ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
ธรรมกาย พุทธภาวะแห่งนิพพาน



ธรรมกาย พุทธภาวะแห่งนิพพาน
อวกาศสีขาว


... ห ลั ง พุ ท ธ ป ริ นิ พ พ า น เ กื อ บ ส อ ง ร้ อ ย ปี (เรื่องปีพ.ศ.นี้หนังสือหลายเล่มไม่ค่อยตรงกันนัก บ้างว่าร้อยกว่าปี บ้างว่าสองร้อยกว่าปี) หลังตติสังคายนา ณ วัดกกุฏาราม กรุงปาฏลีบุตร อุปถัมภ์โดยพระเจ้าอโศก ก่อให้เกิดการแตกนิกายเป็นหลายนิกาย แยกได้ชัดเจนเป็นสองนิกายใหญ่ๆ คือ เถรวาท และมหาสังฆิกะซึ่งมีอิทธิพลกลายมาเป็นพุทธมหายานต่อมา

แนวคิดเรื่องธรรมกายนั้นมาจากพุทธมหายาน แม้นในคัมภีร์ฝ่ายเถรวาทจะกล่าวถึงอยู่ไม่น้อย แต่ก็เป็นไปในทางนามธรรม คือมีนัยยะสื่อความถึงเรื่องโลกุตระธรรม และการเข้าถึงสภาวะที่จิตตรัสรู้ธรรม เสียมากกว่า

สองคัมภีร์ฝ่ายมหายานที่มีความสำคัญมาก
คือ ปรัชญาปารมิตาสูตร และสัทธรรมปุณฑริกสูตร


ปรัชญาปารมิตาสูตร เป็นพระสูตรว่าด้วยปัญญาบารมีอันยิ่งใหญ่ ที่เข้าใจธรรมะได้ทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด ด้วยความเป็นมหาศูนยตา จารเป็นพระสูตรโดยพระนาครชุน ซึ่งเชื่อกันว่าท่านได้สดับมาชาวนาคเมืองบาดาล ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเทศนาฝากไว้ เป็นพระสูตรที่ยาวมาก มีความย่นย่อลงเป็น ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรเพื่อสวดสังวัธยาย และมีผูกสำคัญสำคัญสำหรับเหล่าพระอริยะทั้งหลายคือวัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตา คือไม่มีแม้นแต่ความเป็นอริยะใดๆ ไม่มีการเข้าถึงธรรมใดๆ ธรรมกายหรืออายตนะนิพพานในพระสูตรนี้ จึงถูกอธิบายว่าเป็นปรัชญาปารมิตาด้วย แม้นจะเป็นการอธิบายถึงธรรมกายที่เป็นรูปธรรมต่างจากเถรวาท แต่ธรรมกายนี้ก็หาใช่รูปกายอันประกอบด้วยขันธ์ห้า เป็นอจินไตยวิมุตติ ที่ไม่สามารถพิจารณาโดยความเป็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือวิญญาณสภาวะ

ส่วนสัทธรรมปุณฑริกสูตรนั้น ยิ่งมีความมหัศจรรย์พิสดารยิ่งกว่า เพราะเป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าประทานโอวาทแก่เหล่าพระโพธิสัตต์และทวยเทพต่างๆ ที่เขาคิชกูฏ ด้วยธรรมกายเลยทีเดียว ไม่ใช่นิรมาณกายซึ่งเป็นกายมนุษย์ทั่วไป พระสูตรนี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการสมาทานโพธิสัตต์บารมีเพื่อช่วยขนรื้อสรรพสัตว์ให้พ้นสังสาร ต่างจากเถรวาทที่เน้นการก้าวข้ามทุกข์ในปัจจุบัน

อสังขตสถานย่อมเป็นที่รองรับอสังขตธาตุ จิตที่ทำลายอาสวะกิเลสถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์ย่อมหลุดจากเขตสังขตสถานอันเป็นกรอบแห่งขันธ์ห้า แต่ถ้าอสังขตธาตุจะติดต่อกับสังขตธาตุ หรือจิตที่ข้องอยู่ในโลกบัญญัติ อสังขตธาตุย่อมต้องแสดงบัญญัติเสมอกัน

