ใกล้จะถึงวันแม่กันอีกแล้ว สำหรับทุกท่านที่กำลังจะเป็นคุณแม่ (รวมถึงท่านที่เตรียมตัวจะเป็นคุณพ่อ) อาจต้องสนใจข่าวนี้กันสักหน่อย เพราะมีการวิจัยพบว่า หากปล่อยให้ว่าที่คุณแม่เกิดความเครียด เศร้า วิตกกังวลบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ในระยะยาว โดยอาจทำให้ทารกน้อยนั้นเติบโตเป็นเด็กที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงได้นั่นเอง ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว ไม่ว่าจะระหว่างสามีภรรยา แม่ผัวลูกสะใภ้ หรือการหย่าร้าง การตกงานอย่างกะทันหัน ฯลฯ เหล่านี้หากเกิดในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ ก็เป็นไปได้ว่า โอกาสที่ทารกน้อยจะคลอดออกมาแล้วมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้นได้ลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะมีงานวิจัยพบว่า เด็กที่คลอดออกมาจากแม่ที่ต้องเผชิญมรสุมรุมเร้านั้นอาจมีปัญหาสุขภาพไปได้จนถึงอายุ 4 ขวบเลยทีเดียว โดยงานวิจัยจาก the Institute of Psychiatry at Kings College London ชิ้นนี้ได้สอบถามจากว่าที่คุณแม่ 150 รายเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ของพวกเธอ เช่น ครอบครัวมีการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือไม่ มีการหย่าร้าง แยกกันอยู่ ตกงาน หรือต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ และก่อนที่พวกเธอจะคลอด 2 - 3 สัปดาห์ก็จะทำการสอบถามอีกครั้ง จากนั้น 4 ปีต่อมา คุณแม่ทั้งหมดจะถูกสอบถามอีกครั้งเกี่ยวกับสุขภาพของลูก เช่น มีอาการป่วย ต้องไปพบแพทย์ หรือนอนโรงพยาบาลหรือไม่ ผลที่ได้จากการวิจัยก็คือ แม่ตั้งครรภ์ที่มีภาวะเครียด หรือได้รับความบอบช้ำทางจิตใจในช่วงตั้งครรภ์นั้นเชื่อมโยงกับการเกิดโรคหืดหอบ หรือการติดเชื้อต่าง ๆ ในเด็ก โดยนักวิจัยชี้ว่า สุขภาพของเด็กทารกในขณะที่อยู่ในครรภ์คือกุญแจสำคัญของประเด็นดังกล่าว ดังนั้น การดูแลแม่ตั้งครรภ์ให้ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก Jasmin Wertz นักวิจัยเจ้าของผลงานกล่าวว่า "เหตุผลที่น่าเชื่อถือได้ก็คือ การเจอเรื่องหนักหนาสาหัสในระหว่างตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนของมารดา และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงมีผลกระทบไปถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย ทำให้เด็กมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายหลังคลอด" Carmine Pariante กุมารแพทย์ ที่ปรึกษาของทีมวิจัยเสริมด้วยว่า "เรามักพูดกันถึงแนวทางการเลี้ยงดูเด็กในช่วง 0 - 2 ปีแรก ว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด แต่จะดีกว่านั้นมากหากว่าเราจะเริ่มนับตั้งแต่ตอนที่อายุครรภ์ 6 เดือน" นอกจากนี้ รายงานวิจัยชิ้นก่อนหน้ายังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเกิดความเครียดในระหว่างตั้งครรภ์กับระดับสติปัญญาของทารกที่อาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ และอาจเกิดปัญหาทางอารมณ์ในเด็กได้ด้วย สำหรับแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังเจอมรสุมดังกล่าว ทีมงาน Life & Family ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และหากทำได้ อย่าไปสู้รบปรบมือให้เรื่องราวบานปลายจะเป็นการดีที่สุด เพราะยิ่งทำก็ยิ่งตอกย้ำให้ตนเองต้องคิดถึงปัญหานั้น ๆ นานมากขึ้น การละทิ้ง ปล่อยวาง ความเศร้า ความทุกข์ไปบ้างน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ความจริงอีกหนึ่งประการก็คือ การตั้งครรภ์ไม่ได้หมายความว่าเราจะคาดหวังต่อสังคมให้ทุกคนดูแลเราอย่างดีได้ ยิ่งในสังคมปัจจุบัน บางครัั้งแค่โดยสารรถไฟฟ้าในเมืองกรุงก็ยังไม่มีคนมีน้ำใจเสียสละที่นั่งกันเลย (ต่างคนต่างหลับ หรือไม่ก็กดมือถือเล่นไม่สนใจใคร) ดังนั้น ยืนหยัดด้วยตัวเอง และมีความสุขที่ได้ยืนบนขาของตัวเองกันดีกว่าค่ะ เรียบเรียงจากเดลิเมล | |