Maybe I'm just a fool
I should keep to the ground,
I should stay where I'm at
Maybe everyone has hunger like this and the hunger will pass
But I can't think like that
: Flight - Craig Carnelia
Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
บ่วงบัลลังก์

พิมพ์คำสำนักพิมพ์



เพื่อชาติ...กายเขาพลี ชีวีเขาให้ ทว่ากับดวงใจ...คนเดียวที่ได้ไป...คือเธอ




จำนวนหน้า 439 หน้า
ราคา 250 บาท

*****

ทิศา อัครศาสตร์...ชายหนุ่มผู้เติบโตขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลราชบัลลังก์แห่งภูมินทร์...แคว้นเล็กๆที่เกือบจะไร้นามบนแผนที่โลก

ชะตาชีวิตพาเขาเข้าไปมีบทบาทในจุดพลิกผันทางการเมืองที่จะ 'แปรแคว้นเปลี่ยนแผ่นดิน' ในขณะที่ต้องรักษาชาติไว้จากการรุกรานของแคว้นข้างเคียง และพยายามที่จะจัดการกับเรื่องราวของหัวใจไปพร้อมกัน

เขาจะทำอย่างไร เมื่อพบว่าตนเองกลายเป็นจุดศูนย์รวมแห่งความชื่นชม ความเชื่อถือ และ...ความเกลียดชัง...

แต่...แม้ต้องผจญสิ่งใด เขารู้ว่าทุกย่างก้าวของเขาจะเป็นไปเพื่อความดี ความจริง แผ่นดิน และ...ความรัก

*****

เรื่องนี้เป็นนิยายเจ้าหญิงเจ้าชาย แบบที่เรียกกันว่า "ลิเกฝรั่ง" ก็แนวๆ มงกุฏที่ไร้บัลลังก์ เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราเขียน (แต่ไม่ใช่เรื่องแรกที่ได้พิมพ์) ค้างคาอยู่ในสต็อกคนเขียน 6 ปีหลังจากเขียนจบ เพราะสมัยก่อนไม่มี สนพ. ที่รับงานนักเขียนหน้าใหม่ในแนวนี้ แต่ในที่สุดทางพิมพ์คำก็ให้โอกาสเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่ม

เนื่องจากคนเขียนเขียนเรื่องนี้ตอนอายุ 19 (จริงๆ พยายามเขียนตั้งแต่ 15 แต่มาเขียนจริงๆ แล้วจบจริงๆ ตอน 19) ซ้ำเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนจนจบพอไปวัดไปวาได้ จึงหวังว่าคนอ่านจะให้อภัยถ้ามีความขาดตกบกพร่องอะไรในเรื่อง (แม้เรารู้ว่าอายุไม่ใช่ข้อแก้ตัวก็เถอะนะ ^^")

บ่วงบัลลังก์เป็นนิยายที่มีความทรงจำเก็บอยู่มาก ข้อใหญ่ที่สุดคือมันทำให้เรานึกถึงมิตรภาพบนอินเตอร์เนต ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจเอาเรื่องนี้ลงโพสต์ ป่านนี้เราอาจไม่มีกำลังใจเขียนนิยายจนจบได้สักเรื่อง ถ้าไม่มีบ่วงบัลลังก์ คงไม่มีคนเขียนหนังสือที่ชื่อวัสส์ในวันนี้

และที่ต้องขอบคุณที่สุดคือถนนนักเขียนพันทิป ที่เป็นก้าวแรกของการเดินทางบนถนนสายอักษรของเรา เราเดินบนถนนสายนี้มาตั้งแต่ช่วงก่อตั้งใหม่ๆ แบ็กกราวน์ยังเป็นสีดำ ยังมีคนบนถนนไม่กี่คนที่รู้จักกันด้วยมิตรภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ก่อนจะมีการนำงานจากอินเทอร์เนตมาตีพิมพ์ ก่อน สนพ. ที่บูมอยู่ทุกวันนี้จะก่อตั้งขึ้น วันนั้นไม่มีคำว่าผลประโยชน์ ทุกคนเขียน...เพราะฝันอยากจะเขียน เขียนเพื่อเขียนโดยแท้จริง

ถนนสายนั้นยังมอบความทรงจำดีๆ ให้เก็บไว้จนถึงวันนี้ ขอบคุณพันทิปที่สร้างมันขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทางเดินกันวันนั้นและกำลังใจที่มีให้

และขอบคุณคนอ่านด้วยค่ะ

*****

Excerpt



....

ชายหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดพิธีการเต็มยศตามแบบภูมินทรนครก้าวตามมหาดเล็กหนุ่มที่เดินนำล่วงเข้ามาในห้องทรงงานของเจ้าชายรัชทายาทแห่งรัชชนคร ดวงตางามจรัสคมคายคู่นั้นยามนี้มีรอยโรยและหม่นคล้ำลงเล็กน้อย บ่งบอกลักษณาการของคนที่คิดมากและพักผ่อนไม่เพียงพอ ดวงหน้าขาว...เซียวไปกว่าเคยนิดหนึ่ง หากก็ยังคงบุคลิกสะดุดตาจนคนที่มองเห็นต้องมองซ้ำ

เจ้าชายผู้ทรงเป็นเจ้าของห้องเองก็เช่นกัน พระเนตรสวยทอดจับนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจนมหาดเล็กผู้นำทางน้อมถวายบังคมและถอยกลับออกไปจึงทรงแย้มสรวลออกมาได้ พระสุรเสียงตรัสเรียบ

“ยินดีต้อนรับแขกเมืองคนสำคัญของเราสู่รัชชนคร”

ทิศาตอบคำต้อนรับนั้นเพียงด้วยการเปิดรอยแย้มน้อยๆ ที่มุมปาก เขาน้อมกายลงต่ำ งดงามถูกต้องตามแบบแผนพิธีการทุกอย่าง หากก็ยังคงไม่ต่อคำอะไรจนเจ้าของห้องทรงรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่แผ่ซ่านไปทั่วยามที่ชายหนุ่มผู้มาเยือนเอี้ยวตัวกวาดตาจับไปรอบห้อง...ที่ของทีละชิ้น และหยุดอยู่ที่ขาตั้งวาดภาพอันยึดเฟรมที่ติดกระดาษเปล่าเนื้อดีไว้อย่างประณีต แม้ดวงตานั้นมีประกายของความครุ่นคิดก็จริง...แต่ประกายนั้นยากนักที่จะอ่านอารมณ์ว่าอยู่ในแนวไหน

...ความล้าจากการเดินทาง ไม่ได้บั่นทอนความโดดเด่นของคนคนนี้ลงไปได้แม้สักหนึ่งในสิบส่วนของที่ทรงหวังเลย และความเป็นอัครศาสตร์ที่ผสมผสานอยู่ในตัวตนของทิศา ก็ฉายฉานออกมาได้แรงกว่าที่ทรงคิดไว้...

...ไม่ผิดและไม่น่าแปลกใจสักน้อยที่ภูมินทรนครเรียกคนคนนี้กลับมาดำรงตำแหน่งราชทูตในยามเกิดวิกฤตคับขัน!

รอยยิ้มที่มุมปากหยักบางของราชทูตหนุ่มยกขึ้นนิดหนึ่งยามที่เขาเอ่ยด้วยกระแสเสียงทุ้มน่าฟังออกมาเป็นคำแรกโดยที่สายตายังไม่ได้เปลี่ยนจุดมอง

“งานอดิเรกหรือพะย่ะค่ะ”

เจ้าชายทัติยะทรงพยักพระพักตร์รับ ราวกับจะรู้...ทิศาเบือนหน้ากลับมา ประกายตาพรายด้วยแววที่อ่านไม่ออก เขาทูลเรียบๆ

“กระดาษเปล่า สร้างอะไรก็ได้ทั้งนั้น เหมือนกระดาษร่างสนธิสัญญา หรือ...พระราชสาสน์”

“ได้ยินว่าท่านเชิญพระราชสาสน์มาเจริญสัมพันธไมตรี”

ถ้อยรับสั่งเป็นกลางๆ หากชายหนุ่มผู้นั้นเพียงยิ้มเย็น เขาขัดขึ้น

“พูดกันตรงๆ เถอะพะย่ะค่ะ ภูมินทร์ต้องการพันธมิตรร่วมเพื่อยับยั้งการศึกครั้งนี้”

“เมื่อท่านขอมาตรงๆ ทางเราก็จำเป็นต้องบอกไปตรงๆ ว่า เป็นไปไม่ได้ เข้าใจว่า...เราได้ปฏิเสธอย่างละมุนละม่อมไปครั้งหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ”

