หอการค้าเร่งชงยุทธศาสตร์น้ำให้ "ปู" จี้ผุดแผนฟื้นฟูประเทศ-คาดจีดีพีปีหน้าโตแค่5%
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวเปิดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 ที่ จ.ระยอง ในหัวข้อรวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน ว่าจะมีการระดมสมองภาคเอกชนทั้งหมด เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์น้ำขึ้นมาและเสนอให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำไปเสนอน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาและนำไปใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ วิกฤตอุทกภัยกระทบเศรษฐกิจไทยหนักกว่าที่คาดไว้ เกิดความเสียหายมากกว่าแสนล้านบาท สิ่งที่ต้องเร่งทำคือ การจัดทำแผนฟื้นฟูประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้ง นักลงทุนต่างชาติและในประเทศ เพราะหากเกิดการย้ายฐานลงทุนต่อเนื่องจะกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมองว่าการ ส่งออกปี 2555 กว่าจะกลับมาฟื้นตัวเดินหน้ากำลังการผลิตได้เต็มที่ประมาณไตรมาส 2 และจะทำให้การส่งออกไทยปีหน้าขยายตัว 5-10% เท่านั้น ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีหน้ามองว่าเติบโต 5% ไม่ถึง 7% อย่างที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้
สำหรับภารกิจเร่งด่วนที่หอการค้าไทยจะสานต่อ คือการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งรูปแบบการทำงานจะเน้นเชิงรุก โดยมีการติดตามโครงการที่เสี่ยงต่อการทุจริตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้งบประมาณ 8 แสนล้านบาท เยียวยาและฟื้นฟูประเทศของรัฐบาล เพราะการเกิดคอร์รัปชั่นจะทำให้การฟื้นฟูผลกระทบจากน้ำท่วมยิ่งล่าช้า ส่งผลเสียต่อประเทศในระยะยาว ซึ่งหอการค้าไทยจัดตั้งภาคีเครือข่าย 34 องค์กร ไว้คอยร่วมติดตามสอดส่องแล้ว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวสัมมนาเชิงปฏิบัติการหัวข้อยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหลังวิกฤตน้ำท่วม ว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมาเป็นหลักในการกำหนดแผนดังกล่าว เนื่องจากในปี 2555 อาจมีโอกาสเกิด น้ำท่วมอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมารองรับอย่างไรบ้าง
ในส่วนนี้ศสช.ได้กำหนดแผนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนและการประเมินความเสียหายจะต้องดำเนินการอีกครั้งหลัง น้ำลด ซึ่งคาดว่าจะเสียหายมากกว่าที่ธนาคารโลกประเมินไว้ที่ 1.3 ล้านล้านบาท รัฐบาลจึงต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจปีหน้าและหากภาคการผลิตกลับมาไม่ต่ำกว่า 80% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2555 คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก
นายวีระ รัตนศิริกุลชัย ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 กล่าวว่า เท่าที่ติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลพบว่าไม่มีความต่อเนื่องและไม่ควรฝากอนาคตไว้ที่การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน เพราะที่ผ่านมา ล้มเหลวและปัจจุบันน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในภาคเหนือตอนล่างคือเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ยังมีเหลืออยู่กว่า 98% ของความจุเขื่อนที่ต้องระบายน้ำออกมากกว่า 4,500 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีการระบาย ในปี 2555 ถ้ามีพายุเข้ามาในประเทศไทยอีกจะทำให้น้ำท่วมใหญ่อีกครั้งแน่นอน
Create Date : 11 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 18:08:08 น. |
Counter : 497 Pageviews. |
|
|
|