกเราร้องไห้เลยพอมารู้ทีหลัวเสียใจมากมาย แค่นี้แหละครับ


ผมเจ้าของกระทู้แรกเองอาจงงนะครับเดี่ยวผมจะมาบอก

ผมเด็ก ม.รังสิต เก่า โทรถามแค่ชื่อนามสกุลเพื่อนผมก้อเช็ดได้แล้ว
ญาติผมทำงานกระทรวง ให้เช็ดข้อมุลได้แปปเดียว
พระราชเพลิงศพถามคนในที่ใกล้ชิดเกี่ยวกะวังก้อรุ้ อยากรุ้ไปหานะแถวปิ่นเกล้า
โสมนัสหมายถึงไปถามพระว่ามีคนมาเผาชื่อนี้หรือเปล่าไม่ใช่ว่าวัดไม่มี
เพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันกะคนนี้ไม่มีชื่อพิม
โอเคนะ

ความคิดเห็นที่ 30
เรื่องนี้คงไม่ได้แต่งขึ้นมาหรอกค่ะ
คุณพิมพ์นั้นได้เรียนที่ม.เชียงใหม่หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาจากเตรียมอุดม
เพียง แต่ไม่จบการศึกษาจากที่นั่น จึงเทียบโอนรายวิชามาเรียนต่อที่ราชภัฏพระนคร(การเทียบโอนเกรดสามารถเทียบ โอนได้ในรายวิชาพื้นฐาน แม้ว่าจะโดนรีไทร์ ก็สามารถเอาเกรดจากสถาบันเดิมเทียบโอนได้..นะคะ)
ส่วนเรื่องพระราชทานเพลิงศพนั้น ก็สามารถทำได้ เพราะเป็นกรณีพิเศษ (อาจจะเพราะเหตุอื่นใด...หรือเส้นใหญ่นั่นแหล่ะค่ะ)
ส่วน เรื่องที่ว่าคนแต่งงานแล้ว อยู่ด้วยกันทุกๆวัน แต่น้อยใจฆ่าตัวตายนั้น(ทั้งๆที่เพิ่งแต่งงานกันแค่ 3 -4เดือน) อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ
เหมือนกับคู่รักที่ไม่ได้แต่งงานด้วย ที่ต้องการเวลา ต้องการความรัก ความเอาใจใส่
การ ที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว อาจจะทำให้รู้สึกเหงา และเดียวดาย ทั้งๆที่ควรจะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่คุณบุ๊งอาจจะมีเวลาน้อย เพราะต้องทำงาน
แต่คุณพิมกลับต้องการเวลาที่มากกว่า เพราะเหงา กลัว โดดเดี่ยว
ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่ผู้หญิงจะกลัว ระแวง และคิดฟุ้งซ่านไปคนเดียวหรอกค่ะ
โดย : ''ถาปัด ราชภัฏพระนคร วันที่ :2005-11-30 20:53:13 IP :202.29.4.xx
+++++++++++++
นักศึกษาที่เทียบโอนไม่สามารถมีสิทธิรับเกียตินิยมได้ครับทุกกรณีไม่ว่าจะได้เกรดเท่าไร่ก้อตามจิงไหมลองไปถามฝ่ายแนะแนวมหาลัยคุณดู

...............................

ความคิดเห็นที่ 24
ที่ จขกท.เขาบอกว่าวัดโสมนัสไปถามพระดูไม่มีน่ะ หมายถึงเขาไปถามพระที่วัดโสมนัสว่ามีการพระราชทานเพลิงศพคนชื่อนี้ นามสกุลนี้ต่างหาก หรือเปล่า ตีโจทย์ให้แตกหน่อย
โดย : งงจริงๆ วันที่ :2005-11-30 14:31:49 IP :58.136.80.xx
+++++++++++++++++++++

เออ ถามพระที่วัดโสมนัสครับว่ามีคนราชเพลิงศพชื่อพิมหรือเปล่าเพราะเพือ่นเราแถวนั้นพอดี สรุปไม่มีครับ

