เกมพิศวง (Level 9: เขาอยากให้เธอมองเห็น)

+ + + + + + + + +

เขาอยากให้เธอมองเห็น

+ + + + + + + + + 

: GTW (รุริกะ ft. GTW)

สักกะเอนหลังพิงเก้าอี้คอมพิวเตอร์ในลักษณะตามสบาย หากสายตายังจับจ้องมองจอคอมพิวเตอร์อยู่เช่นนั้น แม้ว่าหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีดำ 

ก็แน่ล่ะ...สโรชินได้วางสายปิดไฟเข้านอนไปแล้ว เธอคงต้องการให้เขาไปพักผ่อนหลับนอนเช่นกัน แต่เขายังข่มตาไม่ลง ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นแสนวิเศษชนิดหนึ่งยังระอุคุกรุ่นอยู่ในความรู้สึก

เมื่อหญิงสาวเข้านอน เกมก็ไม่ตอบสนองอะไรอีก เหมือนว่าตัวเกมเองก็ปิดตัวเองลงชั่วคราวเช่นกัน ปุ่มคำสั่งต่างๆ หายไปเกือบหมดเหลือเฉพาะปุ่มที่จำเป็น เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความปลอดภัยของเธอมากนัก เพราะแน่ใจว่าตรวจสอบระบบความปลอดภัยให้เธอเป็นอย่างดี สุนัขพันธุ์ดุตัวใหญ่คอยตรวจสอบความปลอดภัยพร้อมจะกระโจนออกมาจากความว่างเปล่า เข้าขย้ำคอผู้บุกรุกที่มีเจตนาร้าย ใช่..ก็มันเป็นเกม เขาสามารถควบคุมหรือออกคำสั่งได้อยู่แล้ว 

ชายหนุ่มมองจอคอมพิวเตอร์ แต่ความคิดกลับล่องลอยไปกับจินตนาการ สโรชิน คุณนอนหลับหรือยังนะ จะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงคุณบ้างไหม..คุณหลับอยู่เพียงลำพังทุกคืนจะรู้สึกเหงาแค่ไหน คุณต้องรู้สึกเหงาแน่นอนไม่มากก็น้อย แต่คุณจะซ่อนความเหงานั้นเอาไว้ภายใต้สีหน้าท่าทางเข้มแข็ง วันไหนคุณฝันร้ายแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมความหวาดกลัวกลางดึกอย่างโดดเดี่ยว คุณจะทำอย่างไร ผมเป็นห่วงและอยากอยู่ใกล้ๆ เพื่อจะได้คอยปลอบใจคุณ ให้อุ่นใจและหายหวาดกลัว

บางทีคุณอาจจะหลับไปแล้ว ไม่สิ..คุณอาจจะยังไม่หลับ อย่างน้อยคุณน่าจะคิดถึงผมก่อนนอนบ้าง เพราะผมเองยังคิดถึงคุณ

ชายหนุ่มนั่งอาลัยอาวรณ์กับหน้าจอเป็นเวลานานก่อนจะลุกไปหยิบตำราทำอาหารมาพลิกๆดูทั้งที่เริ่มรู้สึกง่วง เพราะตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลก็ยังไม่ได้พักผ่อนเลย พอมาถึงห้องก็กระโจนเข้าหาคอมพิวเตอร์เป็นอันดับแรกชนิดจะเรียกว่าหายใจหายคอไม่ทันก็เป็นได้ แทบไม่ได้ตอบคำถามด้วยความเป็นห่วงของคุณป้าผู้ดูแลความทำความสะอาดห้องพักของเขาให้เป็นประจำด้วยความถูกนิสัยใจคอกัน

