เกมพิศวง (Level 26: ตอนจบ)
(*ノ・_・)ノ....
ท่านี้คือชูมือรออ้อมกอดคนอ่านค่ะ =^__^= ใครที่ตามอ่านแบบไม่ปรากฏตัว ก็มาปรากฏตัวในคอมเม้นต์สักนิดนะคะ
+ + + + + ตอนจบ + + + + +
ชายหนุ่มรู้สึกหัวใจเต้นแรง ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว อาจเพราะความรู้สึกตื่นเต้นดีใจประเดประดังขึ้นมาจนจิตใจและร่างกายรับไม่ทันหรืออะไรก็ช่าง ในที่สุดเขาก็พอจะรู้แล้วว่าหญิงสาวอยู่ที่ไหน ยังไม่สายเกินไปที่จะตามเธอให้ทัน และไม่ควรจะรอช้าแม้แต่วินาทีเดียว
สภาพลุกลี้ลุกลนจนผิดปรกติของเพื่อนรัก สร้างความงุนงงให้กับอาวุธเป็นอย่างยิ่ง ชายผู้มาใหม่ยืนอยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่ทันสังเกตเห็นข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอ ด้วยความสนใจในอากัปกิริยาของเพื่อนรักมากกว่า อาวุธเดินเข้าไปแตะบ่าของสักกะ แต่กลับถูกเจ้าตัวผลักออกอย่างไม่ใยดี
ไม่ต้องคิดหรือรีรออะไรอีกต่อไป สักกะผลุนผลันออกจากห้องโดยไม่สนใจสีหน้าท่าทางของเพื่อนสนิทซึ่งยังยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่กลางห้อง ต่อเมื่อสักกะหายลับตาไปแล้ว ชายหนุ่มก็ยังยืนงงอยู่ไม่หาย
ป้ายรถเมล์แห่งนั้นห่างออกไปไม่มากนัก ความจริงจากปากซอยหน้าบ้านมีป้ายรถเมล์แต่ชายหนุ่มร้อนใจเกินกว่าจะนั่งรอ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนใจกระทั่งว่าเสื้อผ้าหรือรองเท้าแตะเก่าๆ ที่ใส่อยู่ในตอนนี้ไม่ได้เหมาะสมในการใส่ออกมาวิ่งนอกบ้านเลยสักนิด เขาพยายามมองหารถแท็กซี่ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่ได้คว้ากระเป๋าสตางค์มาด้วย แต่โชคก็เหมือนจะไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ช่วงเวลาอันรีบร้อนนั้นไม่มีรถแท็กซี่วิ่งผ่านมาให้เห็นเลยสักคันราวกับจะเป็นการกลั่นแกล้งทดสอบความอดทน ไม่เป็นไร..สมัยเรียนมัธยมเคยเป็นนักกรีฑาของโรงเรียนมาแล้ว ทำไมแค่นี้จะวิ่งไปเองไม่ได้
ชายหนุ่มแม้จะอยู่ในอาการรีบร้อนสุดขีด แต่ก็ไม่ลืมจะมองซ้ายมองขวาเมื่อข้ามถนน เขายังไม่อยากตายหรือพิการก่อนจะเห็นหน้าหญิงสาว ในใจมีแต่เสียงเรียกพร่ำเพรียกเรียกหา สโรชิน...คุณอยู่ที่ไหน แต่ถึงกระนั้นเขาก็แทบจะถูกรถเฉี่ยวหลายครั้ง ใครจะร้องด่าตามหลังมาตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ยินเสียอย่าง
ในที่สุดชายหนุ่มก็มาถึงป้ายรถเมล์ที่ได้พบกับสโรชินครั้งแรกด้วยอาการเหนื่อยหอบ ความจริงเขายังไม่ได้หายเป็นปรกติจากอาการเจ็บไข้ อาหารเช้าก็ยังไม่ตกถึงท้อง แต่ที่สามารถมาได้จนถึงขนาดนี้เพราะแรงใจอันแน่วแน่มั่นคงเท่านั้น