“พะย่ะค่ะ คงจะทรงรำคาญพระทัยที่กระหม่อมยังคงรั้นมาที่นี่เพื่อพูดเรื่องนี้อีก”

เสียงนั้นยังคงเรียบสนิท ไม่มีเค้าความผิดหวัง ประหลาดใจ หรือแม้ประชดประชัน เมื่อคำตอบจากพระโอษฐ์คือความเงียบ ทิศาจึงช้อนตาขึ้นสบพระเนตรตรงๆ เสียงเอ่ยหนักขึ้น

“กระหม่อมมายืนอยู่ที่นี่ตรงนี้ด้วยเหตุผลสองข้อพะย่ะค่ะ ข้อที่หนึ่ง กระหม่อมมาเพื่อชี้แจงว่า ข้อเสนอเกี่ยวกับพันธไมตรีจากภูมินทรนครหมายถึงผลประโยชน์ร่วมของเราสองนคร ไม่ใช่เพียงภูมินทร์ฝ่ายเดียว แต่ข้อนั้นไว้ทีหลังเถิดพะย่ะค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มจางๆ เสียงเอ่ยทูลช้าและเบาลงหากด้วยถ้อยคำที่ทำให้พระพักตร์สวยราวอิสตรีเคร่งจัดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“กระหม่อมยินดีจะรับฟังข้อเสนอจากเจ้าภาพก่อนพะย่ะค่ะ เนื่องจากนี่คือเหตุผลข้อที่สอง เหตุผลที่ว่า...รัชชนครคงจะบอกปัดคณะทูตครั้งนี้ไปเสียอย่างที่เคยตอบปฏิเสธพระราชสาสน์ ถ้าหากไม่ใช่ว่าอยากเจรจากับอัครศาสตร์ และกระหม่อมก็ยินดียิ่งที่จะกล่าวว่า...เป็นเกียรติสูงสุดที่รัชชนครให้ความสำคัญกับสกุลของกระหม่อมถึงขั้นนั้น”

กว่าจะจบถ้อยนั้นเจ้าชายทัติยะก็ทรงแย้มพระสรวลละมุน รอยเครียดถูกปัดออกจากพระพักตร์ไปแล้ว...รวดเร็ว ที่คงไว้คือพระอารมณ์รื่นเริงอย่างคำขาน พระสุรเสียงนุ่มนวลเป็นมิตรยิ่ง

“อัครศาสตร์เป็นสกุลเก่าแก่...ทรงอำนาจ เชื่อว่าใครก็คงมองข้ามไปไม่ได้ รัชชเราไม่เคยให้ความสำคัญใครเกินค่าที่เขาควรได้รับ”

“กระหม่อมยินดีที่ได้ยินอย่างนั้น” ทิศาค้อมศีรษะลงน้อยๆ ดวงตาคมยังไม่แปรอารมณ์ไปแม้สักนิด...ไม่มีแม้ร่องรอยภาคภูมิหรือแม้ความยินดีผุดขึ้นมาอย่างที่ปากว่า

...หากแม้นเจ้าตัวจะไม่เก็บงำ...มันจะฉายร่องรอยอะไรขึ้นมาก็สุดรู้... จะมองหมิ่นเหยื่อเล็กๆ ที่เกี่ยวไว้กับเบ็ดนั้นหรือไม่หนอ

...คำยกยอ...ยังไม่ใช่จุดอ่อนของคนคนนี้!

เจ้าชายทัติยะยังทรงเก็บพระราชดำรินั้นไว้เงียบงันเช่นกัน ที่ทรงแสดงออกเพียงตรัสเรื่อยต่อเนื่องกันไป

“ท่านมองถูกแล้ว เราเชิญท่านมาที่นี่ เพราะอยากเจรจาเรื่องการผูกสัมพันธไมตรีกับภูมินทรนครที่ต้องชะงักไปเพราะสงคราม”

“ยังไม่มีอะไรยับยั้งมันพะย่ะค่ะ เพียงแต่...สงครามอาจทำให้ความปลอดภัยบางอย่างง่อนแง่นไปบ้าง...”

ดวงตาคมที่มองตรงมาทำให้ทรงพระพักตร์ชาไปนิด หากก็วูบเดียว...

...ยังกล้าถากถาง ยังกล้ามองมาด้วยสายตาท้าทายแบบนั้น...นี่หรือคนที่จะมางอนง้อขอเจริญสัมพันธไมตรี? กล้านักจนผิดปกติ...ราวกับแอบซ่อนไพ่เหนือมือบางตัวไว้!