 เขารู้ว่าตำราทำอาหารพวกนี้ไม่ได้บอกเคล็ดลับในการทำอาหาร ก็ใครล่ะจะบอกไม้ตายของตนเองจนหมดไส้หมดพุง แต่มันก็ช่วยให้เขามีความรู้พื้นฐานของการทำอาหารมากขึ้นพอสมควร และวันนี้ ด้วยคำแนะนำช่วยเหลือของสโรชิน ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาก็พอมีแววทำอาหารอร่อยๆเป็นกับเขาเหมือนกัน

 แน่นอน..เขาเองก็จะไม่งอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือจากเธอเพียงข้างเดียว เขาต้องเตรียมความรู้ขั้นพื้นฐานในการทำอาหารเอาไว้ อย่างน้อยก็จะช่วยเบาแรงของอดีตนักเรียนเกรดสี่คหกรรมว่าไม่ต้องมาสอนการทำอาหารแบบลำบากขนาดจับมือรำ

คืนนั้นสักกะอ่านตำราทำอาหารอย่างตั้งใจจนดึกดื่นค่อนคืน โดยมีแรงบันดาลใจคือรอยยิ้มของสโรชินซึ่งนึกถึงทีไรก็ทำให้สักกะยิ้มกับตัวเองได้เสมอ

มีเสียงดังแปลก ๆ มาจากลำโพงคอมพิวเตอร์ สักกะสะดุ้งสุดตัว หันไปมองหน้าจออย่างไม่ตั้งใจ จอคอมพิวเตอร์ซึ่งเคยดำมืดตอนนี้ปรากฏตัวอักษรสีขาวเด่นชัดอ่านได้เต็มหน้าเต็มตา

“ไปนอน...เลยเวลานอนแล้ว”

ชายหนุ่มอ้าปากค้างครู่หนึ่งก่อนหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกทั้งโกรธทั้งขำ นี่มันเกมบ้าอะไรกัน นึกว่ามันหลับไปแล้ว ยังมาทะลึ่งออกคำสั่งกับเขาอีก แบบนี้มันน่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ผีสิงมากกว่าจะเป็นเกม

“นี่กล้าออกคำสั่งฉันเหรอ”

ชายหนุ่มชี้หน้าจอ พูดเสียงดังทำราวกับว่านั่นเป็นคู่อริคนหนึ่ง ก่อนจะนึกได้ว่าทำแบบนั้นมันบ้าสิ้นดี  จอกระพริบวูบวาบไปมาครู่หนึ่งแล้วปรากฏข้อความใหม่ขึ้นมา

“พรุ่งนี้ต้องออกไปหางานทำแต่เช้า”

“เออ จริง...” 

สักกะอ่านแล้วพึมพำผงกหัวเห็นด้วยอย่างลืมตัว วางหนังสือลงบนโต๊ะค่อนข้างแรง หันไปบอกกับหน้าจอเสียงห้วนๆ ว่า

“ขอบใจแกว่ะ”

ตัวอักษรหายวูบไป กลายเป็นภาพไอค่อนรูปหน้ายิ้มกลมๆหลิ่วตาข้างหนึ่งขึ้นมาครู่หนึ่งแล้วดับวูบไปทำราวกับจะล้อเลียนกึ่งรำคาญในการมาต่อล้อต่อเถียง ชายหนุ่มยืนเอามือเท้าเอว มองพลางส่ายหน้าไปมา เอาล่ะ..ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปสนใจ อย่างน้อยมันก็อุตส่าห์หาเหตุผลที่ดีให้ในการใช้สิทธิ์เข้านอน ชายหนุ่มฉวยผ้าเช็ดตัวแทบวิ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำอาบท่าด้วยความเร็วสุดชีวิต ปิดไฟ กระโดดขึ้นเตียง  ข่มตาหลับและพึมพำคำพูดสุดท้ายออกมาจากปากซึ่งมีรอยยิ้มราวคนกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอันรื่นรมย์...


