การประคับประคองชีวิตคู่จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ มันไม่ง่ายเลยสักนิด และการแต่งงานมันไม่ใช่จุดจบของชีวิตคู่ แต่มันแค่ "เริ่ม" ต่างหาก
เราลองมาดูกันหน่อยซิว่า พฤติกรรมอะไรที่เป็นสัญญาณว่าแฟนหนุ่มของคุณ เขาจะเซย์เยสชัวร์ๆ ว่า คุณนี่แหล่ะ คือเจ้าสาวตัวจริงเสียงจริง ผู้หญิงคนเนี้ยแหล่ะ แม่ของลูกเค้าในอนาคต!
|
เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา
ไม่ว่าจะเป็นวันเชงเม้ง สงกรานต์ วันเกิดพ่อ-แม่ น้องชาย หลานสาว หรือแม้แต่วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เขาจะต้องชวนคุณมาบ้าน ราวกับว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา มีบทบาทในวันสำคัญต่างๆ ที่ครอบครัวต้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึงชวนกันไปพักผ่อนตากอากาศนอกสถานที่ เช่น ต่างจังหวัด จะต้องมีคุณร่วมทริปตลอดจนเป็นเรื่องธรรมดา
และที่สำคัญ นอกจากเขาจะอยากให้คุณไปบ้านสุงสิงกับครอบครัวเขาแล้ว ตัวเขาเองยังต้องการมาบ้านคุณ เพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวคุณอีกด้วยแน่ะ!
ชวนเปิดบัญชีออมทรัพย์ร่วมกัน
|
นั่นหมายความว่า เขาคิดจะลงหลักปักฐาน สร้างเนื้อสร้างตัว เก็บหอมรอมริบกับคุณอย่างจริงแท้! ไม่ว่าจะให้คุณเก็บตังค์ดาวน์บ้าน-รถ เพื่อร่วมมือร่วมใจกันผ่อน และอีกนัย คือ เก็บเงินแต่งงาน นั่นเป็นสัญญาณของความมั่นคงในการสร้างครอบครัวในอนาคต ในขณะที่ฝ่ายหญิงเราค่อนข้างจะแฮปปี้ เพราะเขามักจะให้ความไว้ใจฝากเงินกับเรา แถมเงินในกระเป๋าตังค์เขาก็เหมือนของเราใช่มะ ^^
เขาตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทิ้งไปเพื่อการออมเงิน จากชวนกันไปกินภัตตาคารหรู ก็ลดดีกรีความไฮโซลงเป็นร้านข้างทาง เป็นต้น
ชวนไปงานแต่งเพื่อนเขา
โดยนิสัยของผู้ชายมักชอบความเป็นส่วนตัว ยิ่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูงผู้ชายด้วยแล้ว ดีกรีความอยากโสดยิ่งพุ่งกระจาย ยิ่งเป็นงานแต่งงานของเพื่อนๆ ในก๊วน วันนั้นเขาจึงพร้อมจะเมารั่วขอเป็นตัวของตัวเองสักวันเหอะ!
ทว่าเมื่อไหร่ก็ตาม เขาเปิดใจชวนคุณไปงานแต่ง อย่ามัวโอ้เอ้ตัดสินนาน ต้องรีบไปโดยพลัน เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ดีในการที่เขาต้องจะเปิดตัวคุณให้เพื่อนของเขารับรู้ว่า นี่คือแฟนกระผม หรือภรรยาในอนาคต ที่พวกเพื่อนเขาจะต้องมางานแต่งงานร่วมใส่ซองในอีกไม่ช้า
และชีวิตของเขาจะไม่มีคำว่าส่วนตัวหรือคนแปลกหน้าอีกต่อไป!
|
เขาไม่หวงความโสดอีกต่อไป
เขาขายจักรยานคันโปรด รถยนต์คลาสสิกที่หวงนักหวงหนา ไม่ไปดูบอล กินเหล้ากับเพื่อนจนกลับบ้านเกือบเช้าอีกวัน เลิกสูบบุหรี่ เปลี่ยนตัวเองเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่ได้มีแต่เขาคนเดียวอีกต่อไป เขาเริ่มใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ที่โตขึ้น ราวกับยอมรับชีวิตแต่งงานกลายๆ
เขาลดการซื้อของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นลง ราวกับตั้งใจประหยัดเพื่อออมเงินไว้ เพื่ออนาคตเผื่อลูกเผื่อเมีย
เกรงใจ-ปรึกษาคุณมากขึ้น
ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นต้องยกหูกริ๊งกร๊างปรึกษาคุณตลอด เขามักคิดเสมอว่าคุณคือส่วนหนึ่ง คือแขนขา ของเขาไปแล้ว และคุณจะได้รับความเกรงใจจากเขามากขึ้นแม้จะสนิทกันมากตามกาลเวลาก็ตาม เขาจะรู้สึกเกรงใจเมื่อกลับบ้านดึก ไปเที่ยวกับเพื่อนยามดึกก็ต้องโทรรายงานคุณเป็นระยะ
บางคนถึงกับแอบสูบบุหรี่-กินเหล้า หรือแม้แต่ต้องแอบโทรหาเพื่อนผู้หญิงที่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลย อันเนื่องมาจากการเกรงใจหรือกลัวคุณอาละวาดเป็นจงอางหวงไข่ซะงั้น!
ค่ะ! ชีวิตคู่มันต้องอดทน ให้อภัย ประคับประคองกันให้ตลอดรอดฝั่ง
มีคนเคยถามตายายคู่นึงว่า ทำยังไงถึงยังรักกันได้มาตั้ง 65 ปี คุณยายยิ้มแล้วตอบไปว่า
"เราเกิดมาในยุคที่เมื่ออะไรพัง เราก็ซ่อม ไม่โยนทิ้ง แล้วซื้อใหม่เหมือนในยุคนี้หรอก"
|
| |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [