เกมพิศวง (Level 7: ช่วงเวลาบาดเจ็บ)

+ + + + + + + + +

ช่วงเวลาบาดเจ็บ

+ + + + + + + + + 

: GTW (รุริกะ ft. GTW)

ายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกปวดหนึบอยู่ในหัว หลังจากอยู่กับความมึนงงพักหนึ่งก็เริ่มจดจำอะไรได้บ้าง เขาถูกรถชน เพราะพยายามวิ่งตามสโรชิน มันน่าจะเป็นความฝันเท่านั้นเพราะเขาเคยฝันแบบนี้มาก่อน ทำไมจะฝันอีกไม่ได้

ในห้องมืดสนิท เขาคิดว่าไม่ได้เปิดไฟ  ขยับตัวพยายามจะลุกนั่งตามความเคยชินแต่แล้วก็รู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงจนลุกไม่ขึ้น 

ต่อมาสักกะเริ่มรู้ตัวว่าเขาไม่ได้ลืมตา มิน่าล่ะ...ห้องถึงได้มืดอย่างนี้ ชายหนุ่มลองกระพริบตาแต่ทำไม่ได้ แล้วเริ่มรู้สึกว่าตาถูกผ้าคาดพันเอาไว้อย่างแนบแน่น พยายามยกมือขึ้นแกะผ้าออกตามสัญชาตญาณ แต่แล้วก็รู้สึกว่าถูกมือของใครบางคนรั้งเอาไว้ ได้ยินเสียงอุทานอย่างดีใจ

"คุณรู้สึกตัวแล้วเหรอคะ"

"ผมอยู่ที่ไหน" 

สักกะเอ่ยถามอย่างงุนงง ยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก

"คุณอยู่ในโรงพยาบาลค่ะ คุณถูกรถชน จำได้มั้ยคะ"

สักกะใจหายวาบ พยายามทบทวนความทรงจำอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ใช่ความฝันหรอกหรือ

"จำได้... แต่ผมไม่ได้เป็นอะไร เอาผ้ามาปิดตาผมไว้ทำไม"

สักกะพยายามดึงผ้าปิดตาออก

"อย่าแตะต้องกับผ้าปิดตานะคะ แผลคุณติดเชื้อ มือคุณสกปรก จากที่ตาเกือบบอด คุณอาจจะตาบอดไปเลยทั้งสองข้าง"

"เอ่อ..."

สักกะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดนั้น อะไรกัน...โดนรถชนแต่กลับมามีปัญหาในการมองเห็น ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกันสักนิด ไม่ใช่โดนรถชนแล้วล้มลงไปโดนไม้ทิ่มตาสักหน่อย จะได้มองไม่เห็นแบบนี้  แต่เขาก็ไม่อยากเสี่ยงกับอาการตาบอดถาวร เธอคนนี้คงเป็นนางพยาบาลและเธอเองคงไม่ได้ล้อเล่น

สักกะยังไม่เข้าใจว่าอาการตัวเองเป็นอย่างไร หนักหนาสาหัสมากน้อยแค่ไหน แขนขาอยู่ครบหรือไม่ จะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน แต่คำถามที่หลุดปากออกไป กลับไม่เกี่ยวกับตัวเองสักนิด

"คุณเห็นสโรชินของผมไหม"

คู่สนทนาอึ้งไป เขาเองก็อึ้ง นี่เราถามคำถามบ้าบออะไรนี่...

"คุณนอนพักต่อเถอะค่ะ..." 


