พระคลังมหาสมบัติ มรดกล้ำค่าชาวไทย
มาสุทธิ ตั้งภควัตกุล
1.พานพระศรีทองคำลงยาพร้อมเครื่อง
2.พระอู่พร้อมเสาสะดึง
3.ดารานพรัตน์
4.เครื่องทรงพระแก้วฤดูร้อน
5.ชฎาพระกลีบ
| นานทีปีหนกรมธนารักษ์จะเปิดให้ชมสมบัติล้ำค่า ซึ่งเก็บไว้อย่างดีที่พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว
ครั้งนี้ยิ่งไม่ธรรมดา เพราะเปิดห้อง 'พระคลังมหาสมบัติ' ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5
ปกติกรมธนารักษ์จะอนุญาตเฉพาะข้าราชการระดับสูง และรัฐมนตรีของกระทรวงการคลัง เข้ากราบไหว้พระคลังมหาสมบัติเท่านั้น
ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้น โดย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ เปิดแถลงข่าวโฉมใหม่ของ ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของไทยในบริเวณวัดพระแก้ว
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ จึงสั่งเปิดกุญแจห้อง ให้ผู้ที่ไปร่วมงานเข้าสักการะพระคลังมหาสมบัติเพื่อความเป็นสิริมงคล
'พระคลังมหาสมบัติ มีลักษณะคล้ายพระสยามเทวาธิราช ต่างกันเพียงพระหัตถ์ซ้ายของพระคลังมหาสมบัติถือดอกบัว ส่วนพระสยามเทวาธิราชทรงยกขึ้นจีบดรรชนีไว้เสมอพระอุระ' นายนริศเล่าให้ฟัง หลังจากสักการะพระคลังมหาสมบัติ นายนริศพาไปยังศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ในส่วนที่ปรับปรุงใหม่ ใช้เวลาปรับปรุงนานกว่า 1 ปี ใช้งบประมาณกว่า 42 ล้านบาท เตรียมเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2555 นี้
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ถือเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงทรัพย์สินมีค่าของไทย ในการดูแลของกรมธนารักษ์ มีทั้งหมด 97,000 ชิ้น แต่นำมาจัดแสดง 1,700 ชิ้น บางชนิด เช่น แหวนจะนำมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนจัดแสดงตามความเหมาะสม
ทรัพย์สินมีค่าดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่แยกมาจาก ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี 2475 ซึ่งมีคณะกรรมการคัดแยกทรัพย์สิน หลักเกณฑ์พิจารณากว้างๆ คือ สมบัติที่สร้างโดยเงินของพระมหากษัตริย์ และทรัพย์สินที่สร้างโดยเงินของรัฐบาล
เดิมศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ใช้ชื่อว่า 'ศาลาเหรียญกษาปณ์ไทย' ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงทำพิธีเปิดศาลาเหรียญกษาปณ์ไทย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2519
ต่อมาในปี 2521 ขอพระราชทานพระบรม ราชานุญาตจัดแสดงเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพิ่ม พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น 'ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์'
ในปี 2555 ปรับโฉมศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ให้ทันสมัยมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือที่เรียกว่า Augmented Reality Technologies มาประยุกต์ใช้กับการจัดแสดงเพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับทรัพย์สินที่จัดแสดง พร้อมทั้งเข้าใจเรื่องราวผ่านสื่อผสมที่เห็นภาพเสมือนจริงของทรัพย์สินที่จัดแสดงได้รอบด้าน 360 องศา 1.พระคลังมหาสมบัติ
2.เก่าสุด "เงินตราไทยสมัยอาณาจักรฟูนัน"
3.เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างๆ
|
ทรัพย์สินที่จัดแสดงแบ่งเป็น 4 หมวดคือ เครื่องราชอิสริยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เงินตราไทย และ ทรัพย์สินเบ็ดเตล็ด
ที่ยกให้เป็นไฮไลต์ คือ ชฎาพระกลีบ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ทำด้วยทองคำลงยาประดับเพชร เครื่องประกอบมีใบสนและกรรเจียกสำหรับ พระมหากษัตริย์ทรง บางโอกาสทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมราชวงศ์ได้ทรงในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ
เป็นพระชฎาลักษณะเดียวกับพระชฎาที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก เมื่อปี 2411
ที่เก่าสุดคือเงินตราไทยสมัยอาณาจักรฟูนัน สร้างในพุทธศตวรรษที่ 6 หรือเมื่อประมาณ 1,300-1,400 ปีก่อน นอกจากเหรียญที่มีให้ชมแล้ว ยังมีแป้นพิมพ์เหรียญทำจากหินจัดแสดงด้วย
ชิ้นที่สวยงานและทรงคุณค่ามีมากมายหลายชิ้น อาทิ เครื่องทรงพระแก้วมรกตในฤดูต่างๆ ดารานพรัตน์ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นครั้งแรก ประมาณ พ.ศ.2401-2402 สำหรับเป็นเครื่องต้นและพระราช ทานพระบรมวงศานุวงศ์
พานพระศรีทองคำลงยาพร้อมเครื่อง เครื่องราชอิสริยยศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พานพระศรีทองคำลงยา พร้อมเครื่อง ประกอบด้วยซองพลู พระกรรบิด (มีดเจียนหมาก) จอกหมากกลม ผอบยอดปริก และตลับภู่ใส่สีผึ้ง รวมถึงเครื่องอุปโภคพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ที่ทั้งสองพระองค์พระราชทานให้มาจัดแสดง
พระอู่พร้อมเสาสะดึง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับเจ้านายชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไปจนถึงชั้นเจ้าฟ้า ล่าสุดใช้ในพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
พระแสงดาบญี่ปุ่นฝักทองคำลงยาประดับเพชร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแด่สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นลักษณะดาบญี่ปุ่นฝักทองคำลงยาประดับเพชร
นายนริศฝากเชิญชวนคนไทยเข้าชมศาลาเครื่องราชอิสริยยศฯ ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมปีละ 1 ล้านคน แต่มีคนไทยเพียง 2 แสนคน อีก 8 แสนคนเป็นชาวต่างชาติ
ค่าเข้าชมสำหรับคนไทยเพียงคนละ 10 บาท ในขณะที่ต่างชาติเก็บรวมในค่าเข้าชมวัดพระแก้ว 400 บาท
สนใจเข้าชม เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ยกเว้นวันที่มีพระราชพิธี คลิกเข้าชมเว็บไซต์ ได้ที่ //emuseum.treasury.go.th
หน้า 25
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คุณมาสุทธิ ตั้งภควัตกุล สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 17 กันยายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 17 กันยายน 2555 12:30:00 น. |
Counter : 2951 Pageviews. |
|
|
|