เสียงปนยิ้มหยุดพระราชดำรินั้นลง

“กระหม่อมเพียงพูดไปตามความสัตย์พะย่ะค่ะ อย่าทรงลืมว่าตอนนี้กระหม่อมเจรจาในฐานะอัครศาสตร์ แม้ในสายตากระหม่อม ภูมินทร์เวลานี้ก็ไม่ปลอดภัยที่ใครจะเข้าไปผูกพันด้วยจริงๆ กระหม่อมจึงสงสัยว่า ที่รับสั่งเรื่องสัมพันธไมตรีสักครู่นี้...คงไม่ใช่ระหว่างประเทศต่อประเทศเป็นแน่”

ผู้ทรงดำรงพระยศเจ้าชายรัชทายาทแห่งรัชชนครทรงผงกพระเศียรลงช้าๆ อย่างยอมรับ ประกายในพระเนตรบอกความเชื่อถือและพึงพระทัยในตัวคนตรงหน้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก

“ถูกต้อง เป็นสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ต่อราชวงศ์”

“ไม่ผูกมัดและไม่เกี่ยวข้องกับกองกำลังทหารโดยตรง ในฐานะนั้นรัชชก็ไม่เสี่ยง...ใช่ไหมพะย่ะค่ะ”

คนพูดเว้นระยะนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่ออย่างจะหยั่งท่าที “...แต่ในเมื่อเป็นเรื่องระหว่างราชวงศ์ต่อราชวงศ์ อัครศาสตร์ก็ไม่มีส่วนพัวพันอะไร...”

คำพูดนั้นส่งผลเพียงให้เสียงสรวลดังขึ้นนิดหนึ่ง...นุ่มนวลน่าฟัง

“ถึงเมืองหลวงของภูมินทร์กับรัชชจะไกลกันสักหน่อย แต่ที่นี่...เราก็พอจะได้ยินข่าวเล่ามาบ้าง...เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างท่านกับเจ้าหญิงพระขนิษฐา”

“ไม่เป็นทางการนี่พะย่ะค่ะ” แววตาพรายนั้นสบนิ่งเหมือนจะท้าทายและยั่วยิ้ม รอยแย้มสรวลของเจ้าชายจึงกว้างขึ้น

“แต่ท่านคงไม่ปฏิเสธว่าความคาดหวังของคนในระดับสูงนั้นค่อนข้างเป็นทางการ เพราะฉะนั้นตราบใดที่เจ้าหญิงปฐมาเทวีหรือตัวท่านเองยังไม่ปฏิเสธฐานะที่คาดหมายนั้น ข้อเสนอจากรัชชนครก็ไร้ค่าไปโดยปริยาย”

“และกระหม่อมจะปฏิเสธเพื่อ?” รอยยิ้มอ่อนไม่จางไปจากใบหน้าสักนิดแม้หัวใจจะกระตุกเมื่อความคิดโยงไปหาคนที่อยู่ไกล...

...ภควดี...

...จนบัดนี้เขายังไม่มีโอกาสพบหล่อนหรือฟังข่าวเกี่ยวกับหล่อนสักนิด...ความเร่งด่วนฉุกละหุกของเหตุการณ์ทำให้เขาต้องรีบร้อนออกจากแผ่นดินภูมินทร์แทบจะทันทีที่พิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งราชทูตเสร็จสิ้น เอกสารทุกชิ้นเกือบจะต้องมาอ่านรายละเอียดเอาบนรถยนต์ด้วยซ้ำ

...หล่อนจะเป็นอย่างไรบ้าง...ข่าวที่โกเมนปิดเขา...

...อย่าร้ายแรงนักเลย...จะปัญหาอะไรก็ตาม ขอเพียงให้อยู่ในวิสัยที่เขาจะแก้ได้เท่านั้น...แม้ยากเย็นเพียงไรทิศาสาบาน...เพื่อหล่อน

...เขาจะทำ!

....





Create Date : 23 กันยายน 2548
Last Update : 3 พฤษภาคม 2550 11:31:14 น. 22 comments
Counter : 1494 Pageviews.

 
ชอบปกจังค่ะ ... เคยเห็นเรื่องนี้แวบๆ ในเน็ต แต่ไม่ได้ตามอ่าน ปกติไม่ได้อ่านแนวเจ้าชายเจ้าหญิงเท่าไหร่ แต่ชอบสำนวนคุณวัสส์จังค่ะ จะติดตามนะคะ ^ ^


โดย: bookmark (bookmark ) วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:11:59:50 น.  