นางพยาบาลพูดตัดบทโดยไม่ยอมตอบคำถาม ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที อะไรกัน... แค่คำถามเล็กน้อยก็ตอบไม่ได้ ก็แค่ตอบมาว่าเห็นหรือไม่เห็นก็เท่านั้น สักกะพยายามนึกถึงเสียงสโรชินตอนคุยกันทางโทรศัพท์ แอบหวังลมๆแล้งๆ ว่านางพยาบาลคนนี้อาจเป็นสโรชินของเขา มองไม่เห็นฟังเสียงเอาก็ได้ แต่ก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่า เสียงนางพยาบาลคนนี้กับเสียงของสโรชินเหมือนกันหรือไม่ แค่การพูดคุยผ่านโทรศัพท์คงจะบอกหรือระบุอะไรไม่ได้มากมาย

“หมออยู่ไหน..ผมอยากคุยกับหมอ”

เขาเปลี่ยนเรื่องถาม พยายามยันตัวลุกขึ้นแม้รู้ว่าทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่มือนุ่มๆก็กดบ่าของเขาให้นอนลงไปอีกครั้ง

“ใจเย็นๆนะคะ คุณยังไม่หายเป็นปกติ ลุกขึ้นมาตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีสำหรับตัวคุณเลย อยู่นิ่งๆนะคะ เดี๋ยวฉันจะฉีดยาให้ คุณจะได้พักผ่อนมากๆ”

“นี่ผมเพิ่งตื่นขึ้นมานะคุณ” 

สักกะโวยวายอย่างไม่พอใจและผิดหวังกับอะไรหลายๆ อย่าง แต่เธอไม่ยอมฟังคำอุทธรณ์ใดๆ ความคิดของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด หลังถูกฉีดยาก็หลับลึกลงไปอีก

+ + + + +

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผ้ายังคงปิดคาดตาของเขาอยู่เหมือนเดิม ส่วนจะเป็นผ้าผืนเก่าผืนใหม่เขาไม่สนใจ รู้แต่ว่าคราวนี้มันคาดอยู่ในลักษณะแนบแน่นยิ่งกว่าเดิม เหมือนจงใจให้แกะยากลำบากมากขึ้น เขายกมือขึ้นแตะผ้าปิดตาอย่างไม่ตั้งใจ

“ลืมที่บอกไว้แล้วหรือคะ ว่าอย่าเพิ่งแกะผ้าปิดตา”

น้ำเสียงค่อนข้างคุ้นเคยดังขึ้นใกล้ๆ  เขาสะดุ้งแล้วหันหน้าไปทางเสียงนั้น รู้สึกว่าพยาบาลสาวคนนี้คงต้องเฝ้าดูแลเขาแทบตลอดเวลา ตื่นขึ้นมาครั้งใดถึงรู้สึกว่าเธออยู่ข้างๆเสมอ

สักกะนิ่งเงียบไปพักหนึ่งอย่างคนพยายามทำใจ แล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงห้วนๆว่า

“แล้วนี่ผมจะต้องมานอนฟังคำสั่งโน่นนี่ของคุณอีกสักกี่วันกัน แล้วเมื่อไรตาของผมจะหายดี พวกหมอพวกพยาบาลเก่งๆ หายไปไหนหมด”

“พวกเราก็พยายามกันอยู่แล้วนะคะ”

“ผมไม่เห็นพวกคุณทำอะไรเลย” เขาต่อว่าเมื่อไม่ได้รับคำตอบเป็นที่พอใจ

 “ใจเย็นๆสิคะ เดี๋ยวก็หายแล้ว เอาล่ะ ได้เวลากินยาแล้ว”

เสียงแก้วน้ำกระทบถาดรองแก้วดังอยู่ใกล้ๆพร้อมกับเสียงเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ตัว สักกะรู้สึกว่าถูกประคองให้ลุกขึ้นนั่ง

“อ้าปากสิคะ...จะได้ทานยา”

“ทำไมผมต้องเชื่อฟังคุณด้วย” เขายังทำอิดออดทั้งที่รู้ว่าไร้ผล 

“คุณเป็นคนไข้ ส่วนฉันก็เป็นพยาบาลนี่คะถ้าอยากหายกลับบ้านเร็ว ๆ ก็ต้องกินยาจริงไหมคะ”

