+ + + + + + + + + บนถนนสายเดียวกัน + + + + + + + + + : รุริกะ (รุริกะ ft. GTW)
เสียงเบรกของรถยนต์พร้อมกับการชนโครมเสียงดังลั่น จากนั้นจึงตามมาด้วยเสียงร้องของผู้คนรอบข้างและเสียงบีบแตรดังสนั่นหวั่นไหว สโรชินหยุดยืนฟังเหตุการณ์โดยรอบแต่ก็ถูกเพื่อนสาวดึงตัวออกมาให้พ้นจากจุดเกิดเหตุ เกิดอะไรขึ้นน่ะแจ๋น รถชนน่ะ เหมือนจะมีคนวิ่งข้ามถนนตอนไฟเขียวนะ ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน เรารีบไปกันเถอะบัว เดี๋ยวไทยมุงเยอะกว่านี้คนจะมาเบียดเยอะ เดินลำบาก แจ๋นว่าพลางรั้งตัวเพื่อนสาวให้เดินหลีกออกมา สโรชินขยับตัวเพียงเล็กน้อย แต่อีกมือหนึ่งก็ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ กดหมายเลข 1669 แล้วโทรออก โทรแจ้งอุบัติเหตุบนถนน.......ค่ะ แจ๋นฟังแล้วต้องพลอยหยุดเดินและรอจนสโรชินบอกรายละเอียดต่างๆเสร็จเรียบร้อย ปลายสายกำลังปล่อยรถพยาบาลออกมา สโรชินหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋า แล้วค่อยกอดแขนเพื่อนสาวแน่นขึ้น ไปกันเถอะ แล้วเมื่อกี้บัวทำอะไร ก็แจ้งศูนย์นเรนทรให้มารับคนเจ็บไง เราคนตาบอด ถึงยังไงก็คงเข้าไปช่วยเค้าไม่ได้ แต่ถ้าเขาเป็นญาติ หรือเป็นคนรู้จักเรา แล้วเราไม่ได้ช่วย มารู้ทีหลังคงเสียใจแย่ เพื่อนสาวที่เดินมาด้วยกันอึ้งกิมกี่ ก้าวขาไม่ออกไปครู่หนึ่ง แจ๋นโกรธเหรอ ขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลา ไปต่อสิ เราหิวแล้ว ท่ามกลางกระแสความคิดของผู้คนมากมาย สโรชินจับไม่ได้ ว่าสีหน้าของเพื่อนสาวในเวลานี้ คือความชื่นชมปะปนด้วยความสงสารและเสียดาย ภายใต้สายตาที่มืดมน จิตใจของสโรชินกลับสว่างสดใสยิ่งกว่าคนตาดีอีกมากมายหลายคนนัก
ถ้าไม่ตาบอดอย่างนี้ เธอคงมีโอกาสดีๆกว่านี้อีกหลายเท่า แต่ความรู้สึกเหล่านี้กลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ขืนพูดออกไปมีหวังต้องโดนเพื่อนรักค่อนขอดว่าไม่ให้คิดอย่างนั้น คนตาบอดหรือคนตาดีก็เป็นพลเมืองดีได้เหมือนกัน คิดได้ดังนั้นแจ๋นจึงเลื่อนมือไปโอบรอบเอวของสโรชินเอาไว้ จากนั้นคลายอ้อมกอดแล้วดึงมือของเพื่อนสาวมาจับข้อศอกและพาเดินต่อ แต่ก็ไม่วายตำหนิเบาๆ ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอยู่เรื่อย ยัยบ๊อง สโรชินเดินห่างออกจากที่เกิดเหตุมาอีกไกล ค่อยรู้สึกถึงความกระสับกระส่ายอย่างไม่รู้ต้นเหตุ เหมือนได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอแว่วมาจากไหน สโรชิน...สโรชิน เสียงนั้นแว่วเลือนแล้วจางหาย หญิงสาวจำเสียงนั้นได้ สักกะ... รู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สโรชินเฝ้าเงี่ยหูฟังเสียงนั้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีทางรู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแสนนานกว่าจะได้ยินเสียงนั้นอีก - - - - - - - 1 สัปดาห์ผ่านไป... ............. สโรชินถอนหายใจแรง วางมือจากงานที่รับกลับมาทำที่ห้อง เธอไม่อยากออกไปไหน เพราะถ้าเขาโทรมาในเวลาที่เธอไม่อยู่ ก็อาจจะคลาดกันอย่างน่าเสียดาย และที่สำคัญ เธอไม่มีหนทางอื่นใดที่จะติดต่อเขาได้ นอกจากรอให้เขาติดต่อมาเท่านั้น งานที่หญิงสาวรับมาทำที่ห้อง เป็นงานถอดเทปการบรรยายต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อมีวิทยากรจากภายนอก เข้ามาบรรยายในสมาคมคนตาบอด หรือตัวแทนจากสมาคมคนตาบอดเอง ออกไปบรรยายในงานพิธีต่างๆ ค่าแรงที่ได้รับไม่มากมายนัก แต่อย่างน้อย ก็ช่วยให้เธอออกไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกได้อย่างไม่ขัดเขิน บางครั้งแลกมาด้วยหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสนามบินสุวรรณภูมิที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน รวมไปถึงข่าวสารข้อมูลการเริ่มก่อตั้งโครงการ Airport link ที่เธอเคยได้ยินจากการพูดคุยโทรศัพท์กับชายหนุ่มแปลกหน้า