สโรชิน

+ + + + + + +

คนมักจะพูดกันว่าวันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ สักกะรู้ว่ามันไม่เป็นจริงเสมอไปโดยเฉพาะการหางานทำในปี 2011 เย็นวันนั้นเขากลับมาด้วยสีหน้าแววตาบ่งบอกความผิดหวังชัดเจน แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้กับคุณป้าคนคุ้นเคยซึ่งเดินสวนทางกันบริเวณหน้าปากซอย

“เจ้าของเขาฝากทวงค่าเช่ามาด้วย”

คุณป้าบอกประโยคที่ไม่อยากได้ยินได้ฟัง ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำรับรู้ มือคลำกระเป๋าสตางค์ ยังพอมีเงินอยู่บ้างแต่ก็แบนแฟบลงไปจนทำเอาใจหาย ถ้ายังไม่มีงานทำ ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะหาเงินจากไหนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เรื่องไปปล้นชิงวิ่งราวคนอื่น เขาไม่เคยคิดจะทำ ไม่ใช่เพราะกลัวบาปกรรม แต่เป็นเพราะเขารู้ว่าไม่ควรจะทำอย่างนั้น มันขัดกับมโนธรรมและสามัญสำนึกของเขาเอง

วันนี้หางานไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ยังมีเวลา หางานไม่ได้จนแห้งตายคาห้องพักก็ให้มันรู้ไป พยายามสลัดความคิดหนักอึ้งออกจากสมอง มีเรื่องสำคัญรออยู่

สิ่งแรกที่ทำคือเปิดคอมพิวเตอร์ เขาอยากรู้ว่าสโรชินกลับมาหรือยัง ถ้ามาแล้วกำลังทำอะไรอยู่ บางทีเขาอยากแอบมองเธออย่างเงียบๆ แม้ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองคล้ายพวกโรคจิตก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดไกลจนเลยเถิดไปกว่านั้น

“ห้ามแอบมอง”

ตัวหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เต้นไหวระริกบนหน้าจอดำมืด เขาไม่สามารถล๊อกอินเข้าไปยังหน้าจอในห้องของสโรชินได้

“เอ้ย!”

หมดโปรโมชั่นเล่นฟรี? เขาต้องจ่ายเงินเพื่อเปิดรหัสส่วนตัว หรือยังไง? ไอ้เกมบ้าพวกนี้ หลอกให้เล่นฟรีจนติดแล้วค่อยบังคับเก็บเงินอย่างนั้นเหรอ 

ไอ้บ้า... อย่ามาล้อเล่นกับความรู้สึกคนนะโว้ย 

สักกะคว้าเก้าอี้หมับ แทบจะยกทุ่มหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่รักและหวงแหนนักหนา และดูท่ามันจะคำนวณไว้ล่วงหน้าเช่นกัน

“โทรไปขออนุญาตเธอก่อน โทรฟรี ไม่เสียเงิน”

“เอ๊อะ!”

สักกะเข่าอ่อน ทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิม ไอ้เกมบ้านี่ มันกลายเป็นทั้งเพื่อน ทั้งที่ปรึกษาของเขา และยังกลายเป็นผู้ปกครองของสโรชินไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำกับเขามากเกินไปนัก สักกะรีบยกหูโทรศัพท์กดเบอร์ยาวเหยียดแต่เวลานี้กลับท่องจำได้ขึ้นใจ

สโรชินรับโทรศัพท์ช้ากว่าปรกติ แต่ทันทีที่รับ ก็กลายเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน

“กลับมาถึงบ้านแล้วเหรอคะ”

เช่นเดียวกัน วันนี้เสียงเธอสดใสกว่าปรกติ วันนี้มีแต่เรื่องไม่ปรกติเกิดขึ้นกับเขาเต็มไปหมด...