.++++++++++++++++++

เรื่องนี้เราว่าจริง
1.เรื่องขอพระราชทานเพลิงศพอะ มันมีหลักเกณฑ์และอยู่ในดุลพินิจของสำนักราชวัง
2.ชื่อในนั้นอาจจะเป็นชื่อปลอม(ยกเว้นชื่อเจ้าของงานศพ)
3.นามสกุลสุวรรณภักดี ไม่อยากจริงๆค่ะ ถ้าจะของพระราชทานเพลิงและพระราชทานน้ำสังข์ให้ลูกหลาน
4. คุณไปค้นประวัติเขาในไหนหรอ ทะเบีบนราษฏรหรือเปล่าค่ะ ถึงได้รู้แน่นอนแต่ถึงจะเช็คก็คงไม่มีหรอก เพราะคนตายเขาจำหน่ายออกอะค่ะ อีกอย่างคุณเป็นเจ้าหน้าที่หรอถึงค้นได้ ถ้าค้นจากในเนตก็ไม่ต้องพูด
5.แค่วัดโสมนัสคุณยังไม่รู้จักเลย วัดออกจะดัง ระดับวัดหลวงสำคัญเลยนะ ไม่รุ้จักหรอ ออกข่าวก็บ่อย
สรุป คือจริงไม่จริงแต่เนื้อหาสาระที่อ่านมันเป็นเรื่องดีที่เตือนใจคนได้ ทำให้คนคิดได้ในสิ่งที่ดี ไม่ได้ทำลายล้างใคร หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร(ที่สำคัญไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คุณนะ หรือว่าคุณเดือดร้อนอะ) ถ้าคุณจะสืบจริงๆเราว่าคุณคงต้องทำหนังสือเขาไปขอสำเนาเรื่องการขอพระราชทาน เพลิงศพของเจ้าของงานศพนะ จะได้รู้ว่ามีจริงไหม ได้รับพระราชทานเพลิงศพจริงหรือเปล่า แล้วก็จะได้ประวัติด้วย ได้เหตุผลทั้งที่ได้รับพระราชทานน้ำสังข์ แล้วก็พระราชทานเพลิงศพเลยอะ ดีกว่ามะ

++++++++++++++++++++
คุณลองอ่านของคนนี้เองนะครับ
คน ที่อ่านแล้วนำมาคิดว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า ดิฉันกลับมีความคิดว่า คนคนนั้นเป็นคนฉลาดไม่ใช่ใครจะแต่งเรื่องอะไรมาหลอกว่าเรื่องจริงก็คิดว่า จริงไม่ใช้มันสมองอันน้อยๆคิดว่าเขากำลังหลอกเราอยู่หรือเปล่า คนที่เชื่อเรื่องที่คนอื่นเล่าโดยไม่ไตร่ตรองก่อน มีแต่ควายทั้งนั้นล่ะค่ะ แค่เรื่มต้นก็โกหกแล้ว คนที่ฆ่าตัวตายไม่มีสิทธิ์ขอพระราชทานเพลิงศพค่ะ นี่เป็นกฎตายตัวที่ไม่สามารถขอผ่อนผันได้ไม่ว่ากรณีใดๆไม่ว่าคุณจะเส้นใหญ่ แค่ไหนก็ไม่มีทางได้ค่ะ ดูตัวอย่างคุณห้างทองซิค่ะ ถ้าเขาฆ่าตัวตายเขาก็ไม่มีสิทธิ์ขอพระราชทานเพลิงศพค่ะ โปรดรับทราบไว้ด้วยนะ
และ

เราว่าโกหกจิง ๆ หล่ะ ก็หนังเรื่องเฉิมหน่ะ มันฉายหลังจากเดือน มิถุนายนไม่ใช่หรอ เค้าตายเดือนมิถุยน 48 หลังมิถุนายน เค้าไปดูหนังเรื่องเฉิ่มได้ไง ผีหลอกแน่ ๆ


โดย : kamashi
อีเมล์ : abac_rsu2528@hotmail.com
วันที่ : 2005-12-05 21:41:15


เสียความรู้สึก มากๆๆ ที่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง ที่จริง กระเทยที่แต่งอ่ะ เก่งนะ เราจะชื่นชมมาก ถ้าคุณจะหยุดแค่ คนอ่านเรื่องของคุณมากมายและนำไปแพร่ที่เอมไทย และคนมาโพสความคิดเห็นทั้งด้านบวกและลบ แต่ส่วนมากจะด้านบวก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง เลยอินไปด้วย แต่พอคุณมาโพส and so the story goes และยังมาแหลเขียนต่อว่าคนที่โพสด้านลบอีก เลยไม่นึกชื่นชมคนเขียนแล้ว รังเกียจด้วย ที่เอาความรู้สึก และอารมณ์ที่คนอ่าน สงสาร เห็นใจตัวละครชื่อพิมในเรื่อง มาเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง เราอ่านด้วยความเห็นใจ เข้าใจในตอนแรก แต่พอรู้ความจริงแล้ว รังเกียจมากๆๆ แต่งเสียเลอเลิศ คงอยากเป็นหญิงมากๆๆ (อันนี้เราไม่ว่านะ เราเข้าใจ) แต่ แหลว่าตัวเองสูงส่ง ชาติตระกูลดี เพ้อไปจนถึงขั้นได้รับพระราชทานเพลิงศพ คุณหนูสุดๆๆ แล้ว ทำมาบูชารักแบบด้วยชีวิต เสียความรู้สึกจริงๆๆ ตอนนี้รู้สึกสะอิดสะเอียนคนเขียนกระเทยที่ชื่อ มิ้ม มากก ถึงมากที่สุด ถ้าคุณอยากแต่งนิยายเราก็ไม่ว่า แต่พอคนเริ่มรู้ คุณมาเขียนสารภาพผิด ขอโทษสิ เราก็จะให้อภัย และจะชื่นชมคุณเสียอีก แต่ตอนนี้ อยากบอกว่า คุณจงอย่าเพิ่งปรีด์เปรมที่คนสนใจเรื่องของคุณ และเชื่อเรื่องคุณอีกเลยนะ เพราะตอนนี้เราคนนึงล่ะ ที่รังเกียจเรื่องและตัวคุณด้วย ให้ตายเถอะ
โดย : ลงไว้ที่exteen เอามาที่นี่ด้วย วันที่ :2005-12-06 20:59:42 IP :58.147.35.



