Bloggang.com : : ตุ้งแง่ว : โบรกแนะเก็งกำไร 3 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ ปัญหายุโรปยังไม่ชัดเจน

โบรกแนะเก็งกำไร 3 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ ปัญหายุโรปยังไม่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.39 น. ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31.18 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนลบและแดนบวก ขณะที่วานนี้ยุโรปปรับตัวลงหลังเยอรมนียังคงไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรยูโรโซนร่วมกันเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน และการที่ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของโปรตุเกสสู่ระดับ ‘Junk’ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยยังซึม แกว่งตัวในกรอบ ถือต่อ 3 หุ้น พื้นฐานแกร่ง ได้แก่ BGH, DTAC, CPF (หยุดการซื้อขายชั่วคราว) ส่วนพอร์ตว่างให้ซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวโดยเน้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCC, DCC และกลุ่มธนาคารที่ราคาหุ้นไม่แพงและมีสินเชื่อธุรกิจในสัดส่วนสูงเช่น BBL, KBANK

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังซึมต่อ

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงอยู่ในภาวะซบเซาต่อในแง่วอลุ่มการซื้อขายที่หายไปมากท่ามกลางความกังวลที่มีต่อปัญหาหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจโลก ซึ่งล่าสุดท่าทีของเยอรมนียังคงไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรยูโรโซนร่วมกันเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน และการที่ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของโปรตุเกสสู่ระดับ ‘Junk’ (BB+ จาก BBB-) ยังส่งสัญญาณกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่โดดเด่นมาก แม้คาดในสัปดาห์หน้ากนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม แต่คาดน้ำหนักจากปัจจัยภายนอกยังมีมากกว่า ดังนั้น ในภาพใหญ่ยังอยู่ในกรอบทางลง แต่ระหว่างทางอาจมีผันผวนออกด้านข้างอยู่บ้าง ซึ่งยังเชื่อว่าจะไปไหนไม่ได้ไกล โดยเฉพาะในส่วน upside มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้แถว 970-987 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: เก็งกำไรหุ้นรายตัวโดยการจำกัดพอร์ตไม่เกิน 25% แนวต้าน : 987-990 แนวรับ : 970

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต :BGH, DTAC, CPF

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ช่วงนี้ตลาดบวกขึ้นยังเน้นขายดีกว่า ส่วนซื้อเทรดดิ้งแนะให้รอต่ำกว่า 960..

แนวโน้ม ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถดีดบวกขึ้นตามภูมิภาคได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ SET ปรับตัวลดลงไม่แรงเท่ากับตลาดหุ้นอื่น แต่ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลงเรื่อยๆ ถือเป็นสัญญาณของแรงซื้อที่ยังไม่หนักแน่นนัก ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังมีออกมากดดันอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังขยับขึ้นต่อได้ไม่ไกลนัก และสุดท้ายแล้วยังมีแนวโน้มที่จะถูกแรงขายทำให้แกว่งลงใหม่อีกครั้ง เพราะวิกฤติหนี้ยูโรโซนยังเป็นประเด็นกดดัน โดยล่าสุดนายกฯ เยอรมนียืนยันว่าไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนบทบาทของ ECB เพื่อแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ขณะที่ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่สถานะขยะด้วย ดังนั้นเรายังคาดหมายว่า SET จะแกว่งลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 960 จุดในเร็วๆ นี้

(-) Fitch ลดเครดิตโปรตุเกสลงอีกจาก BBB- เหลือ BB+ (ขยะ) และให้ Outlook ‘Negative’ จากหนี้ที่สูง 110% ของ GDP ขณะที่เรทติ้งของ Moody’s อยู่ที่ Ba2 ต่ำกว่า Ftich 1 ขั้น ส่วน S&P ยังให้ BBB- เหนือระดับขยะเพียง 1 ขั้น การ downgrade ของ Fitch ทำให้ yield ของพันธบัตร 10 ปีของโปรตุเกสพุ่งขึ้นเป็น 12.14%

(-) S&P จ่อลดเครดิตญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีหนี้ต่อ GDP สูงสุดในโลกคือ 244% ปัจจุบันได้เรทติ้ง Aa3 จาก Moody’s ส่วน S&P และ Fitch ให้ AA-, Outlook ‘Negative’ ล่าสุด S&P ส่งสัญญาณลดเครดิตญี่ปุ่นเพราะไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในเรื่องหนี้สาธารณะ

กลยุทธ์: ยังแนะนำให้รอตลาดปรับพักตัวลงก่อนถึงจะมองหาจังหวะเข้าเทรดดิ้ง โดยเฉพาะเมื่อระดับดัชนีต่ำกว่า 960 จุดลงไป ส่วนตลาดดีดขึ้นยังเน้นขายมากกว่า

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งตัวกรอบแคบ โดยวอลุ่มซื้อขายที่บางและการขายของต่างชาติกับสถาบันที่ชะลอ เป็นเครื่องชี้ว่าแรงขายหุ้นไทยมีน้อย แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยในยุโรปยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและจะจำกัดทางขึ้นของตลาด เมื่อคืนนี้นางแองเจลา เมอร์เคล นายกฯ เยอรมันแถลงจุดยืนอีกครั้งหนึ่งในการคัดค้านการออกพันธบัตรของกลุ่มยุโรป (Eurobond) ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว และข่าวนี้ดึงให้หุ้นยุโรปกลับมาปรับลง หลังจากรีบาวด์ในช่วงต้น ตลาดตามดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ (Ifo) ของเยอรมันในเดือน พ.ย. ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดคาดการณ์สำหรับวันนี้เราคาดว่า SET จะซื้อขายในกรอบ 975-985 จุด นอกจากนี้เรายังเห็นการลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศต่างๆ ในยุโรปต่อไป โดยมูดี้ส์ลดอันดับของฮังการีสู่ขยะ และฟิตช์ลดอันดับของโปรตุเกสสู่ขยะเช่นกัน แต่เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ได้สำคัญต่อตลาดมากนัก หลักๆ ยังให้ติดตามผลตอบแทนพันธบัตรและต้นทุนประกันความเสี่ยงประเทศ (CDSS) ของกลุ่มยุโรป ซึ่งโดยภาพรวมแล้วทั้งสองเครื่องชี้ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้

กลยุทธ์: พอร์ตมีหุ้นให้ถือต่อ คงมุมมอง SET ปรับขึ้นสูงเกินเป้าหมายพื้นฐานที่ 1,020 จุด (Overshoot) ได้ในเดือน ธ.ค. ตามแรงซื้อในประเทศและต่างชาติหยุดไปพักร้อน ส่วนพอร์ตว่างให้ซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวโดยเน้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCC*, DCC* และกลุ่มธนาคารที่ราคาหุ้นไม่แพงและมีสินเชื่อธุรกิจในสัดส่วนสูงเช่น BBL*, KBANK* ส่วนกลุ่มอื่นๆ เรามองว่าประเด็นการลงทุนไม่ดีเท่า จึงแนะให้รอไปก่อน

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 12:11:15 น.

0 comments

Counter : 341 Pageviews.