ธรรมกายนั้นก็หาใช่ขันธ์ห้า แต่ก็หามีความจริงแท้ มิได้อุบัติก่อกำเนิดขึ้นด้วยอาศัยมหาภูตรูป 4 หรือด้วยธาตุทั้ง ๑๘ อันมีจักขุธาตุแม้กระทั่งมโนวิญญาณธาตุ แต่เป็นสภาวะอันปราศจากที่ตั้งครุวนาดุจเดียวกับสูญญากาศ พ้นจากความพอกพูนแห่งความปรากฏแห่งสฬายตนะ อาทิจักขุวายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ พ้นแล้วจากปัญจวิญญาณ ปัญจอินทรีย์ มิได้อยู่ในภพทั้ง ๓ มีกามาวจรภพ รูปาวจรภพ อรูปาวจรภพ พ้นแล้วจากมลทินที่เป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งภพนั้น อนุโลมตามวิโมกขธรรม ๓ อันพรั่งพร้อมบริบูรณ์ด้วยเตวิชชธรรม ไม่เป็นเอกีภาวะ (ภาวะหนึ่งเดียว) ฤาอเนกีภาวะ (ภาวะหลากหลาย) แต่ก็ไม่เป็นอื่นไปจากศูนยตภาวะ

เรื่องธรรมกายนี้ถูกตีความกันมาก ทั้งด้านนามธรรมและรูปธรรมในเชิงพุทธภาวะ หรือสภาวธรรมแห่งนิพพานที่บังเกิดขึ้นกับผู้ที่เข้าถึงนิพพาน มหาสังฆิกะถือว่า พระพุทธเจ้าทรงไว้ซึ่งสภาวะในทางโลกุตระทั้งพระรูปกายและนามกาย

แม้นในพุทธมหายานจะมีการตบแต่งดัดแปลงพระพุทธธรรม ไม่รักษาภาษาสันสกฤตของเดิม ก็เพราะเน้นการเผยแพร่พระศาสนาและหาทางเข้าถึงบรมธรรมมากกว่า ต่างจากฝ่ายเถรวาทที่ยึดพระไตรปิฏกโดยบาลีเดิม เพื่อคงรักษาพระพุทธวจนะไว้ ในการเปรียบเทียบเมื่อต้องแปลออกเป็นภาษาต่างๆ ที่ถูกตีความโดยพระเถระในประเทศต่างๆ หากมีการแย้งว่าตีความบิดเบือนหรือตรวจสอบความผิดพลาดได้ในภายหลัง

(ข้อความด้านบนค้นคว้าประกอบจาก หนังสือความเข้าใจในเรื่องมหายาน โดย ส.ศวิรักษ์)


ความหมายธรรมกายโดยพระมงคลเทพมุนี
พระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร) แห่งวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ซึ่งได้ค้นคว้าและปฏิบัติวิปัสสนาจนมีชื่อเสียงท่านหนึ่งของประเทศไทย ได้อธิบายความหมายว่า "ธรรมกาย คือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรม" ซึ่งกายนี้มีอยู่แล้วในตัวมนุษย์ทุกคน ซึ่งธรรมกายจะมีมีลักษณะใสเป็นแก้วเป็นเพชร สะอาด บริสุทธิ์ ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วน ๓๒ ประการ

ธรรมกายในนิกายต่างๆ
"ธรรมกาย"คำนี้มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาทุกนิกายทั้งเถรวาท มหายาน และวัชระยาน โดยบางคนอธิบายว่า ธรรมกายนั้นถือเป็น"พุทธภาวะ" พระมหาเถระอิ้นสุ่นที่มีชื่อเสียงมากในวงวิชาการแห่งไต้หวันได้กล่าวไว้ในหนังสือพุทธธรรมวิภาค ที่ท่านเรียบเรียงไว้ว่า การที่เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เพราะท่านบรรลุธรรมกายซึ่งเป็นพุทธภาวะนั่นเอง

ธรรมกายฝ่ายพุทธมหายาน
ในมหายานกล่าวว่าธรรมกายเป็น กายที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า เป็นแก่นแท้ เป็นสัจจธรรม ที่ดำรงอยู่ไม่มีวันสลาย ธรรมกายจัดเป็นนิจจัง สุขขัง อัตตา และบริสุทธิ์ อีกทั้งธรรมกายยังสัมพันธ์กับเรื่องราว ของ ตถาคตครรภ์ ,พุทธภาวะ และรัตนทั้งสาม คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ

ธรรมกาย โดยพระนาคเสนมหาเถระ ผู้ตอบปัญหาพระเจ้ามิลินทราชา
" ผู้ที่ยังไม่ได้นิพพานก็รู้ว่านิพพานเป็นสุข เพราะได้ยินเสียงพวกได้นิพพาน.....พระพุทธเจ้ามีจริง แต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนเปลวไฟที่ดับแล้วก็ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน อาจชี้ได้เพียงพระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น.........นิพพานเป็นของต้องรู้ด้วยใจ พระอริยสาวกผู้ปฏิบัติชอบแล้วย่อมได้เห็นนิพพาน ด้วยใจอันบริสุทธิ์ อันสงบประณีต อันเที่ยงตรง ไม่มีเครื่องกั้นกาง อันไม่มีอามิส"