แบบนี้ใครจะกล้าขัด สักกะถอนใจ ยอมอ้าปากรับยาแต่โดยดี

“ดีมากค่ะ ทีนี้นอนลง จะเช็ดตัวให้นะคะ” 

น้ำเสียงมีแววค่อนข้างพอใจกับการยินยอมแต่โดยดีของคนไข้หนุ่ม

เขายังแอบหวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นสโรชิน ทั้งที่ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย

เวลาผ่านไปน่าจะหลายวัน สักกะเริ่มแข็งแรงมากขึ้น เขาไม่ได้ยุ่งกับผ้าปิดตาอันน่ารำคาญนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้โง่มากพอจะทำลายโอกาสในการมองเห็นของตนเอง หมอมาตรวจดูอาการของเขาหลายครั้ง บางครั้งก็พาเขาไปตรวจด้วยเครื่องมือทางการแพทย์อะไรสักอย่างที่ไม่รู้จักและทุกครั้งก็จะให้ความหวังกับเขาเสมอ เขาเองก็พยายามทำใจเชื่อคำพูดของหมอและได้รับการดูแลจากพยาบาลสาวคนนั้นเป็นอย่างดี

วันนี้เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกแปลกๆ เนื่องจากในห้องดูสงบเงียบ เกือบเผลอใช้มือดึงผ้าปิดตาออกแล้ว แต่พอนึกถึงคำพูดของนางพยาบาลสาว ก็ต้องสะกดใจไว้อย่างลำบากยากเย็น วันนี้ท่าทางเธอไม่อยู่ 

ลองขยับตัวลุกจากเตียง อาการเจ็บบริเวณชายโครงลดลงไปมากแล้ว จะเหลือก็ปัญหาการมองเห็นเท่านั้น เขานึกถึงสโรชิน เธอยังเดินไปไหนมาไหนได้ทั่วห้อง เขาเองก็น่าจะลองเดินดูบ้าง ในห้องแคบๆแบบนี้คงไม่ยากเย็นอะไร เขารู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

ขณะขยับตัวออกจากเตียง มือปัดไปโดนแก้วน้ำหล่นลงจากโต๊ะบริเวณหัวเตียง เขาใจหายวาบ เมื่อนึกถึงภาพเศษแก้วแหลมคมกระจายเต็มพื้น แต่พอฟังเสียงแล้วค่อยใจชื้นขึ้นมา นั่นเป็นเสียงแก้วซึ่งทำมาจากอะลูมิเนียมหรืออาจจะเป็นสแตนเลส จึงมีแต่เสียงกังวานของโลหะกระทบพื้น เขาค่อยๆ ก้มตัวลง มือควานหาแก้วน้ำอย่างระมัดระวังเพราะยังไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ในความมืด รู้สึกว่าอะไรๆ มันยุ่งยากลำบากไปหมด

ขณะกำลังยื่นมือควานไปมาตามพื้น ศีรษะของเขาก็โขกเข้ากับขอบโต๊ะหัวเตียงอย่างจัง เจ็บเหมือนถูกทุบด้วยค้อน เขารู้ว่ามันเป็นโต๊ะเพราะรู้สึกได้จากน้ำหนักและแรงกระแทกเคราะห์ดีว่าโดนบริเวณหน้าผาก ถ้าโดนตรงนัยน์ตาคงหนักมากกว่านี้

“บ้าเอ๊ย.....!”

เขานั่งคุกเข่า มือกุมหน้าผาก สบถออกมาอย่างฉุนเฉียว ทำไมต้องมาวางโต๊ะไว้ตรงนี้ด้วย รู้ทั้งรู้ว่าเขามองไม่เห็น ที่อื่นมีถม ทำไมไม่ไปวาง ! แล้วแก้วน้ำเจ้าปัญหานั้นกลิ้งไปทางไหนแล้ว 