สโรชินขอให้เพื่อนรักช่วยอ่านหัวข้อข่าวและเลือกฟังเฉพาะประเด็นที่สนใจ Airport link เป็นชื่อเรียกง่ายๆของรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเริ่มสร้างมาได้พักใหญ่ นายกรัฐมนตรีประกาศอย่างแข็งขัน ว่าคนไทยจะได้เริ่มใช้ Airport link ในปี 2008 แจ๋นซึ่งพยายามใช้ตาข้างเดียวอ่านออกเสียงให้บัวฟังอย่างตื่นเต้น ยังบอกอย่างร่าเริงว่าไม่เกินสองปีข้างหน้า จะหอบหิ้วกันขึ้นรถไฟฟ้า ไปเที่ยวสนามบินใหม่กันไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ไม่แน่หรอก... ว่าจะได้นั่งรถไฟฟ้าเล่นกันตอนไหน
ก็เสียงจากปลายสายเคยบอกไว้ ว่าล่วงเลยไปถึงปี 2010 โน่นเชียว รถไฟฟ้าถึงจะเปิดทำการได้ อะไรทำให้โครงการหยุดชะงัก เกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้นกันแน่นะ หวังว่านี่จะไม่ใช่วาไรตี้แกล้งคนตาบอด สโรชินยังมีคำถามอีกมากมายอยากถามเขา หญิงสาวใช้หูฟังเล็กๆเชื่อมกับเครื่องเล่นสำหรับถอดเทป และพิมพ์สิ่งที่ได้ยินผ่านแป้นคีย์บอร์ด คอมพิวเตอร์สำหรับคนตาบอดไม่ได้ต่างจากคอมพิวเตอร์ของคนทั่วไป เพียงแต่มีโปรแกรมอ่านจอภาพที่คอยออกเสียงให้ฟังว่าสิ่งที่พิมพ์ลงไปนั้นอ่านว่าอะไรบ้าง สโรชินเปิดระดับเสียงคำบรรยายแค่เบาๆ แม้แต่โปรแกรมก็เซ็ตไว้ให้อ่านเมื่อเธอต้องการให้ทบทวนทั้งประโยคเท่านั้น ใจหนึ่งพยายามมีสมาธิกับงานที่ทำ แต่อีกใจหนึ่งก็พะวงหาเสียงเรียกจากโทรศัพท์ที่ขาดหาย โทรมาอีกสักครั้งเถอะนะ ให้ได้ยินเสียงก็ยังดี... ใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินเสียงวิงวอนของตัวเอง ไม่ใช่แค่สงสัยในเกม เธอกำลังคิดถึงแต่เขาอยู่จริงๆนั่นแหละ!
|
1. "เครื่องเล่นสำหรับถอดเทป" อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีจริงๆ หรือเปล่านะครับ แต่ถ้าเป็นการถอดเทปสำหรับคนตาบอดแล้ว และที่จริงก็คงสำหรับคนปกติทั่วๆ ไปด้วยแหละ หากเรามีไฟล์เสียงที่จะนำมาถอดอยู่ในรูปของ digital (.mp3 .wav ***) แล้ว เราจะใช้โปรแกรมตัวนึง ที่สามารถ control การเล่นไฟล์เสียงได้ ในหน้าต่างของการพิมพ์ ด้วยโปรแกรม word editer ต่างๆ อธิบายคงยาว เอาลิ้งโปรแกรมมาให้เข้าไปอ่านรายละเอียดเลยละกัน
Express Scribe //www.nch.com.au/scribe/index.html
2. "เพียงแต่มีโปรแกรมอ่านจอภาพที่คอยออกเสียงให้ฟังว่าสิ่งที่พิมพ์ลงไปนั้นอ่านว่าอะไรบ้าง" ความจริงโปรแกรมมันทำงานได้มากกว่าแค่อ่านสิ่งที่พิมพ์นะครับ แต่ถ้าจะบอกแค่นี้เพื่อความกระชับ ก็ไม่ผิดนัก
3. "แม้แต่โปรแกรมก็เซ็ตไว้ให้อ่านเมื่อเธอต้องการให้ทบทวนทั้งประโยคเท่านั้น" ตรงส่วนนี้ เท่าที่ใช้งานโปรแกรมอ่านหน้าจอด้วยตนเองมาหลายปี ไม่พบว่าสามารถตั้งค่าดังกล่าวได้นะครับ โปรแกรมมีการตั้งค่าในส่วนของการอ่าน เวลาพิมพ์แค่ 4 แบบ คือ
1 - non ไม่อ่านอะไรเวลาพิมพ์เลย
2 - characters อ่านเฉพาะตัวอักษรแต่ละตัวที่พิมพ์ลงไป
3 - word คืออ่านเฉพาะเมื่อพิมพ์ครบแต่ละคำแล้ว (อันนี้อาจจะใช้ได้ดีเฉพาะกับภาษาอังกฤษ)
4 - both characters & word คืออ่านตัวอักษรที่พิมพ์ลงไป และทวนให้เป็นคำอีกเมื่อพิมพ์ครบหนึ่งคำแล้ว เงื่อนไขก็คล้ายๆ กับอันที่ 3
ปกติการทบทวนสิ่งที่พิมพ์ไปแล้ว นั้นก็คือการเลื่อนไปอ่านในส่วนต่างๆ ที่ต้องการ เท่าที่ทราบไม่มีการกำหนดให้โปรแกรมทำงานโดยอัตโนมัตนะครับ :D