โบรกแนะเก็งกำไร 18 บจ.ขาขึ้น ดัชนียังคงผันผวน MSCI ประกาศปรับพอร์ตหุ้น 15 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ค่าเงินบาท  แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 30.71 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดวันนี้หุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวน โดยมีลุ้นทดสอบ High เดิมที่ระดับ 1214 กันอีกรอบ เน้นเก็งกำไร 18 หุ้นเด่น ได้แก่ THAI, CWT, SCB, PTTGC, BEC, MCOT, WORK, GRAMMY, RS, SAT, CPF, SIRI, BGH, ADVANC, TVO,STEC, HEMRAJ และ AMATA  

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : ทดสอบ 1214 กันอีกรอบ  กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรต่อ 

มองตลาดหุ้นไทยยังคงเทรดใน Sentiment เชิงบวกได้ต่อ โดยน่าจะมีการขยับขึ้นทดสอบ High เดิมที่ระดับ 1214 กันอีกรอบ หลังจากทดสอบมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ โดยได้แรงหนุนระยะสั้นตามการดีดตัวของตลาดหุ้นสหรัฐจากผลประกอบการที่ดีของ Amazon และ Expedia Inc. แม้ว่าจีดีพี 1Q55 ที่ออกมา 2.2% จะแย่กว่าที่คาด 2.5% หลังการขยายตัว 3.0% ใน 4Q54 ก็ตาม อีกทั้งการกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งของต่างชาติจะเป็นแรงหนุนได้อีกทาง ทั้งนี้ การมีวันหยุดคั่นระหว่างกลางในวันพรุ่งนี้และการรอการประชุมกนง.ในวันพุธอาจทำให้แรงซื้อไม่เต็มที่ เพราะมีบางส่วนยังรอดูสถานการณ์

กลยุทธ์การลงทุน : ยังเก็งกำไรต่อ และต่อเมื่อยืนเหนือ 1214 อย่างแข็งแกร่งค่อยพิจารณาขยับเพิ่มพอร์ต แนวต้าน : 1214-1220 แนวรับ : 1203-1195

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, SIRI, BGH, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : GLOW

หุ้นที่แนะนำ :1. TVO ปรับประมาณการขึ้น FV 25.75 บาท กรอบเทรดระยะสั้นมองต้าน 25 บาท รับ 22 Cut loss 20 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ SET มีโอกาสแกว่งผันผวนและวอลุ่มซบเซา จะเทรดดิ้งจึงรอช่วงอ่อนลงได้

กลยุทธ์: ดังนั้นช่วงนี้ถ้าจะหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อ เราจึงยังแนะนำให้รอช่วงตลาดอ่อนตัวลงดีกว่า ขณะเดียวกันช่วงตลาดบวกขึ้นยังน่าจะมองหาจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงบ้าง สำหรับหุ้นที่น่าสนใจช่วงนี้ นอกจาก SCB ที่เราปรับคาดการณ์กำไรขึ้นเพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง ด้วยราคาเหมาะสมใหม่ที่ 166 บาท และ PTTGC ที่คาดกำไร 1Q12 จะดีขึ้นสู่ภาวะปกติ โดยมีราคาเป้าหมาย 75 บาทแล้ว ยังสามารถเก็งกำไรหุ้นกลุ่มบันเทิง (BEC, MCOT, WORK, GRAMMY และ RS) จากข่าวการเตรียมเปิดประมูล ทีวีดิจิตอล จากทาง กสทช.ในช่วงปลายปีนี้ 2 ช่อง ซึ่งแม้ว่ายังเร็วเกินไปและไม่มีข้อมูลมากพอที่จะประเมินผลบวกที่จะได้รับ แต่คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรตามข่าวได้

หุ้นเด่นทางเทคนิค   THAI, CWT, SC (SBL)

แนวโน้ม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2012 ของสหรัฐออกมาไม่ได้ผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากนัก ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทเอกชนทั้งในสหรัฐและยุโรปยังช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังสามารถปิดเป็นบวกได้ แต่ก็ถือว่ากรอบการขยับขึ้นยังค่อนข้างจำกัด และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียช่วงต้นสัปดาห์นี้จะมีหลายประเทศติดวันหยุด ซึ่งรวมถึงบ้านเราในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.) ด้วย ทำให้คาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ก่อนตัดสินใจในการเลือกหุ้นเข้าซื้อ ดังนั้น FSS คาดว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่ไม่กว้างมากนัก และมูลค่าการซื้อขายน่าจะค่อนข้างซบเซา เพื่อรอปัจจัยกระทบใหม่ๆ ที่จะมีเข้ามาในตลาดอีกครั้งหลังช่วงวันหยุด