ยื่นมือออกไปข้างหน้า นึกถึงแมลงซึ่งนำทางไปด้วยหนวดของมัน แบบนี้ปลอดภัยแน่นอน มีอะไรขวางอยู่ข้างหน้าต้องโดนมือก่อน คำนวณทิศทางของห้องน้ำอย่างคร่าว ๆ เตียงอยู่ทางนั้น ห้องน้ำต้องอยู่ด้านนี้

แต่เขาลืมนึกถึงพื้น

เท้าเหยียบอะไรบางอย่างแข็งๆกลิ้งได้ มันทำให้เขาเสียหลัก ผวาหน้าคว่ำลงไปกับพื้นทันที มือไขว่คว้าหาที่จับยึดตามสัญชาตญาณ แต่ไปคว้าเอาขอบโต๊ะหัวเตียงลากล้มโครมครามตามแรงเหนี่ยวระเนระนาดกระจัดกระจาย ชายหนุ่มนอนสิ้นสภาพอยู่บนพื้นอย่างมึนงงปลงตกกับชีวิต คราวนี้ไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้ว

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

เสียงนางพยาบาลสาวแว่วเข้ามาในโสตประสาทอันอึงอล เป็นครั้งแรกที่เขายอมรับว่ารู้สึกดีใจเมื่อได้ยินเสียงของเธอ แม้ว่าจะกระดากอายกับอาการ “สิ้นสภาพ” ของตนเองก็ตาม

“ผมไม่เป็นไร”

เขาพยายามลุกขึ้นแม้จะมีอาการหัวทิ่มหัวตำอยู่บ้างก็ตาม แต่ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้เห็น โดยเฉพาะกับนางพยาบาลคนนี้

“แล้วคุณลงไปคลุกอยู่บนพื้นทำไมคะ”

“คุณมาช้าไป ผมก็แค่อยากเข้าห้องน้ำ ทำไมคุณไม่มาให้เร็วกว่านี้” เขาออกอาการพาล

จมูกได้กลิ่นน้ำหอมจางๆลอยมาในอากาศ คงเป็นน้ำหอมที่เธอใช้เป็นประจำจนเขาเริ่มจดจำกลิ่นของมันได้

“นี่คุณ...”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปสักกะก็เริ่มพูดขึ้นก่อน

“เมื่อไรผมจะหายเป็นปกติเสียที รู้ไหมว่าสภาพคนตาบอดมันทรมานขนาดไหน ไม่...คุณไม่รู้หรอก เพราะคุณไม่เคยตาบอดนี่นา”

“ใจเย็นๆสิคะ...และที่สำคัญ ฉันเข้าใจคุณ อีกไม่กี่วัน คุณก็จะได้ฟังข่าวดีแล้วค่ะ”

สักกะรอฟังข่าวดี ที่ว่าอยู่อีกหลายวัน สักกะพยายามทำตัวเองให้เคยชินกับการใช้ชีวิตอยู่ในโลกมืด และนึกถึงหญิงสาวในเกมพิศวง พลางนึกแปลกใจว่าสโรชินคนนั้นทำได้อย่างไรกัน ถึงสามารถเดินไปไหนมาไหน ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ราวกับเป็นคนสายตาปกติ ทำให้เขารู้สึกนับถือชื่นชมเธอมากขึ้น  

เมื่อเขาทำอะไรไม่ได้ดังใจก็มักจะพาลมาลงที่นางพยาบาลสาวผู้นั้นเสมอ มันเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ว่าทำไม หรือว่าเป็นเพราะนิสัยวู่วาม นิสัยเสีย ของเขาเอง หรือเป็นเพราะสภาพเก็บกดทางอารมณ์กันแน่ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

วันนี้สักกะเริ่มทานอาหารเช้าได้ด้วยตัวเองบ้างแล้ว โดยมีนางพยาบาลสาวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ 

“เมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้าน”

เขาถาม ขณะกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ยื่นมือไปรับแก้วน้ำมาดื่ม ตอนนี้เขาพอจะเดินไปไหนมาไหนในห้องโดยไม่ชนอะไรล้มโครมครามอีกแล้ว