แล้วชายหนุ่มก็พบว่าตัวเองกำลังยืนหมุนคว้างอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ กับผู้คนซึ่งมีสีหน้าท่าทางเฉยเมยเย็นชาเดินสัญจรเกะกะไปมา ทำให้เขามองไม่เห็นเลยว่าสโรชินอยู่ที่ไหน
แล้วไอ้คำว่า 3 นาฬิกานี่มันหมายถึงอะไร อยู่ที่ไหน สักกะรู้สึกโมโหเกมนั่นขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมต้องเอาภาษาทางทหารแบบนี้มาใช้ด้วย เขาไม่ใช่ตำรวจทหารจะได้เข้าใจว่า 3 นาฬิกาคืออะไร ป่านนี้เธอไม่ไปอยู่ที่ 4 นาฬิกาหรือ 5 นาฬิกาแล้วหรือ ไอ้เกมบ้า
ต้องใจเย็นๆ ชายหนุ่มพยายามระงับสติอารมณ์อย่างยากลำบากแม้จะอยู่ในอาการหันซ้ายขวาแบบเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คนก็ตาม ค่อยๆคิด..เธออย่างไรก็จะต้องอยู่แถวนี้ เธอคงไปได้ไม่ไกลนักเพราะเกมมันบอกว่าเธอหลงทาง บางทีสายตาของเธออาจยังไม่ปรกติ เธอจะต้องอยู่แถวนี้
นั่นไง...ผู้หญิงผมยาวประบ่ากำลังก้มหน้าเดินไปอย่างช้าๆ บริเวณทางเท้าห่างออกไปไม่เกินสิบเมตร ชายหนุ่มเห็นแล้วรู้สึกใจเต้นแรงรีบผวาวิ่งตามไปทันที
สโรชิน! เขาร้องตะโกนสุดเสียง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยิน มีเสียงรถราวิ่งผ่านไปมาไม่ขาดสายจนทำให้เธอไม่ได้รับรู้เสียงร้องเรียก ชายหนุ่มวิ่งไปถึงตัวเธอพลางคว้าแขนของหญิงสาวดึงให้หันหน้าเข้ามาหาด้วยอาการหัวใจเต้นแรง แล้วหัวใจของเขาก็เต้นจนแทบจะผิดจังหวะ
หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่สโรชิน เพียงแต่ดูจากด้านหลังแล้วคล้ายกันเท่านั้น
ขอโทษครับ....คุณไม่ใช่....
เขาเอ่ยปากตะกุกตะกักรีบปล่อยมือของเธอคนนั้นแทบไม่ทัน รู้สึกทั้งอายทั้งผิดหวังและใจหายอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเหมือนตกวูบลง ความหวังที่เพิ่งก่อตัวขึ้นมากลับเลือนรางอีกครั้ง หญิงคนคนนั้นมองหน้าเขาแวบหนึ่งแล้วรีบเดินจากไปโดยเร็ว คงไม่ไว้ใจสีหน้าท่าทางของเขาในตอนนี้
เป็นความรู้สึกแย่มากเหลือเกิน สักกะพยายามมองรอบตัว อยากตะโกนเรียกชื่อเธอออกไปดังๆ แต่ก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเพราะถนนสายนี้เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกของยวดยานพาหนะ อีกอย่างเขาก็กลัวว่าจะถูกจับด้วยข้อหาคนบ้าเมื่อดูสภาพตัวเองในยามนี้
ในความรู้สึกหนักอึ้งพลุ่งพล่านใจนั้น เขารู้สึกว่าความสับสนวุ่นวายรอบตัวเหมือนบรรเทาเบาบางลง หันสายตาระโหยโรยแรงไปมองอย่างไม่ตั้งใจ เขายืนอยู่บริเวณใกล้ๆกับทางข้ามถนน สัญญาณไฟจราจรเพิ่งเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว คนเดินข้ามถนนหมดจนคนสุดท้าย รถราที่หยุดนิ่งเริ่มเคลื่อนที่ สิ่งต่างๆรอบตัวเหมือนจะรีบรุดผ่านไปอย่างเร่งรีบ แต่ไม่ไกลออกไป มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว และมองตรงมายังเขา ไม่ผิดแน่...
สโรชินยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
อย่าอาย... ที่จะต้องบอกใครต่อใครว่าเราตาบอด
บทเรียนบทแรกที่ครูสอนคนตาบอดพร่ำสอน คือการขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างอย่างไม่ต้องกลัวการปฏิเสธ เมื่อสโรชินออกมาจากบ้านของสักกะ หญิงสาวก็เดินลัดเลาะเกาะกำแพงเรื่อยมาจนถึงหน้าปากซอย เธอขอความช่วยเหลือจากแม่ค้าขายส้มตำท่าทางอารมณ์ดี ให้ช่วยโบกเรียกและพาขึ้นรถเมล์ และยังได้รับความช่วยเหลือจากกระเป๋ารถเมล์ให้พาไปนั่งที่นั่งของคนพิการอย่างสะดวกโยธิน
ลงป้ายหน้าค่ะ สโรชินหยิบเศษเงินจากกระเป๋าเสื้อคลุมสีชมพูอ่อนๆ โชคดีที่ไหวตัวและหาเสื้อคลุมมาสวมทับ อย่างน้อยก็ช่วยปิดบังชุดฟอร์มที่ค่อนข้างสะดุดตาได้บ้าง เศษเงินนั้นมีมูลค่าเกินราคาของ ป้ายหน้า แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเงินทอน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับวงแขนของกระเป๋ารถเมล์ให้คล้องและพาลงจากรถ
ที่จริงเธอยังไม่รู้จะไปที่ไหน
เหมือนความมุ่งหมายทั้งหลายทั้งปวงได้บรรลุความสำเร็จแล้ว เธอได้พบกับคนที่ตามหา ได้ดูแลเวลาเขาเจ็บไข้ ได้ใช้เวลาร่วมกันแม้เพียงสั้นๆ ได้สละความสามารถในการมองเห็นคืนให้เขา เวลานี้ทุกอย่างกลับสู่ความว่างเปล่า เธอต้องการแค่กลับมายังป้ายรถเมล์สายเดิมเพื่อรำลึกถึงสายตาคู่นั้นของชายหนุ่ม
ในวันนั้น เขาหันมามองเธออย่างตื่นตะลึง เวลานั้นสโรชินต้องย้ำตัวเองอย่างหนักเพื่อระงับความรู้สึกยินดีปรีดาเอาไว้ วันที่เธอเดินหนีจากไปแล้วเขายังวิ่งตามจนถูกรถชน สโรชินนั่นเองเป็นคนพาเขาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและยังผูกผ้าปิดตาเขาเสียแน่นหนา
ท่าทีดื้อรั้นและเจ้าอารมณ์เวลาที่ตามองไม่เห็น ท่าทางคาดคั้นว่าเธอต้องเป็นสโรชิน ของเขา ให้ได้ และไหนจะอาการผิดหวังซึมเซา เมื่อพบว่าคนเปิดตาเขาไม่ใช่เธอ...ผู้ยืนหลบอยู่หลังม่าน
ภาพหญิงสาวยืนพิงป้ายรถเมล์อย่างไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวและผู้คนจอแจ เธอเหม่อมองออกไปข้างหน้าโดยไม่ได้กระพริบตามาเป็นเวลานานแล้ว พลเมืองดีคนหนึ่งจึงเข้าไปกระซิบถาม
จะข้ามถนนหรือเปล่าคะ คะ...? สโรชินหันไปทางทิศที่มาของเสียง เอ่อ...ขอโทษค่ะ ฉันไม่แน่ใจว่า คุณ...ตาบอด แล้วอยากข้ามถนนหรือเปล่าคะ ฉันกำลังจะไปฝั่งโน้นพอดี จะได้ช่วยจูงให้
สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่มาจากความปรารถนาดี เธอคนนี้คงคุ้นเคยกับการช่วยเหลือผู้คนมามาก สโรชินยิ้มขอบคุณก่อนคิดจะปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าหากข้ามถนนไปจะเจอกับตู้โทรศัพท์ เธออาจโทรหาพ่อแม่ให้มารับ หรือขอความช่วยเหลือจากใครได้มากกว่าเวลานี้
ค่ะ...ขอบคุณคุณมากเลยนะคะ
หลังจากได้รับคำตอบดังที่คาดหมาย พลเมืองดีรีบดึงมือของหญิงสาวตาบอดมาคล้องแขน และพาข้ามถนนเมื่อสัญญาณไฟแดงปรากฏ เวลาเดียวกัน สโรชินได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองมาแต่ไกล ทันใดนั้น ความมืดที่ปิดบังแสงสว่างก็เริ่มพร่าเลือนหาย เหมือนเส้นใยที่เคยสานเป็นผ้าสีดำเบาบางแต่มืดทึบผูกทับสายตาเธอเอาไว้ค่อยๆปลิวปลิวเป็นละอองไอและระเหยไปกับพยับแดด ทิวทัศน์รอบตัวค่อยๆปรากฏต่อสายตาระหว่างการเดินข้ามถนน ต่อเมื่อก้าวข้ามไปถึงฟุตบาทฝั่งตรงข้ามหญิงสาวก็กลับมามองเห็นทุกอย่างได้กระจ่างชัด สโรชินยังเก็บงำความประหลาดใจเอาไว้และหันไปขอบคุณพลเมืองดีที่พามาส่ง คล้อยหลังสุภาพสตรีคนนั้น หญิงสาวหันกลับไปมองในทิศทางที่จากมาและพบกับเขา...
ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าปอนๆ กำลังหันรีหันขวางเหมือนตามหาใครสักคนหรือของรักสักอย่างที่ห่วงหวงนักหนา เหมือนกับว่าถ้าหาไม่เจอ เขาอาจล้มประดาตายลงไปเสียอย่างนั้น
เป็นเขานั่นเอง...สักกะ
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
คราวนี้ชายหนุ่มแน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดและไม่ได้จำคนผิดอีกแล้ว
เธอยืนจ้องมองมายังเขาและดูเหมือนว่าจะยืนมองอยู่อย่างนั้นมาครู่หนึ่งแล้ว แต่สภาพการจราจรในช่วงไฟเขียวจึงทำให้รถทุกคันพุ่งทะยานผ่านไปอย่างบ้าคลั่ง ต่างคนจึงต่างยืนจ้องมองกันอยู่อย่างนั้น ตาของเธอไม่ได้บอด และเขาสามารถรับรู้ถึงกระแสแห่งความรักความห่วงใยความตื่นเต้นดีใจอยู่ในสายตาคู่นั้นอย่างชัดเจนที่สุด
เมื่อสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟแดงชายหนุ่มไม่ใช่รู้สึกเพียงว่ารถรากำลังหยุดเพราะไฟแดงเท่านั้น ทุกอย่างอยู่รอบตัวก็เหมือนหยุดชะงักค้างไปด้วย ในความรู้สึกของสักกะตอนนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่กึกก้องร้องลั่นอยู่ในใจ
สโรชิน...ในที่สุดผมก็หาคุณเจอ คราวนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่ยอมให้คุณหลุดมือหายไปอีกแล้ว
ใบหน้าของชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้มออกมาได้ เท้าเริ่มก้าวเดินข้ามถนน เป็นเวลาเดียวกันกับหญิงสาวที่คลี่ยิ้มบางๆ อย่างโล่งใจ ก่อนจะเริ่มก้าวเท้าข้ามถนนตรงมาหาเขา
บนถนนที่มีคนนับร้อยเดินสวนไปมาโดยไม่ได้สนใจคนรอบข้าง ชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังเดินข้ามไปหากัน ก้าวข้ามมิติแห่งกาลเวลา ก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคและการทดสอบอันหนักหนาสาหัสของเกมเพื่อข้ามพ้นขึ้นมาบนฟากฝั่งของความรักที่โหยหารอคอยมานานนับ...
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * บทส่งท้าย * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นี่มันเกมบ้าอะไรกัน...
อาวุธพึมพำอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเพื่อนรัก ชายหนุ่มผู้นี้จัดเป็นนักเล่นเกมระดับเทพ เขาไม่เคยต้องใช้เวลาในการศึกษาเกมใดนานนัก แค่ใช้เวลาคลำทางสัก 2-3 นาทีก็พอจะคาดเดาได้ว่าเกมจะออกมารูปแบบไหน และพอจะมีทางลัดเพื่อผ่านด่านและเอาชนะเกมได้อย่างไร
แต่เวลานี้เขาต้องมาอ้าปากค้างและอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจสุดขีด เมื่อพบว่าเกมไม่ได้ใช้ความสลับซับซ้อนใดๆทั้งสิ้นในการเล่น ไม่มีภาพสามมิติเชิญชวน ไม่มีปุ่ม ไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่รู้ว่ามันเป็นเกมๆหนึ่ง แต่ที่น่าตื่นตะลึงคือภาพที่เขามองเห็นในจอคอมพิวเตอร์
เป็นภาพของสักกะเพื่อนรักกำลังก้าวข้ามถนนตรงไปหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก้าวข้ามมาจากอีกฟากหนึ่งของถนน เขาเห็นคนทั้งสองสวมกอดกันราวกับรู้จักและรอคอยวันที่จะพบกันมานานนักหนา จากนั้นจึงจูงมือกันเดินหายไปท่ามกลางคลื่นของผู้คนที่เดินขวักไขว่
สัญญาณไฟเริ่มเปลี่ยนเป็นไฟเขียวอีกครั้ง...
หน้าจอดับวูบลงครู่หนึ่งก่อนปรากฏข้อความสีขาวกระพริบไปมาอย่างท้าทายและเชิญชวน
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกมพิศวง คุณสนใจเล่นเกมนี้ไหม...
THE END.
Create Date : 30 มีนาคม 2554 |
Last Update : 30 มีนาคม 2554 21:32:21 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1774 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สาวิกา IP: 58.11.230.105 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:21:05:36 น. |
|
|
|
โดย: พี่สาว IP: 223.204.4.166 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:22:13:18 น. |
|
|
|
โดย: aritsumemoon IP: 110.168.95.105 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:22:47:30 น. |
|
|
|
โดย: รุริกะ วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:7:08:30 น. |
|
|
|
โดย: นักงานเงา IP: 86.68.60.243 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:8:35:27 น. |
|
|
|
โดย: pompom IP: 125.27.26.1 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:10:44:12 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์ IP: 192.168.2.5, 113.53.150.17 วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:16:32:29 น. |
|
|
|
โดย: ออยป่วง IP: 110.164.104.168 วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:22:09:57 น. |
|
|
|
โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:12:00:15 น. |
|
|
|
โดย: แจม IP: 27.130.153.93 วันที่: 13 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:31:14 น. |
|
|
|
โดย: รุริกะ วันที่: 31 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:30:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|