สำหรับนักปฏิบัตที่อาจไม่สนใจค้นคว้าปริยัติ โดยสายมีฤทธิ์ที่ไปพบเห็นพระพุทธเจ้าที่แดนนิพพาน อธิบายได้ว่าสถานที่เห็นนั้นเป็นอย่างไร ก็ต้องอาศัยครูบาอาจารย์ที่เป็นทั้งนักปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ที่ตรงสายของตนเป็นผู้อธิบายให้ความรู้ เพราะเรื่องอภิญญานั้นเป็นเรื่องปัจจัตตัง

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ อธิบายพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงพระวรกายให้เห็นและแดนนิพพานที่เห็น สำหรับเหล่าบรรดานักถอดจิตไปแดนนิพพาน (เอาแบบจริงนะไม่ใช่จินตนาการ) ว่าคือภูติพระพุทธเจ้าและพุทธนิมิต ซึ่งผู้เขียนขอสันนิษฐานว่า คือ พระธรรมกายและแดนนิพพานพุทธนิมิต

ผู้เขียนมีความเคารพในหลวงปู่ดู่มากเป็นพิเศษ เพราะเรียกว่าเจอพุทธฤทธิ์แบบจะจะจากพระพุทธรูปซึ่งจัดสร้างโดยหลวงตาม้าลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ขณะนั่งพับเพียบอยู่โดยไม่เข้าสมาธินี่แหละ ทั้งที่ไม่เคยไปกราบหลวงตาม้า แต่ได้พระพุทธรูปมา แค่เห็นพระพุทธรูปนั้นครั้งแรก ก็เจอแรงสมาธิข่มอย่างรุนแรง พร้อมทั้งเห็นพระพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์ในปางต่างๆ สว่างไสวสุดบรรยาย ชนิดแบบว่าอึ้งตะลึงตะลานไปเลย ถ้าไม่ตกใจหรือตั้งสติไม่ทัน คงอาจจะไม่หลุดจากสมาธิออกมา แต่ถามว่าเสียดายไหม ก็ไม่ แค่สงสัยมากกว่า

โดยปกติ ก็จะมีบ้างที่ฝันถึงหลวงปู่มั่น ท่านเมตตามาสอนสิ่งที่ติดใจสงสัยให้เข้าใจได้ หลังจากที่พยายามคิดมานานเหลือเกิน ก็อาจจะสงสัยว่าฝันนั้นจิตอาจสร้างนิมิตในความฝันไปเอง เวลาปู่มั่นมานี่ ก็เป็นคนธรรมดามากๆ จึงคิดว่าอาจเป็นเพียงจินตนาการไป และไม่สามารถแยกออกได้เลย ระหว่างฝันถึงเทพ ฝันถึงพระอรหันต์ ว่านั่นคือนิมิตของขันธ์กาย หรือธรรมกาย ทั้งยังฝันเป็นนิมิตล่วงหน้า ที่สำคัญหลายนิมิตเกิดเป็นจริง และสิ่งที่สงสัยก็กระจ่างได้

สำหรับผู้เขียนแล้ว ธรรมกายหรืออายตนะนิพพานไม่จำเป็นต้องเป็นกายแก้ว เมืองนิพพานไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองแก้ว แล้วแต่จะแสดงมากกว่า แล้วแต่สถานที่ที่แสดงมากกว่า ทั้งยังเชื่อว่าสำหรับผู้ที่เข้ากระแสนิพพานแล้ว ก็มีธรรมกายสถิตอยู่ในตัว เป็นพุทธภาวะแห่งนิพพานที่พร้อมจะเจริญเป็นธรรมกายบริสุทธิ์ เพื่อแสดงสภาวธรรมของบุคคลที่เข้าถึงนิพพานอย่างหมดจด คือทำลายอาสวะกิเลสทั้งหมดลงได้แล้ว เป็นผู้ไปด้วยดีแล้ว...




..

ธรรมกายในที่นี้ ไม่เกี่ยวกับวัดธรรมกายค่ะ


Create Date : 03 มีนาคม 2551
Last Update : 11 มีนาคม 2551 0:13:48 น. 0 comments
Counter : 1104 Pageviews.
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.