“คุณรู้ได้ยังไงครับ... ว่าเป็นผม”

เสียงถอนหายใจละมุนละไมแว่วมาเหมือนลมพัด สโรชินตอบอย่างแช่มชื่น

“ถ้าเป็นคนอื่นก็แล้วไป ฉันจะรีบขอตัวและวางสาย ก่อนเขาจะถูกตัดสัญญาณโดยมือลึกลับ ที่ต้องโทรศัพท์มาเวลานี้ตลอด”

น้ำเสียงร่าเริงของเธอเหมือนน้ำใสเย็นฉ่ำ รินรดกลางใจที่แห้งผากของเขาในเวลานี้ หน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏรูปหัวใจกระดอนไปมาบนกรอบสี่เหลี่ยม สักกะกัดฟันอย่างเจ็บใจที่ถูกจอมบงการตัวร้ายมาคอยล้อเลียน

“แล้วคุณเป็นอะไรไปคะ วันนี้ทำไมฟังเสียงเครียดๆจัง”

“ผมเข้าเกมไปดูห้องคุณไม่ได้ มันบอกว่า ผมต้องโทรมาขออนุญาตคุณก่อน”

ชายหนุ่มบอกเสียงอ่อย

“โอ... ตายจริง นี่เกมเข้าข้างฉันบ้างแล้ว”

สโรชินว่าพลางหัวเราะคิก

“แล้วคุณอนุญาตมั้ยครับ”

“เยี่ยมเลย ขออีก 5 นาทีนะคะ ฉันอยากจะเตรียมอะไรบางอย่างก่อน เมื่อกี้ฉันทำมันร่วงตอนคุณโทรมา นึกว่าจะไม่ได้การเสียแล้ว”

“ครับ...”

สักกะถือหูรอโดยไม่วางสาย ยักคิ้วให้คอมพิวเตอร์อย่างกวนในอารมณ์ พูดช้าๆแบบไม่ออกเสียงกับเพื่อนตัวแสบ

‘เ ธ อ อ นุ ญ า ต แ ล้ ว โ ว้ ย’

5 นาทีตามคำขอ ห้องของสโรชินปรากฏในหน้าจอ เจ้าตัวนั่งอมยิ้มอยู่บนเก้าอี้ เธอนั่งอยู่ริมโต๊ะอ่านหนังสือ บนโต๊ะเล็กๆรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น มีไหมพรมวางเรียงกัน 7 สี

“คุณชอบสีอะไรคะ”

“หือ...?”

สักกะชักงง นอกจากเจ้าเกมกวนประสาทแล้ว เธอยังจะมาไม้ไหนกับเขาอีก

“ให้ดูบนโต๊ะค่ะ ไม่ใช่ให้ดูหน้าฉัน คุณชอบสีไหนที่วางเรียงไว้คะ”

สักกะตวัดสายตามองม้วนไหมพรมเพียงครู่เดียว สโรชินทำเครื่องหมายด้วยการปักเข็มหมุดไว้บนตัวไหมพรมในจำนวนไม่เท่ากัน ด้วยความรั้น เขาตอบไปโดยไม่มองสีที่เธอให้เลือก

“สีขาวครับ”

เขาคิดว่า มันน่าจะเข้ากับเธอที่สุด

“มีที่ไหน... ฉันไม่ได้เลือกสีขาวมาค่ะ มันเปื้อนง่าย เดี๋ยวคุณจะใช้ไม่ทน ไม่ค่ะ อย่าเพิ่งถาม ตอบมาก่อนว่าชอบสีไหน”

สักกะเบนสายตาไปมองไหมพรมในกระบะใหม่อีกครั้ง สีต่างๆที่วางเรียงกันถอดแบบมาจากสีรุ้ง ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง และเธอไม่อยากให้เขาเลือกสีที่เปื้อนง่าย...