“ก็บอกแล้วว่า ให้ใจเย็นๆไงคะ สักกะ”

“เดี๋ยวก่อน” 

ชายหนุ่มมีสีหน้าแปลกใจสงสัยขึ้นมาทันที ก่อนพยาบาลสาวจะรู้ตัวหรือตั้งตัวเขาก็คว้าแขนเธอเอาไว้อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก เพราะรู้ว่าเธออยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง

“คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง ผมไม่เคยบอกชื่อคุณเลย คุณคือสโรชินใช่ไหม”

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวคุณก็รู้แล้ว ปล่อยมือดิฉันก่อนค่ะ” 

เธอค่อยๆ แกะมือของเขาออกทีละนิ้ว ชายหนุ่มถอนใจ ยอมปล่อยมือแต่โดยดี แล้วเขาก็รู้สึกว่าผ้าปิดตาถูกแกะออกทีละน้อยและแผ่วเบานุ่มนวล จมูกเขาได้กลิ่นน้ำหอมที่เปลี่ยนไป แม้กระทั่งน้ำเสียงก็ไม่ได้หวานใสเหมือนเมื่อหลายวันก่อน เสียงของเธอราบเรียบและค่อนไปทางห่างเหิน

“เรื่องที่คุณควรรู้ในวันนี้คือ วันนี้เป็นวันครบกำหนดในการเปิดผ้าปิดตาของคุณพอดี อย่าเสียใจนะคะถ้าอะไรๆ ไม่เป็นอย่างที่คุณคิด”

เขามองเห็นแสงสว่างแล้ว

แสงสว่างซึ่งห่างหายไปจากสัมผัสการรับรู้ของเขามานาน  ครั้งแรกภาพต่างๆ พร่าเลือนเหมือนปรับโฟกัสไม่ชัด ต้องใช้เวลาสักพัก กว่าทุกอย่างจะกระจ่างชัดขึ้นมา

ดีใจก็ดีใจ...
ดีใจที่สามารถกลับมามองเห็นอีกครั้ง


ผิดหวังว่านางพยาบาลคนนี้ไม่ใช่สโรชิน  หญิงสาวในเกมซึ่งเขาเฝ้าคิดถึงทุกวันทุกคืน

“ดีใจด้วยกับการกลับมามองเห็นอีกครั้ง ทีนี้คงรู้แล้วนะคะว่าใครเป็นใคร”

เธอยิ้มให้เขาอย่างปลอบใจ

“ส่วนเรื่องรู้จักชื่อคุณก็ไม่เห็นแปลก ชื่อของคุณติดอยู่ที่ป้ายตรงปลายเตียงนั่นไง สงสัยคุณไม่เคยเข้าโรงพยาบาล”

สักกะรู้สึกผิดหวังจริงๆ และออกจากโรงพยาบาลไปกับความผิดหวังนั้น.



lozocat
lozocatlozocat
คลิก Vote ข้างล่าง สร้างโอกาส blogger
นำเสนอสิ่งดีๆ คืนให้สังคมนะคะ :)
lozocatlozocat




 

Create Date : 17 มกราคม 2554
4 comments
Last Update : 21 มกราคม 2554 9:27:14 น.
Counter : 644 Pageviews.

 

ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นสโรชินด้วย ^^

 

โดย: พี่สาว IP: 117.47.29.133 19 มกราคม 2554 19:13:49 น.  

 

พี่สาวก็เดาถูกแล้วนี่คะ ^____^

..
SPOILED
..


(ตอนหลังไม่ใช่สโรชินเพราะมีการเปลี่ยนตัวค่ะ :D)

 

โดย: รุริกะ 19 มกราคม 2554 22:01:34 น.  

 

vote literature blog ka^^

 

โดย: ชะเอมหวาน 14 เมษายน 2554 8:44:27 น.  

 

ขอบคุณคุณชะเอมหวานค่ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ

=^____^=

 

โดย: รุริกะ 15 เมษายน 2554 14:12:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.