 
หน้าปกน่ารัก คำโปรยยิ่งแล้วใหญ่ อ๊า.... จดลงลิสๆๆ อิอิ


โดย: ไข่หวาน (ทะเลหวาน ) วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:19:20:47 น.  

 
สวัสดีค่ะวัสส์

เราไปอีสานมา และเพิ่งได้อ่านหนังสือของวัสส์ล่ะ (แซซ๒) เพื่อนร่วมทางให้ยืมอ่าน (เราอ่านรวดเดียวจบเลย)

อ่านแล้วรู้สึกดีแฮะ เข้าทางเราด้วย ก็เลยว่าจะไปหาภาค ๑ จากงานสัปดาห์หนังสือฯ มาอ่านล่ะค่ะ


อ่านแล้วจะมาคุยด้วยอีกทีนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:18:12:17 น.  

 
อ้อ...ว่าแต่แซซจะมีขายที่บู๊ทของสนพ.ไหนอะคะ?


จะได้ตรงดิ่งไปได้ถูก
(ตั้งใจลิสต์รายชื่อหนังสือ แล้วเดินตรงไปซื้อให้ครบก่อน แล้วค่อยเดินดู

เพราะขืนเดินดูไปเรื่อยๆ เงินหมดก่อนจะซื้อที่อยากได้ครบทุกทีเลย)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:18:18:53 น.  

 
bookmark @ วัสส์ชอบปกเล่มนี้เหมือนกันค่ะ ดูอ่อนหวานแถมสีสวยโดนใจ ปิ๊งๆ (แพ้โทนสีแบบนี้เป็นทุนเดิม) ขอบคุณมากๆ นะคะที่จะติดตาม ^^

ไข่หวาน(ทะเลหวาน) @ อิอิ ขอบคุณเหมือนกันค่า

สาวไกด์ใจซื่อ @ ดีใจค่ะที่มีคนอ่านแซซเพิ่มอีกคน ^^ ชอบไม่ชอบตรงไหนติติงมาได้เต็มที่นะคะ ส่วนเรื่องบูธในงานหนังสือ แซซมีขายที่บูธสถาพรบุ๊คส์-พิมพ์คำ คือบูธเดียวกับหนังสือเล่มข้างบนนี่แหละค่ะ อยู่โซนซีชั้นล่าง หมายเลขบูธ O37 (ถ้าจำไม่ผิดอะนะคะ แหะๆ)

แล้วมาคุยกันใหม่นะคะ


โดย: วัสส์ IP: 202.183.189.41 วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:19:18:59 น.  

 
เป็นแฟนหนังสือแจ่มใสอ่ะครับ พอดีเข้าบล็อกพี่นี ก็เลยเห็นบล็อกของพี่วัสส์
สารภาพว่า อ่านหนังสือของพี่วัสส์ไม่เยอะเท่าไหร่อ่ะครับ ส่วนใหญ่จาเป็นความรู้สึกดีฯ และ มิติดวงใจฯอ่ะครับ (ซื้อพิมพ์ครั้งที่ 1 ด้วย)

ถ้าจำไม่ผิด พี่วัสส์แต่งเรื่อง เพียงสายลม ในความรู้สึกดีฯ เล่ม 1 ป่ะครับ? ถ้าใช่ก็อยากจะบอกว่า เรื่องนี้ยูชอบมากๆเลยอ่ะครับ พี่วัสส์ :)

ไว้จะเข้ามาอ่านบล็อกใหม่นะกั๊บ


โดย: qu-up IP: 61.91.150.56 วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:21:41:54 น.  

 
ใช่จ้า พี่แต่งเพียงสายลม ขอบคุณมากๆ ที่ชอบและอุดหนุนหนังสือนะ ^^

เป็นแฟนแจ่มใส งั้นช่วยอุดหนุนรอยใจในม่านฝนหน่อยสิคะ (ฮา) ออกในงานหนังสือนี้กับแจ่มใสจ้า พี่ใช้นามปากกา ชลาริน

แล้วเข้ามาคุยกันใหม่น่อ


โดย: วัสส์ วันที่: 28 กันยายน 2548 เวลา:5:20:50 น.  

 
จะตามไปซื้อเล่มนี้แน่นอนค่ะ รอมาสองปีแล้ว (ตั้งแต่อ่านครั้งแรก) ชอบมากๆๆ เลยค่ะ


โดย: taftie IP: 128.36.59.45 วันที่: 29 กันยายน 2548 เวลา:9:14:38 น.  

 
จบเศร้าหรือเปล่าคะ


โดย: P IP: 202.28.35.244 วันที่: 4 ตุลาคม 2548 เวลา:21:07:45 น.  

 
เคยอ่านเมื่อตอนพี่วัสส์โพสต์ไว้ในเน็ตค่ะ แต่เมื่อวานไปเปิดๆดูในงานแอบเห็นว่าตอนจบไม่เหมือนที่เคยอยู่ในเน็ตรึเปล่าคะ?

ป.ล. ปกสวย อยากได้มากๆเลย แง่มๆ


โดย: fruit salad IP: 61.90.20.62 วันที่: 16 ตุลาคม 2548 เวลา:16:39:58 น.  

 
อิอิ เพิ่งได้เข้ามา
ชอบเรื่องพี่วัสส์มากเลยคร่า
ได้อ่านเรื่องสั้น เก็บรักไว้ในสายหมอก
และก็ลมรักฤดูฝน ชอบมากเลยคะ
แล้วก็ได้มาอ่าน มิติดวงใจ ในห้วงฝัน
เรื่องนี้หายากส์มาก กว่าจะได้มา
พอได้อ่านแล้วคุ้มกับที่หามานานเลย
แนวเรื่องไม่เหมือนใคร แล้วเขียนตัดเหตุการณ์ได้ดี
สำนวนเหมือนของแนวนี้เลย...
แต่เรื่องรอยใจในม่านฝนซื้อมาแล้นนนนน
จากงานหนังสือ ยางม่ายได้อ่านเลยยยยย
เพราะซื้อหนังสือมาเยอะมาก ทยอยอ่านอยู่
บ่วงบัลลังก์ กำลังจาซื้อเลย รอก่อนน้า
อ้อ มีอีกเรื่อง ในห้วงคีตา อันนี้ชอบตอนจบที่สุดเลย
อึ้งมาก เป็นกำลังใจให้พี่วัสส์ต่อไปนะคะ


โดย: YUI - MUNMOO IP: 203.154.97.197 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:48:11 น.  

 
มาแวะเยี่ยมหลังจากหายไปนานค่ะ

ได้ "แซซ" เล่ม ๑ มาตั้งแต่งานหนังสือเดือนตุลาฯ ค่ะ แต่กำลังทยอยๆ อ่านอยู่

เดี๋ยวได้อ่านจบแล้วจะมาคุยด้วยตามสัญญานะคะ


ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน คนเปื่อยเยอะเลย

ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:26:09 น.  

 
ชอบหนังสือที่วัสส์เขียนนะจ๊ะ..
ที่มีอยู่ตอนนี้ก็แซซ 1 กะ แซซ 2 ส่วนบ่วงบัลลังก์กำลังตัดสินใจจะซื้อน่ะ..

ชอบอ่านแนวเจ้าหญิง เจ้าชาย แฟนตาซี เวทมนต์ พ่อมดแบบแซซ 1 นั่นแหละ.. อยากให้ทำเล่ม 3 ออกมา แต่เป็นเรื่องของแซซตอนแต่งงาน+หลังแต่งงาน+มีลูก มากๆ
รู้อยู่เหมือนกันว่าวัสส์คงไม่แต่ง เห็นบอกจะแต่งตอนอื่นๆ ก็ไปอ่านมาแล้ว แต่ไม่รู้สิ มีความรู้สึกว่า แซซ 1 มันจบแบบไม่สมบูรณ์ มันค้างๆคาๆยังไงไม่รู้สิ.. อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีบทหวานๆระหว่างพระเอก-นางเอกก็ได้มั้ง.. โดยเฉพาะตอนจบ น่าจะสวีทหน่อย.. เป็นพวกชอบหวานน้ำตาลขึ้นสมองน่ะ..
แต่จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ.. ขอเป็นกำลังใจให้จ้า..


โดย: หนึ่งเอง (",) IP: 61.90.78.148 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:43:50 น.  

 
แฮะ รอผลงานของพี่อยุ่คะ ตอนนี้หนูก็มีหนังสือที่พี่เขียนหลายเล่มแล้วคะ แต่เป็นของสำนักพิมพ์แจ่มใสคะ แล้วพี่มีเขียนของสำนักพิมพ์อื่นหรือเปล่าคะ .....