“งั้น ผมเลือกสีน้ำเงินครับ”

“โอเคค่ะ”

สโรชินยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ทีนี้ คุณบอกให้เกมซูมมาที่มือฉันได้ไหมคะ”

สโรชินวางข้อศอกตั้งฉากกับโต๊ะหนังสือ ชูมือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ขึ้นบังใบหน้าของตัวเองไว้ สักกะซูมไปที่มือเล็กๆนั้นตามอย่างว่าง่าย

“มา... เทียบมือกัน มือของคุณ ใหญ่กว่าของฉันเท่าไหร่คะ”

เล่นอะไรของเธอ สักกะยิ้มพลางส่ายหน้า

“สักสองเท่าของมือคุณได้มังครับ”

“อะไร คุณเป็นยักษ์หรือเปล่าคะ ฉันหมายถึงความยาวของนิ้วนะ เอาแค่นิ้วก้อยของคุณก็ได้ ยาวกว่าฉันสักกี่เซ็นต์คะ”

“อ้อ...สัก 1.5 เซ็นต์ได้ครับ”

“โอ้โห... ขนาดนั้นเลย”

“ก็มือคุณเล็กนี่ครับ นี่คุณ เอามือลงเสียที ผมอยากเห็นหน้าคุณมาตั้งแต่เช้า กว่าจะฝ่าตั้งไม่รู้กี่ด่านมาเจอคุณได้ ก็มาชวนเล่นอะไรแผลงๆ ตกลงบอกผมได้หรือยัง ว่าคุณจะทำอะไร”

สโรชินลดมือลง ใบหน้านั้นผุดรอยยิ้มของหญิงสาวที่ดูแจ่มใสและเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“กะแล้วเชียว ว่าคุณไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้... ฉันอยากจะทำถุงมือให้คุณสักคู่นึงน่ะค่ะ ไว้เป็นถุงมืออุ่นๆตอนหน้าหนาว หรือไม่ก็เป็นฉนวนกันไฟเวลาคุณทำกับข้าวก็ได้ ฉันอยากทำให้ เป็นการขอบคุณคุณ”

“ขอบคุณผม? เรื่องอะไรครับ?”

“ที่คุณคอยมาอยู่คุยเป็นเพื่อนฉัน ที่คุณ...ไม่รังเกียจฉัน…”

“ผมจะรังเกียจคุณได้ยังไง โธ่...คุยกันมาตั้งนาน คุณไม่รู้เหรอครับ ว่าผม...เอ่อ...ผม...”

สักกะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ ว่านั่นมันคือความรู้สึก รัก ชอบ หรือหลงกันแน่ และถ้ามันใช่รัก น้ำหน้าอย่างเขา จะดูแลเธอได้สักเท่าไหร่ในโลกของความเป็นจริง

ขณะกำลังรู้สึกสับสนระคนผิดหวังในตัวเอง ใบหน้าของสโรชินยังประดับด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจที่เขาโหยหาอยู่เสมอ

“ไม่ต้องหาคำตอบก็ได้ค่ะ ว่าคุณรู้สึกยังไง… แค่คุณเอาใจใส่ และเป็นห่วงตลอดมา มันก็ดีนักหนา สำหรับคนตาบอดอย่างฉัน ถ้าวันนึง ฉันมีโอกาสทำได้ ไม่ว่าคุณหรือฉัน จะเปลี่ยนรูปแบบในการใช้ชีวิตเป็นแบบไหน ฉันจะเก็บความรู้สึกดีๆในวันนี้ไว้ แล้วเอาถุงมือนี้ไปมอบให้คุณ ถึงวันนั้น คุณจะรับมันมั้ยคะ”

คราวนี้สักกะยิ้มอย่างตื้นตันในใจ

“ครับ รับสิครับ”

“ถ้าอย่างนั้น ไปทำกับข้าวกันก่อน ถุงมือเอาไว้ฉันถักรอตอนคุณไปหางานก็ได้ วันนี้เมนูอะไรคะ ที่เมื่อวานคุณบอกว่าจะเตรียมมาเซอร์ไพรส์” 

“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ วันนี้คุณไม่ต้องกำกับล่ะ ถักถุงมือรอผมก็ได้ครับ แลกกัน”

“ฮือ...”

