Bloggang.com : : ตุ้งแง่ว :

"นักธุรกิจ" โวย "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ทำศก.ฟุบหนัก จี้รัฐแก้ปัญหาทั้งระบบ

"นักธุรกิจ" โวย "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ทำศก.ฟุบหนัก จี้รัฐแก้ปัญหาทั้งระบบ

นักธุรกิจโวย'รบ.ยิ่งลักษณ์'ทำศก.ฟุบ
"นักธุรกิจ" โวย "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ทำศก.ฟุบหนัก จี้รัฐแก้ปัญหาทั้งระบบ เสนอไอเดีย วันเดียวเที่ยว 3 ประเทศ "กรณ์" เผยธุรกิจหนี้นอกระบบอู้ฟู่หลัง "ชาวบ้าน" จมน้ำ จี้ "ก.คลัง"สานต่อ "โครงการธ.ประชาชน -ไปรษณีย์ ช่วยรากหญ้า" เข้าถึงเงินทุน
2ธ.ค.2554 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายชำนิ ศักดิเรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นายชวนนท์ โกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และส.ส.ภาคเหนือ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนักธุรกิจจังหวัดนครสวรรค์จากหลายภาคส่วน โดยมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ และปัญหาของบ้านเมืองในหลากหลายมิติ

นักธุรกิจส่วนใหญ่สะท้อนตรงกันว่า เศรษฐกิจในปัจจุบันซบเซาอย่างมาก เป็นผลจาก 2 ปัจจัย คือ ภาคการเกษตรเพราะพืชผลเสียหายจากอุทกภัยและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวยกเลิกเดินทาง โดยธุรกิจโรงแรมบางแห่งเสียหายเดือนละหนึ่งล้านบาท อีกทั้งเศรษฐกิจจังหวัดขาดการพัฒมนามาระยะหนึ่งแล้ว

“โดยในส่วนการเกษตรก็มีปัญหาความไม่ชัดเจนเรื่องโครงการจำนำข้าว ส่วนเรื่องของท่องเที่ยวนักธุรกิจสุโขทัยอยากเห็นการลงทุนที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจของจังหวัดให้คนมาเที่ยวสุโขทัยมากกว่า 1ครั้ง จึงเสนอว่าควรเชื่อมโยงสุโขทัยกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นเป็นแพ๊คเกจเที่ยววันเดียวสามประเทศ เช่น ลาว พม่า ผ่านจังหวัดสุโขทัย ด้วยการสร้างเส้นทางสุโขทัย อุตรดิตถ์ไปประเทศลาว และจากสุโขทัยไปตากเชื่อมไปพม่า แต่เรื่องนี้ยังต้องพิจารณาเพราะพม่าอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลง” นักธุรกิจ กล่าว

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการแลกเลี่ยนความเห็นกับนักธุรกิจสุโขทัย มีความเป็นห่วงเรื่องปัญหาอุทกภัยว่าควรต้องเร่งแก้ไข เพราะจังหวัดสุโขทัยกลายเป็นแหล่งภัยพิบัติอันดับต้น ๆ โดยปีที่แล้วท่วม 9 รอบ ในอำเภอเมืองเฉลี่ยท่วมครั้งละ 7 วัน และหวังว่าจากปัญหาน้ำท่วมคราวนี้จะทำให้คนกรุงเทพสัมผัสปัญหาด้วยตัวเองอาจทำให้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นมากขึ้น ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมจากต้นทางด้วยการบริหารจัดการลุ่มแม่น้ำยม ซึ่งทำให้สุโขทัยปลอดภัยด้วย และคิดว่าโอกาสที่จะได้รับความสนใจอย่างเป็นรูปธรรมน่าจะมีสูงขึ้น

สิ่งที่นักธุรกิจอยากได้คือมหาวิทยาลัย และทำเมืองสุโขทัยเป็นศูนย์การศึกษา ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตลักษณ์ของเมืองด้วย แต่คงต้องพิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมด้วย ทั้งนี้เห็นว่าการส่งเสริมให้สุโขทัยเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้เป็นเรื่องที่ดี