Create Date : 07 สิงหาคม 2548
Last Update : 3 กันยายน 2553 10:58:34 น.
Counter : 4446 Pageviews.

2 comments
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
ep 4 ขับรถบนถนนเริ่มจะประมาท โอพีย์
(10 เม.ย. 2567 05:03:14 น.)
ความรักของพ่อ (ความประทับใจของลูก) chobkid
(5 เม.ย. 2567 09:42:49 น.)
  
โดย: ฟ้าหม่นคนดี วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:0:28:31 น.
  
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ทราบ เรื่องนี้เข้าตามเข้าไปอ่าน หลายๆ ที่
รับรู้เรื่องราวแต่ ปกติไม่เคยแสดง คอมเมนท์ ใดๆ
แต่พอถึง เวลานี้ คงต้องกล่าวว่า ขอให้คุณพิมพ์ มีความสงบ ณ สัมปรายภพ ไม่ว่ามันจะมีจริงหรือไม่
---- อยากให้ มันเป็น แง่คิด บทเรียน ของความรัก
ความรัก --- ไม่ใช่การใช้แต่ อารมณ์ หรือเหตุผล ไม่ใช่เรื่อง
แค่ คน 2 คนอย่างที่คิด ไม่ใช่ ความ หลง ไม่ใช่ ความผิดหรือถูก ลึกเข้าไปในใจ หรือเข้าใจ เข้าไป ทุกๆ ในการกระทำ
พึงระลึกว่ามันเป็นสิ่งที่ ต้องพยายาม คอยเตือนตัวเองให้ทำดีอยู่ เสมอ เมื่อคุณ รู้จักและเข้าใจ ความรัก ไม่มีทางทำร้ายใครหรือแม้แต่ตัวเอง คุณจะเต็มไปด้วยการให้ การอภัย
คุณจะมองความเป็นไปของโลกอย่างมีสติ เข้าใจ ความหมาย คำว่าว่าเข้าใจ (เข้าใจ= ลึกเข้าไปข้างในใจ เข้าไปในกระเลือด ซ้าบซึ้งในทุกอณู นั่นคือ=เข้าใจ) การมีอยู่ของคุณ
คุณรู้ได้ด้วยการ เสียสละ ความโกรธ คุณน้อยลง คุณรู้จักให้ มากกว่า ต้องการ ผมรู้สึก ขอบคุณโลกนี้ใบนี้ จริงๆ ที่ให้พบพบกับความรัก ขอบคุณ อากาศ ขอบคุณ ต้นไม้ใบหญ้า
ขอบคุณ ทุกๆ อย่าง ที่ทำให้ผมเกิดมา ผมว่ามันเป็น สิ่งที่ดีที่ สุดเท่าที่ผมรู้จัก -----
***ถ้าคุณท้อแท้***
ลอง อย่างผมสิ--- คนหลายคน อยากมานั่งอ่าน ข้อความ อยากมารับรู้ข้อความที่พวกเรา ช่วยกันเขียนขึ้นแต่เขาไม่ สามารถ มารับรู้ได้เพราะ ไม่มีคนอ่านให้เขาฟัง บางคนอยากลุกขึ้นมาอ่านเอง แต่เพียงเพราะไม่มีคนมาเข็ญ พยุงให้ลุกขึ้นมาอ่าน บางคน หลับไม่รู้สติ ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาอ่านได้อีกไหม
คุณลองมอง รอบตัวคุณ ดีๆ คุณจะรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว
ตาคุณ มองเห็น หูได้ยิน ปากกินได้ มือ ขา ยังสั่งการณ์ได้ ยังวิ่ง
ยังหัวเราะ ยังร้องให้ ยังรับรู้ได้ นั่นมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอครับ ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ผมว่าปัญหาอย่างเราๆ ก็ดุเป็นเรื่องไรสาระไปเลยเมื่อเทียบ กับ ผู้ทุภพลภาพ ผู้ประสบภัยหรือ ตำรวจทหารที่ต้องคอยทำงานหรือประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน บุคคล ที่ผมกล่าวมา เขาอยู่ได้ด้วยอะไรครับ