สโรชินรับคำพลางยิ้มพลาง ปล่อยให้เขาบรรเลงฝีมือตามใจนึก หลังชิมอาหารแล้วยังชวนคุยเรื่องเดิมต่อ

“เป็นยังไงบ้างคะ มีงานที่ไหนตอบรับหรือยัง”

“ยังเลยครับ ตำแหน่งงานที่ผมถนัด มีแต่คนแย่งกันลงเต็มไปหมด”

“ไม่ไปสมัครเป็นลูกมือของพ่อครัวในภัตตาคารไหนซักที่ล่ะคะ คุณหัวไวในการทำอาหารออก อาหารที่คุณทำช่วงหลังๆ ก็อร่อยขึ้นตั้งเยอะ”

“นี่คุณ... ล้อเล่นหรือเปล่าครับ อาชีพนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของผมมาก่อนเลย”

สักกะถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“คุณไม่รู้อะไร... อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่คนขาดไม่ได้นะคะ จะกี่ยุคกี่สมัย พ่อครัวก็ยังเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจที่สุด แต่ก็ถูกลืมง่ายที่สุดเหมือนกัน”

“อือ... นั่นสิครับ”

“ซ้อมมือกับฉันก็ได้ ฉันจะยอมเป็นหนูลองยา ทานฝีมือคุณจนกว่าจะลำไส้ทะลุ หรือท้องเสียเข้าโรงพยาบาลเพราะอาหารของคุณเป็นพิษ ฉันก็จะไม่โกรธคุณเลย”

“โอย... รับปากซะน่ากลัวขนาดนั้น ผมไม่กล้าให้คุณทำแบบนั้นหรอกครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นสัญญาอีกแบบก็ว่าไปอย่าง”

“อะไรคะ”

“วันไหน ผมแก้เกมปริศนาตัวแสบนี่ได้ ผมจะเชิญคุณมาทานอาหารที่ครัวของผม คุณมาได้ทุกวัน เรียกหาได้ทุกเมนู หรือจะอยู่กับผมตลอดชีวิต ผมก็ยอมให้ คุณจะมาไหมครับ”

พูดไปแล้วเหมือนการประกาศศักดาของคนบ้า ถ้าคำตอบของปลายสายเป็นเสียงหัวเราะเย้ยหยัน เขาคงสบายใจกว่า แต่นั่น สโรชินกลับนิ่งเงียบ เหมือนเผชิญหน้ากับปัญหาอันหนักหน่วง

“ไม่ค่ะ ตราบใดที่ตาของฉันยังไม่หาย ฉันคงไม่กล้าไปเผชิญหน้าคุณ...” 

น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา ดูจะยากเย็นเช่นเดียวกับสีหน้า บอกขนาดนี้ นี่เธอไม่รู้อีกเหรอว่าเขาอยากเจอเธอมากขนาดไหน

“คุณอยากจะหายตาบอดเสียก่อน ถึงจะกล้ามาเจอหน้าผม?”

“ค่ะ ถ้าไม่มีวันนั้น เราอย่าเจอกันเสียเลยดีกว่า ฉันไม่อยากจะไปปรากฏตัวให้เป็นภาระของคุณ”

ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นเหตุผลที่มาจากใจ น้ำเสียงนั้นเครือสั่น และนั่นทำให้เขาแทบใจสลาย สักกะบอกกับตนเองว่าถ้ามีโอกาสทำอะไรเพื่อเธอได้ เขาพร้อมที่จะทำทันที ไม่รีรออีกแล้ว

ราวกับจะรู้ใจ หน้าจอดับวูบลงข้อความสีขาวปรากฏขึ้นหน้าจอ

‘คุณสามารถแบ่งปันการมองเห็นให้เธอได้ 20 % แต่การมองเห็นของตัวคุณเองต้องลดลงตามอัตราส่วนนั้นด้วย’