“จากการไปในหลายพื้นที่นักธุรกิจสะท้อนปัญหาตรงกัน โดยห่วงเรื่องหนี้สินและการปล่อยสินเชื่อนอกระบบที่ระบาดมาก โดยเฉพาะในจังหวัดในสุโขทัย จึงอยากให้กระทรวงการคลังให้ความสำคัญด้วย เพราะจากปัญหาน้ำท่วมทำให้ประชาชนมีการกู้เงินนอกระบบเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสามารถในการพึ่งพาระบบการเงินไม่มี รัฐบาลไม่เคยพูดถึงการแก้หนี้นอกระบบ ขาดโครงการเป็นรูปธรรม รวมทั้งไม่มีแผนพัฒนาการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินของรากหญ้าอย่างชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เคยเริ่มไว้ ในเรื่องธนาคารประชาชนและธนาคารไปรษณีย์ รัฐบาลก็ไม่ให้ความใส่ใจซึ่งจะเป็นปัญหา แม้แต่การพักหนี้สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็ไม่ทำตามที่หาเสียง โครงการที่ออกมาเป็นประโยชน์กับหนี้เสียในธนาคารของรัฐและขีดเส้นผู้ได้รับประโยชน์ต้องเป็นหนี้เกิดก่อน 30 มิ.ย. ไม่ครอบคลุมผู้ประสบภัยที่มีภาระการกู้เงินเพิ่ม” นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนห่วงว่า ประเทศไทยกำลังเสียโอกาส ในการพัฒนาเศรษฐกิจและตกอยู่ในความเสี่ยง ว่าจะย่ำอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนา เนื่องจากรัฐบาลขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แม้แต่การลงทุนในระบบน้ำ ที่จะใช้เงินหลายแสนล้านบาทก็ยังไม่ทราบว่าจะทำอะไรบ้าง ส่วนการพัฒนาสาธารณูปโภคเช่นระบบราง โทรคมนาคมซึ่งต้องใช้เงินมหาศาล การร่วมมือกับจีนที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ริเริ่มไว้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง รัฐบาลก็ไม่เดินต่อ ขณะที่โครงการอื่นก็ยังไม่มีความชัดเจนทำให้ไทยเสียโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนเหล่านี้ และโอกาสประสบความสำเร็จน้อยลง เพราะรัฐบาลไม่มีความชัดเจนว่าจะลงทุนอะไรบ้าง มีวิธีการสร้างความเชื่อมั่นให้แหล่งเงินอย่างไร ทำให้ยากที่จะเห็นความสำเร็จเพราะรัฐบาลยังขาดความเป็นมืออาชีพ

“เหตุผลที่ทำให้คนในรัฐบาลไม่คิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยเป็นเพราะมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคอยค้ำอยู่ จึงไม่มีใครคิดอะไรใหม่ นอกจากรอทำตามคำสั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ผมคิดว่าวันนี้คุณทักษิณคิดแค่ 2 เรื่องคือ แก้ปัญหาให้ตัวเองและการค้าการลงทุน เกี่ยวกับแหล่งน้ำมันในเขมร ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนทุกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องของประเทศ พอคุณทักษิณค้ำอยู่อย่างนี้คนอื่นจึงไม่คิดทำอะไร หากเป็นเช่นนี้ประเทศเราก็เสี่ยง เพราะจะไม่มีความก้าวหน้าทางระบบเศรษฐกิจและยังวนเวียนอยู่กับปัญหาการเมืองรวมถึงความไม่โปร่งใสจากปัญหาผลประโยน์ทับซ้อนด้วย" นายกรณ์ กล่าว

Create Date : 02 ธันวาคม 2554

0 comments

Last Update : 2 ธันวาคม 2554 22:00:27 น.

Counter : 645 Pageviews.