ผมว่า ความรัก = การมีชีวิต มันไม่ได้แตกต่างกันเลย
ลองเปลี่ยน ทัศนคติ ปัญญาทัศ มุมมอง เดินไปในทิศทางตรงข้ามบ้าง ลองพยายามมองในแบบที่มันเป็น ตัดความ อิจฉาริษยา ความหลง ความโลภ ความเอาแต่ใจ
เสียสละให้มากขึ้น ให้อภัย ทิ้งความเห็นแก่ตัวลง ผมว่าความรักมันเป็นแบบนั้นหละ
ผมรู้สึกว่า ชีวิตของคนเราเกิดมา เพื่อ คนอื่นนะครับ
เนี่ยแหละเหตุผลของการมีอยู่ของคนเรา เราเกิดมาเพื่อสิ่งต่อไป และเราตายไปก็เพื่อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมาแทนเรา
มันเป็นเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ เพียงแต่อย่า ปรุงแต่งมัน
มันมีวิถีทางของมันเสมอ ความรักและการมีชีวิต
มันทำให้ผม เปลี่ยน ตัวเองจาก หน้ามือเป็นหลังเท้า(แอบมีมุข) คุณคิดไม่ถึงหรอกว่า ผมก็เคยเป็นคนที่คุณ จินตนาการ
เรื่องความชั่วไปไม่ถึงเลยหละ แต่เมื่อ ผมมาพบกับความรัก มันเปลี่ยนแปลงชีวิตผมทั้งชีวิต มันทำให้ผมจากที่คิดถึงแต่ตัวเอง กลายเป้นคนที่จะคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอ คุณจะพบว่า เมื่อคุณ ตื่นเช้าขึ้นมาแทนที่จะสลึมสะลือ หดหุ่ เศร้า กลับสดชื่น สว่าง และอบอุ่น เพียงแค่หายใจเอาอากาศ รอบๆ ตัว
มองโลกอย่างสวยงามแง่ดี
ไม่ว่าปัญหาใด้ๆ ก็ผ่านไปได้ จำไว้ครับ ไม่มีปัญหาปัญญาก็ไม่เกิด ปัญหามันมีเหตุผลของมันที่เกิดขึ้นมา
ดังนั้นมันเป็นแค่ปัญหา มันไม่มีทางสู้คุณที่มีปัญญาได้หรอกครับ แต่ ถึงอย่างไรคุณก็เป็นคน ครั้นจาให้คิด แก้ เดี๋ยวนั้นเลยอาจจะยังไม่ชิน ลองครับ ลองก่อนชีวิต มันมีลองได้ครับ
ถ้าคิดแก้ไม่ออก ก็กลับไปบ้าน เดินไปห้องนอน กองปัญหาไว้หน้าห้อง ปิดประตูใส่มัน นอนเอาแรงกินข้าวก่อน ตื่นมาค่อยมาสู้กับมันต่อผมว่า พอคุณตื่นขึ้นมามันก็ ลงไปอยุ่ที่ปลายเท้าคุณแล้วหละจากแต่ก่อนเมื่อวานมันยังอยุ่บนหัวอยู่เลย
--เห้อ เหนื่อยพิมพ์ (อัตรา การพิมพ์ดีด ผมอยู่ที่ 30 คำต่อ2ปี)
สุดท้ายถ้าข้อความของผมไปรบกวน หรือสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใด ก็ยกโทษให้ผมหน่อยนะครับ
ผมแค่ ต้องการ จะอุทิศ ข้อความเหล่านี้ให้แด่คุณ พิมพ์
และถ้ามันพอจะมีประโยชน์ใดๆก็ตาม ขอให้ประโยชน์เหล่านั้นตกแด่คุณพิมพ์ --นางสาวพิรศลัย สุวรรณภักดี
bwitch แห่ง //bwitch.exteen.com/
และเพื่อน ที่ผมไม่เคยพบเจอ....

//paepae.exteen.com/20050328/entry#comment-13
โดย: จักร IP: 202.69.139.9 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:11:41:41 น.

Imaginer.BlogGang.com

ใจรัก Jairuk Channel
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]

บทความทั้งหมด