ข้อความยังปรากฏขึ้นมาอีกราวกับรอให้ตัดสินใจ

กด 1 เพื่อยอมรับเงื่อนไข

กด 2 เพื่อปฏิเสธเงื่อนไข

ชายหนุ่มนั่งงงอยู่เพียงครู่เดียว แล้วยิ้มดุๆให้กับข้อความนั้น ไอ้บ้า..ฉันรอแกอยู่แล้ว เพิ่งจะโผล่หน้ามานี่เอง คิดพลางเอื้อมมือออกไปโดยไม่มีการลังเลใจแม้แต่น้อย

กด 1 อย่างยินยอมพร้อมใจเต็มใจที่สุด

ทันใดนั้น เสียงดังเปรี๊ยะแล่นเข้ามาในหู แสงสว่างวาบเข้าตาชั่ววินาทีหนึ่ง เหมือนถูกยิงด้วยเข็มแหลมๆขนาดเล็กที่บางกว่าเส้นผมสักพันเท่า แต่นั่นก็ทำให้เขาแสบตาจนร้องโอ๊ย

“สักกะ...คุณเป็นอะไรคะ”

สักกะไม่สามารถตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นปรกติได้ เขายังสามารถลืมตาขึ้นมาใหม่ แม้ภาพข้างหน้าจะพร่ามัวลงไปบ้าง 

ก็ยังมองเห็นชัดสัก 80% ล่ะนะ

เขาเอามือบังโทรศัพท์ไว้แล้วพูดกับเกมไม่ให้เธอได้ยิน

“รุนแรงกับผมได้ แต่อย่าทำอย่างนี้กับเธอ”



“ได้ ให้เธอไปนอน พรุ่งนี้สายตาเธอจะดีขึ้น”



ไม่มีคำปลอบโยนในคำตอบนั้น แต่จังหวะการเคลื่อนไหวของตัวอักษร ดูเหมือนมันจะเห็นใจเขามากขึ้น

“สักกะ... คุณยังอยู่มั้ยคะ”

สโรชินถามอย่างกังวลมาตามสาย

“ครับ ยังอยู่ ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อย ขอตัวก่อนได้มั้ยครับ”

“ค่ะ... แน่ใจนะคะ ว่าคุณไม่เป็นอะไร”

“ครับ อ้อ... คุณก็ ไปนอนนะครับ”

“ค่ะ...”

สโรชินรับคำด้วยน้ำเสียงแปลกใจ อย่าทำหน้ากังวลอย่างนั้น ที่รัก ผมยังอยากเห็นคุณยิ้ม สักกะได้แต่บอกในใจโดยไม่กล้าพูดออกมา...

บางครั้ง คำพูดมากมายไม่อาจเปิดเผย
แต่การกระทำสำคัญกว่ากันมากนัก
การเลือกของสักกะ ทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังเกม
สะเทือนใจไปมากกว่าครึ่ง!




lozocat
lozocatlozocat
Vote เลยดีกว่า :)
lozocatlozocat




 

Create Date : 31 มกราคม 2554
3 comments
Last Update : 31 มกราคม 2554 22:17:00 น.
Counter : 784 Pageviews.

 


อยู่ในนี้ ดูสวย น่าอ่าน กว่าในถนน
^__^.....

 

โดย: GTW IP: 192.168.107.40, 192.168.200.1, 125.25.85.171 1 กุมภาพันธ์ 2554 7:36:01 น.  

 

โอย...แพ้สีชมพู้ ชมพู
แวะมาทักทายบ้างครับ
และขออนุญาต add คุณ รุริกะ ด้วย นะครับ(แลกกัน)

 

โดย: zoi 1 กุมภาพันธ์ 2554 8:25:42 น.  

 

เยๆ
ขอบคุณคุณโส่ยค่ะ =^_____^=

 

โดย: รุริกะ 3 กุมภาพันธ์ 2554 0:16:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.