...นึกว่าคุณกลับบ้านไปแล้ว ปลายเสียงทุ้มสะเทือนนิดหนึ่งด้วยอารมณ์อันยากจะจับสังเกตได้ เขาหลุบตาต่ำลงชั่วขณะ ซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ใต้เงาของขนตายาวที่ทอดลง หากนัฏฏายังรู้สึกถึงอาการเกร็งของกล้ามเนื้อแขนอีกฝ่าย ปลายนิ้วที่กำแน่นเข้าเพียงชั่วครู่ เมื่อเขายันตัวออกห่างจากผนังเหมือนไม่เต็มใจ อากาศอุ่นจากฮีทเตอร์ค่อยๆ ละลายความแข็งชาหนาวเหน็บลงได้บ้าง และเปลี่ยนมันเป็นอาการส่ันสะท้าน หญิงสาวยกแขนขึ้นกอดอกแน่น พยายามพรางปฏิกิริยานั้นของร่างกายไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ขณะตอบเสียงเรียบ หรืออย่างน้อยก็เรียบเท่าที่หล่อนจะสะกดให้มันเป็นได้ในยามนี้ ฉันเดินไปเกือบถึงสถานีรถไฟ แต่...นึกได้ว่ากระเป๋าเงินอยู่ในเสื้อโค้ต คีธพยักหน้าลงอย่างรับรู้ เขาไม่ตอบ ไม่พูด อาการที่ทำให้อารมณ์ของนัฏฏาเหวี่ยงแรงขึ้นอีกครั้ง หล่อนสืบเท้าผ่านหน้าเขาไป รวดเร็วเหมือนกำลังหนีจากอะไรบางอย่าง มือบอบบางกดกระแทกปุ่มเรียกลิฟท์โดยแรง...ถี่ย้ำ ทั้งที่หล่อนรู้ว่ามันไม่อาจช่วยให้เครื่องกลนั้นทำงานเร็วขึ้นมาได้ดังใจหวัง แต่...อย่างน้อยมันก็ทำให้หล่อนไม่ต้องทนสบตาคนที่ทำเหมือนห่วงใยในอึดใจหนึ่ง และนิ่งสนิทได้เสียยิ่งกว่าคนใบ้ในอีกอึดใจ! แน็ท เสียงเรียกเพียงคำเดียวของเขายั้งมือหล่อนไว้ หากไม่ใช่เพียงเพราะคำเรียกนั้น แต่เพราะน้ำเสียงของชายหนุ่มไม่ราบเรียบเหมือนเมื่อครู่ มันเหมือนคนสำลักลม เหมือนอากาศตรงนั้นไม่พอให้เขาหายใจ ขอโทษ...ที่ทำให้คุณร้องไห้ ร่างของหญิงสาวสะท้านขึ้นมาอีก แต่หล่อนไม่รู้ว่าเพราะความหนาวที่เจอะมาเมื่อครู่หรือเพราะคำพูดที่ได้ยิน ที่สำคัญเพียงสิ่งเดียวคือคราวนี้หล่อนไม่อาจซ่อนมันไว้ และหล่อนก็ได้แต่เหลียวกลับไปมอง เปิดปากไม่ออก น้ำตาที่คิดว่าแห้งหายไปแล้วหวนคืนมาอีกครั้ง เอ่อคลอตา ความรู้สึกมากมายจุกอัดอยู่ในช่องอกเมื่อเขาต่อคำ...เบา...พร่า ผมเสียใจ ในความเงียบ หล่อนได้ยินเพียงเสียงหายใจหนัก ตามด้วยเสียงสัญญาณจากลิฟท์ทางด้านหลัง ทว่านัฏฏาก็ได้เพียงปล่อยให้บานประตูเลื่อนนั้นเปิดออกและปิดกลับลงอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าสืบเท้าเข้ามา สวมกอดหล่อนไว้เต็มอ้อมแขน ศีรษะได้รูปที่คลุมด้วยผมสีน้ำตาลอ่อนแกมบลอนด์ซุกซบลง กดริมฝีปากประทับกับเรือนผมสีเข้ม ราวกับการกระทำนั้นจะสามารถหยุดความเจ็บปวดที่หล่อนมี ซึมซับความหนาวเย็นทั้งหมด ปิดช่องว่างใดๆ ก็ตามระหว่างเขาและหล่อนให้เลือนหายไป หญิงสาวรู้ว่าหล่อนควรจะดึงตัวออก แทนที่จะซุกกายและหลับตาลงในอ้อมกอดนั้น เสแสร้งทำเป็นว่าไม่มีโลกภายนอก และเขากับหล่อนไม่เคยเปลี่ยนไป ทว่าเมื่อหล่อนแนบหน้าลงกับอกของคีธ มันยาก...ที่หล่อนจะคิดว่าอะไรผิดและถูก เป็นไปได้หรือไม่ หล่อนหลงไปในจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ ความร้อนผ่าวจากผิวกายอันเหมือนจะขับไอยะเยือกแห่งฤดูหนาวทั้งหมดไปได้ และเพียงหลับตา หล่อนจะไม่ต้องรับรู้ถึงความเยียบเย็นในดวงตาคู่นั้น ลืมวาจาที่กรีดเฉือน...และลืม......