โดย: ชาจัง IP: 58.9.52.193 วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:22:25:53 น.  

 
เรื่องนี้ซื้อมาแล้ว อ่านแล้ว สนุกค่ะ ตัวละครแต่ละตัวมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองดี
แต่แหมสงสัยตัวเราจะหัวโบราณไปมั๊ง คือตอนแรกอ่านไปอยากให้ทิศากลับมาช่วยภควดีทันก่อนไปเป็นพระสนมน่ะค่ะ แบบไม่อยากให้นางเอกด่างพร้อย แต่คำพูดของนางเอกที่ว่าตัวเองเป็นของมือสอง (ประมาณนี้ค่ะ) แล้วพระเอกบอกว่า นางเอกไม่ใช่สิ่งของ (ประมาณนี้น่ะค่ะ) รู้สึกประทับใจดีค่ะ
แล้วก็ไม่อยากให้นายิกาตายเพราะรู้สึกสงสาร แต่พอมาตอนจบอ่านแล้วก็เข้าใจว่าควรจะเป็นอย่างในหนังสือ เพราะมันมีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น น้ำตาแทบร่วงน่ะค่ะ
ตอนนี้กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเพลิงตะวัน ดีหรือเปล่า แต่คิดว่าคงเสียเงินแน่เลย เพราะว่าคงไม่ผิดหวังแน่ค่ะ


โดย: pumpam IP: 58.10.102.179 วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:11:01:57 น.  

 


โดย: online IP: 66.97.174.196 วันที่: 30 มีนาคม 2549 เวลา:0:14:17 น.  

 


โดย: levitra IP: 66.97.172.37 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:1:08:23 น.  

 
จำได้ว่า แซซได้มาด้วยความที่หน้าปกโดนใจ...พอเห็นปลายฝันฯกันรีบตะครุบ ส่วนบ่วงบัลลังก์อ่านโปรยหลังแล้วชอบใจ

ไม่เคยผิดหวังกับนิยายของพี่วัสส์...บ่วงบัลลังก์ ขึ้นแท่นเรื่องโปรดไปแล้ว

คม คม คม คม คม! ไม่เคยเจออะไรที่คมเชือดเฉือนแบบนี้ ฮือ นับถือๆ


โดย: เกาลัด IP: 124.120.97.239 วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:06:04 น.  

 
ได้อ่านแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังอ่านอยู่
พี่วัสส์ค่ะ ทำไมถึงให้ ทิศา รัก ภควดี ล่ะค่ะ

ปฐมา น่าสางสารสุดใจ พี่วัสส์ใจร้าย

แต่ยังอ่านไม่จบเลย
ชอบทิศามากมาย ขนาดคนอ่านยังหลงรัก ><


โดย: nabilaloves@hotmail.com IP: 124.157.216.244 วันที่: 8 ตุลาคม 2549 เวลา:7:41:17 น.  

 
จำได้ว่าเคยอยู่ในเน็ตและเคยตามอ่าน แต่ความจำจำกัดเลยจำเรื่องราวไม่ได้แล้วค่ะ ^ ^"


โดย: Penny(Peanut) IP: 58.8.163.21 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:54:48 น.  

 
ถ้าหากให้เลือกเพลงที่เข้ากับเรื่องนี้ คงต้องยกให้เพลง แว่ว เวอร์ไทย บทเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง
ยิ่งตอนท้ายเรื่อง บทของนายิกากับศิขะนี่ ฟังเพลงไปอ่านไปบรรยากาศทำเอาจะร้องไห้ TT TT แหมมีost ดีๆซะแล้วซิเนี่ย(?)


โดย: black majeky IP: 203.118.80.6 วันที่: 1 เมษายน 2550 เวลา:21:06:24 น.  

 
ถึงจะอ่านมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยเพิ่งออกวางขาย แต่อยากบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งในบรรดาหนังสือที่ชอบมากที่สุดค่ะ อ่านกี่ทีกี่ทีก็รักเรื่องนี้เหมือนเดิม


โดย: modern IP: 58.9.148.253 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:52:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัสส์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]






ฝากนิยายแปลเล่มล่าสุดด้วยนะคะ Dexter Is Delicious ออกกับแพรวสำนักพิมพ์ค่ะ


Friends' blogs
[Add วัสส์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.