One Drop of Dhamma ....หนึ่งวันพระนี้ ที่ไกลบ้าน
ตั้งนโมสามจบอย่างนบนอบ บุญประกอบวางลงตรงเบื้องหน้า ศรัทธามั่นเพียรทำน้อมนำมา เดินช้า ช้าก้าวย่าง..อย่างตั้งใจ
One Drop of Dhamma
ในหยาดหยดรสพระธรรม เป็น หนังสือธรรมะ เล่มเล็กๆ ที่ เป็น ดั่งกัลยาณมิตร ถ้อยคำ และ ความหมาย ลึกซึ้ง ชวนให้ คิด เป็น หยาดหยด ที่ แสนชื่นฉ่ำใจ ในยามใคร่ครวญ ถึงความจริงแท้ ที่สัมผัสและเรียนรู้ .... จาก ...ธรรมชาติของสรรพสิ่ง สรรพสิ่งที่ เป็น ดั่ง ครูผู้สอนชีวิต
มิใช่เพียง สิ่งที่ได้พบได้เห็น ด้วยดวงตา แต่ด้วยใจ ที่ไป สัมผัส จิตที่กระทบ สติที่ไหวเอน หรือคงมั่น .... เรียนรู้ จวบจน ถึงวันที่ ไม่มี ภพชาติ เป็นแดนเกิด
ถ้อยคำ ต่อไปจากบรรทัดนี้ มาจาก หนังสือเล่มน้อย หยาดหยดรสพระธรรม โดย คุณกำธร เก่งสกุล ซึ่งผู้เขียน ร้อยเรียงขึ้นมาจาก ความคิดอันตกผลึกของจิตดำริธรรม แม้ถ้อยคำนี้ ประกายดาวว่าช่างลึกซึ้งนัก เมื่อหัวใจแห่งห้วงเรียนรู้ ตกผลึก เพื่อ แบ่งปัน หยาดพระธรรมหยดเล็กๆ
เป็นความจริงแท้ค่ะ หยาดพระธรรม จาก
พระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หาใช่น้ำค้าง ยามอรุณ ที่หยดหยาดมาแล้วเหือดแห้ง แต่หยาดธรรมนั้น หยาดหยดลง กลาง ใจ แห่งความเข้าใจ กลางจิต ที่เข้าใจคุณค่าแห่งการเกิด และ การเรียนรู้โลก แจ้ง
คลื่นชีวิต
...ชีวิต คือ ภาพเงาที่เคลื่อนไหว ไปบนกระแสคลื่นแห่งกาลเวลา
เพลงธรรม
เครื่องดนตรีชิ้นเดียวกัน จะบรรเลงให้ไพเราะหรือหวานซึ้ง เศร้าสลดหรือน่าเบื่อเพียงใด อยู่ที่ใจผู้บรรเลง
ผู้สอนธรรมะ...ธรรมะ ทั้งหมด มีอยู่แล้วในต้นไม้ เพียงหนึ่งต้น หากคิดให้แยบยล ก็จะค้นพบธรรม....
สิ่งที่ไม่อาจแยกจากกัน ไม่มีอะไรแนบเนียนเท่าธรรมชาติอีกแล้ว ใครสามารถตอบได้ว่า อะไรคือรอยต่อระหว่าง กลางวันกับกลางคืน ความสุขกับความทุกข์ ความเจ็บปวดกับการเยียวยา การเกิด กับ ความตาย มันแนบเนียนประดุจว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อมีสิ่งแรก ย่อมมี สิ่งที่สองติดตามมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว แต่มนุษย์ผู้รับมรดกแห่งความแบ่งแยก พยายมแตกมันออกจากกันแย่งสิ้นเชิง ผลพวงที่ตามมาก็คือ การไข่วคว้าหาความสุขเพียงอย่างเดียว ทั้งๆ ที่โดยธรรมชาติแล้วมันเป็นไปไม่ได้ เพราะ มันไม่มีสิ่งนั้น อย่างโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เริ่มแล้ว หากแต่กิเลส ในใจคน ไปกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน ของสิ่งต่างๆ ขึ้นมาเอง
น้ำตาเทียนเกิดอย่างไร ...น้ำตาในก็เช่นกัน เมื่อกิเลสจุดติดใจ......... น้ำตาในจึงเอ่อท้น โดย
กำธร เก่งสกุล ในหยาดหยดรสพระธรรม
|
สำหรับประกายดาว แม้ทุกวันคืนที่ล่วงไป เป็นเพียง วันคืนที่สติ มีไว้ให้ตามรู้ แต่ ในทุกวันพระ ประกายดาวอดรู้สึกถึง ความงดงามใน ทุกข้อธรรม คำสั่งสอน ที่ หยั่งลง อย่างพิเศษ ไม่ได้
การได้ ระลึก เช่นนี้ ประกายดาวถือเป็นความคุ้นเคย เป็นความสุข ในการระลึกถึง อย่างพิเศษ ไม่ใช่ ความรัก ความชัง ความอาลัย หวลไห้ ความโกรธ โมหะ โทสะ หรือ ความหม่นเศร้าแห่งจิตจะเข้ามาพัดพา
แต่เป็นความ สุขในการระลึกถึง กุศล มีแรง เมตตา เป็น ลมพา ความปรารถนาดี ที่มีต่อกัน ฉัน เพื่อนร่วมสังสารวัฏ จบจน หมด หน้าที่ แห่ง กรรม อันมี ภพชาติเป็นกำเนิด .....
สุขกาย เย็นฉ่ำใจ ในทุกกุศลธรรม สาธุการ ....ก้องฟ้า ร่วมกัน นะคะ
บล๊อก ล่าสุด หยุดพัก ทักทายตัวเอง
คลิกที่นี่ค่ะ
Create Date : 24 เมษายน 2550 |
|
45 comments |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 8:12:25 น. |
Counter : 918 Pageviews. |
|
|
|