แนวรับ  1205-1200 , 1196-1194  จุด    แนวต้าน  1214-1215 , 1218-1222  จุด

KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันจันทร์จะบวกในกรอบแคบๆ ระหว่างเทรดมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับวันศุกร์ แต่ไม่ชัดเจนว่าจะยืนได้หรือไม่ แรงหนุนสินทรัพย์ทางการเงินมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน หลังจากสหรัฐฯ รายงานจีดีพีไตรมาส 1/2555 โต 2.2% เทียบกับไตรมาส 4/2554 (เทียบรายปีปรับฤดูกาล) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5% และทำให้ตลาดกลับมาพูดที่ QE3 อีกครั้งส่งผลให้เงินดอลล่าร์ฯ อ่อนลงพอควร นอกจากนี้แม้ว่าสเปนจะถูกลดเรทติ้ง 2 ขั้นจาก S&P เมื่อเช้าวันศุกร์ แต่ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสเปนยังคงต่ำกว่า 6% และไม่ได้กดดันตลาดหุ้นยุโรปแต่อย่างใด แม้เราคาดว่าหุ้นจะบวกได้ในวันนี้ แต่สัปดาห์นี้ความเสี่ยงสูง เนื่องจากสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขสำคัญสำหรับเดือน เม.ย. และอาจทำให้ความคาดหวังต่อ QE3 เปลี่ยนอีก โดยข้อมูลสำคัญมีดัชนี ISM ในวันอังคาร, ISM ภาคบริการในวันพฤหัสฯ และตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์ ขณะที่ฝั่งยุโรปจะมีประชุม ECB ในวันพฤหัสฯ เช่นกัน ภาพรวมตลาดขณะนี้ยังคงมองว่าผันผวนมากและไม่คุ้มเสี่ยงจะซื้อหุ้นขนาดใหญ่

กลยุทธ์: ยังให้จำกัดการซื้อในหุ้นขนาดกลางที่มีแนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นขาขึ้น และแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2555 แข็งแกร่ง เมื่อนำ 2 เงื่อนไขดังกล่าวมาเลือกหุ้นที่มี upside น่าสนใจจากราคาเป้าหมายเราเลือกหุ้น SIRI, STEC, HEMRAJ, AMATA และ BGH เป็นหุ้นที่น่าสนใจ

บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ยังมองว่าดัชนีระดับปัจจุบัน “น่าขาย” มากกว่า “น่าซื้อ” – มุมมองใหญ่เรายังยืนยันว่าตลาดหุ้นยังดี และมีโอกาสไปต่อถึงเป้าหมาย 1,300 จุดของปีนี้ แต่ภาพระยะสั้นเรามองว่าการที่ตลาดหมดข่าวบวก จาก 1. ผลการดำเนินงานสหรัฐฯ ดีเกินคาด และ 2. แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนตลาดในช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มลดความสำคัญลง และปัจจัยจากยุโรปจะเข้ามามีบทบาทต่อตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนที่จะเริ่มทยอยประกาศออกมาในช่วงกลางสัปดาห์ต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งเราคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะสเปนจะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งจะทำให้ตลาดกลับมากลัวตลาดอีกครั้งในช่วงนี้

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นบ้านเรากลับมาดีกว่าที่เราคาดจะมาจากเม็ดเงินจากต่างชาติ โดยเฉพาะการปรับพอร์ตในช่วงกลางปี ซึ่งหากมีเม็ดเงินส่วนนี้เข้ามา เรามองว่าตลาดหุ้นจะถูกชดเชยจากข่าวลบในยุโรปได้ โดย MSCI จะมีการประกาศปรับพอร์ตหุ้นอีกครั้งในวันที่ 15 พ.ค. แต่โดยสรุปในช่วงสั้นเรายังมองว่าการขึ้นมาของดัชนี “น่าขาย” มากกว่า “น่าซื้อ”

Create Date : 01 พฤษภาคม 2555		0 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 10:11:11 น.
Counter : 1363 Pageviews.
Share Tweet