ดูทีวีออนไลน์ ดูทีวีย้อนหลัง ละครย้อนหลัง ช่อง 3 5 7 9 True AF8
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 

กสิกรฯคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งตัว จับตาผลประชุมธ.กลางสหรัฐ , ทุนต่างชาติพร้อมวิ่งเข้าไทย หลังฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ลดช่วงบวกลง จากแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,034.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.45% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 10.94% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 27,676.59 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 272.45 จุด เพิ่มขึ้น 3.04% จากสัปดาห์ก่อน


ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในวันอังคารและพุธ จากความคาดหวังในเชิงบวกต่อการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU Summit) ในช่วงปลายสัปดาห์ และการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี แต่ดัชนีปรับลงช่วงท้ายสัปดาห์ ตามตลาดหุ้นภูมิภาค จากแรงขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป


สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีอาจยังแกว่งขึ้นต่อ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ LTF และ RMF แม้คงจะมีแรงขายทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ คงจะต้องติดตามผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (13 ธ.ค.) สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก การผลิตอุตสาหกรรม และตัวเลขเงินเฟ้อ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,029 และ 1,014 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,065 และ 1,078 จุด ตามลำดับ

------------------------

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กรณีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ หรือเอสแอนด์พี ระบุจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือของสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ นั้นจะส่งผลให้เงินทุนไหลมายังภูมิภาคเอเชียมากขึ้น เนื่องจากไม่มีตลาดให้ผลตอบแทนดีและมีความมั่นคงเหลืออยู่มากนัก ไทยก็เป็นหนึ่งในภูมิภาคนี้ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ตลาดตราสารหนี้ของประเทศไทยยังมีช่องว่างเหลืออีกมากสำหรับเงินลงทุนจากต่างชาติ ปัจจุบันสัดส่วนตราสารหนี้ถือโดยนักลงทุนต่างประเทศมีประมาณ 9% ของตราสารหนี้ทั้งหมด ยังเพิ่มได้อีกมาอยู่ระดับไม่เกิน 15% ถือเป็นสัดส่วนเหมาะสมของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากหากถือครองมากกว่านี้ หากซื้อขายในปริมาณมากจะส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้ได้

"ตอนนี้ตลาดไม่มีที่ไป ทั้งยุโรปและสหรัฐนักลงทุนไม่ค่อยอยากลงทุนนัก ต่างชาติยังสนใจตลาดตราสารหนี้ของไทยและมีช่องว่างเหลือให้ลงทุนอีก แต่ขึ้นอยู่กับอันดับเครดิตของตราสารนั้นๆ ด้วย และข้อจำกัดอื่นๆ ของนักลงทุนต้องกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนอย่างเหมาะสม"Ž นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างการออกตราสารหนี้ของไทยในปัจจุบันนั้นบทบาทหลักยังคงเป็นของภาครัฐ สบน. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ มูลค่าพันธบัตรทั้งหมดการออกโดยภาครัฐถึง 75% ที่เหลือเป็นภาคเอกชนถือ 25% เท่านั้น ดังนั้น สบน.จะผลักดันสัดส่วนการออกตราสารหนี้ระหว่างรัฐและเอกชนให้เหมาะสม 50% เท่ากัน อันดับเครดิตของหุ้นกู้ออกโดยเอกชนนั้นล้วนมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ A ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2555 สบน.มีแผนการก่อหนี้อีก 8 แสนล้านบาทโดยรวม ทั้งการชำระคืนหนี้เก่าและก่อหนี้ใหม่ แบ่งเป็นพันธบัตรอ้างอิงทุกอายุและพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อจำนวน 4 แสนล้านบาท ตั๋วสัญญาใช้เงิน 1.25 แสนล้านบาท ตั๋วเงินคลัง 6.5 หมื่นล้านบาท พันธบัตรดอกเบี้ยลอยตัว 5 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์อีก 1 แสนล้านบาท ตลาดยังมีความต้องการพันธบัตรอยู่อีกในปริมาณสูง

ปริมาณพันธบัตรออกโดยรัฐบาล 8 แสนล้านบาทนั้น มีความต้องการซื้อมากกว่าถึง 1.2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะเงินจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งประกันชีวิต ประกันสังคม และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ต้องการซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปี 20 ปี 30 ปี และ 50 ปี สบน.จะทยอยออกเพื่อตอบสนองตลาดŽ นายจักรกฤศฏิ์กล่าว




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2554
0 comments
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 15:56:32 น.
Counter : 404 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ตุ้งแง่ว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ตุ้งแง่ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.