***** ทานที่ถึงพร้อมด้วย"สัมปทา ๔"ย่อมให้ผลทันตาเห็น(๑) *****
ทานที่ถึงพร้อมด้วย "สัมปทา ๔" ย่อมให้ผลทันตาเห็น (๑)

มีเรื่องเล่าว่า ชายบ้านนอกผู้หนึ่งบรรทุกฟืนใส่ในยานพาหนะ เข้าไปในเมือง เพื่อไปแลกเปลี่ยนกับอาหาร เมื่อไปถึงในเมือง ก็ไปพักอยู่กับสหายผู้หนึ่ง ในวันนั้นเป็นวันเพ็ญ ชนทั้งหลายเที่ยวตีกลองประกาศในเมืองว่า "มหาชนจงดูการบริโภคอาหารของคันธเศรษฐี"สหายจึงถามชายบ้านนอกผู้นั้นว่า ท่านเคยเห็นการบริโภคอาหารของคันธเศรษฐีหรือไม่? ชายบ้านนอกตอบว่า ไม่เคยเห็น สหายจึงชวนชายบ้านนอกให้ไปดูการบริโภคอาหารของเศรษฐี

โดยปกติในวันที่ตรงกับวันเพ็ญ ท่านคันธเศรษฐีจะสั่งจ่ายทรัพย์แสนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าอาหาร จ่ายทรัพย์แสนหนึ่งให้ทำบัลลังก์สำหรับนั่ง จ่ายทรัพย์แสนหนึ่งให้ทำถาดสำหรับใส่โภชนะ จ่ายทรัพย์แสนหนึ่งเป็นค่าตกแต่งพระนคร แล้วใช้คนเที่ยวตีกลองประกาศว่า "ขอให้มหาชนจงดูการบริโภคภัตของคันธเศรษฐี" มหาชนก็พากันมาดูการบริโภคของเศรษฐี

สหายชาวเมืองได้พาชายบ้านนอก ไปดูการบริโภคภัตของเศรษฐี เมื่อได้กลิ่นอาหาร ชาวบ้านนอกก็อยากรับประทานอาหารนั้น ถ้าไม่ได้รับประทานอาหาร ก็จะถึงแก่ความตาย สหายชาวเมืองจึงพูดกับเศรษฐี เพื่อขอแบ่งปันอาหารให้ชายบ้านนอกได้รับประทานบ้าง เศรษฐีจึงบอกว่า ถ้าอยากรับประทานอาหารของเรา ก็ต้องรับจ้างทำงานในเรือนของเรา ๓ ปี จึงจะให้อาหารแก่เขาถาดหนึ่ง

ชายบ้านนอกก็ตกลงทำตาม เมื่อชายบ้านนอกทำงานรับจ้างในบ้านเศรษฐี ได้ทำงานทุกอย่างโดยเรียบร้อย งานที่ทำในบ้าน ในป่า กลางวัน กลางคืน ปรากฏว่าเขาทำเสร็จเรียบร้อย มหาชนจึงเรียกเขาว่า "นายภัตตภติกะ" ชื่อของเขาได้เป็นที่รู้จักกันทั่วเมือง เมื่อรับจ้างครบ ๓ ปี ท่านเศรษฐีก็ให้อาหารแก่เขาตามสัญญา

พวกชาวเมืองพากันมาดูการบริโภคอาหารของนายภัตตภติกะ ในขณะที่นายภัตตภติกะกำลังล้างมือเพื่อบริโภคอาหาร พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งเพิ่งออกจากสมาบัติ เหาะมาทางอากาศมายืนอยู่ตรงหน้า นายภัตตภติกะเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วคิดว่า เราได้ทำงานรับจ้างในเรือนเศรษฐีมา ๓ ปี ก็เพื่อแก่ถาดภัตรถาดเดียว เพราะการที่เราไม่ได้ให้ทานแต่กาลก่อน บัดนี้ภัตรที่เราได้มานี้ ถ้าเราบริโภคเข้าไป ก็จะรักษาชีวิตของเราไว้ได้เพียงวันหนึ่ง คืนหนึ่งเท่านั้น

ก็เราถวายภัตรนั้นแก่พระผู้เป็นเจ้า ย่อมได้รับอานิสงส์มากมาย จึงยกเอาภัตรขึ้นเกลี่ยภัตรลงในบาตรของพระปัจเจกพุทธเจ้าจนหมด ยกมือขึ้นไหว้ แล้วเรียนว่า "ท่านขอรับ ผมอาศัยถาดภัตรถาดเดียว ต้องทำงานรับจ้างในเรือนคนอื่นถึง ๓ ปี ได้เสวยทุกข์แล้ว บัดนี้ ขอความสุขจงมีแก่กระผมในที่บังเกิดแล้วเถิด "ขอกระผมจงมีส่วนแห่งธรรม ที่ท่านเห็นแล้วเถิด"

พระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวว่า "ขอจงสมคิดเถิด เหมือนแก้วสารพัดนึก ความดำริทั้งปวง จงเต็มเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ"

ฝ่ายคันธเศรษฐี ได้ทราบว่านายภัตตภติกะถวายภัตรแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า โดยที่นายภัตตภติกะยังไม่ได้บริโภคเลย จึงเกิดความปีติยิ่งนัก ได้แบ่งทรัพย์สมบัติของตนให้แก่นายภัตตภติกะนั้นครึ่งหนึ่ง

(โปรดอ่านตอนต่อไป "สัมปทา ๔ อย่าง")

(ที่มา อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบถ เรื่องสุขสามเณร)




Create Date : 07 ธันวาคม 2550
Last Update : 7 ธันวาคม 2550 15:54:53 น.
Counter : 853 Pageviews.

2 comments
เกมเทียบกับชีวิตจริง I toor36
(30 มิ.ย. 2568 22:09:27 น.)
วิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.6) เรื่องคำสุภาพ นายแว่นขยันเที่ยว
(25 มิ.ย. 2568 00:05:44 น.)
สวนรถไฟ : นกเฉี่ยวบุ้งใหญ่ ผู้ชายในสายลมหนาว
(19 มิ.ย. 2568 13:46:10 น.)
#WatmahathatYuvarajarangsarit #พรรณีเกษกมล สมาชิกหมายเลข 4665919
(11 มิ.ย. 2568 09:27:18 น.)
  

..... เงินและอาหารเป็นเสบียงอันประเสริฐในโลกนี้ฉันใด

บุญกุศลก็เป็นเสบียงในทางปรโลกฉันนั้น

ใช้ชีวิตนี้ให้มีค่าสะสมเสบียงให้เพียงพอ

เรียกว่าสั่งสมบุญบารมี .....

หลวงปู่จันทร์ศรี .....
โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:17:32:03 น.
  
...แอบย่องๆมาตอนดึกๆค่ะ
โดย: เพราะฉันห่างไกล วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:1:50:16 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Brightside.BlogGang.com

mars11
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด