|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องของ "น้ำปัสสาวะ"
น้ำปัสสาวะเกิดจากระบบการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายโดยการแยกกาก คืออุจจาระ ออกจากกัน ฉะนั้นน้ำปัสสาวะจึงแตกต่างจากอุจจาระ ที่เป็นของเสีย
สีของน้ำปัสสาวะ
ปัสสาวะปกติควรมีสีอ่อน และใส ถ้าสีเหลือง หรือชาเข้มหมายถึงร่างกายขาดน้ำ หรือดื่มน้ำน้อยเกินไป
ถ้าขุ่นหมายถึงมีสารอาหารปนมากเช่น วิตามิน อันแสดงถึงระบบดูดซึมไม่ดี หรือมีความผิดปกติในระบบปัสสาวะ
ถ้ามีฟองหมายถึงมีโปรตีนปนออกมา
หรือถ้ามีสีเข้มออกชมพู หมายถึงมีเลือดปน เป็นอาการไตไม่ปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว
รสของน้ำปัสสาวะ
รสของปัสสาวะบ่งบอกสภาพความผิดปกติของร่างกายได้ดังนี้
- ถ้าปัสสาวะมีรสเค็ม แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะไตบกพร่อง ไตทำงานหนัก (มักเกิดจากการทานรสเค็มมากเกินไป)
- ถ้าปัสสาวะมีรสขม แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะหัวใจบกพร่อง
- ถ้าปัสสาวะมีรสเปรี้ยว แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะตับบกพร่อง ตับมีภาระหนักในการขับสารพิษออก ถ้าเป็นนานๆติดต่อกันภูมิต้านทานของร่างกายก็จะลด อาจเกิดเริม งูสวัด หรือมะเร็ง
- ถ้าปัสสาวะมีรสหวาน แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะตับอ่อนบกพร่อง น้ำตาลคั่งในร่างกายมากเกินไป เป็นภาระของตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล - ถ้าปัสสาวะมีรสเฝื่อนหรือรสฝาด แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะกล้ามเนื้อบกพร่อง มักจะมีปัญหากล้ามเนื้อล้าอ่อนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ถ้าปัสสาวะมีรสกลมกล่อม แสดงถึงการมีแนวโน้มสัมพันธ์กับภาวะที่อวัยวะทุกส่วนบกพร่องอย่างละน้อย - ปัสสาวะที่ดี จะมีรสธรรมดาเหมือนน้ำเปล่าหรือเหมือนน้ำชา รสชาติจะดี
ประโยชน์ในการดื่มน้ำปัสสาวะ
ในการแพทย์แผนโบราณได้บ่งบอกถึงข้อดีของการดื่มน้ำปัสสาวะ คือ
ในน้ำปัสสาวะมีสารอินเตอร์เฟอรอน (Interferon)* เป็นสารช่วยต้านมะเร็ง และน้ำปัสสาวะเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการจึงขับออก เมื่อดื่มเข้าไปร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทาน โดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวไล่กินปัสสาวะที่เราดื่มเข้าไป ซึ่งกระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งเม็ดเลือดขาวจะทำหน้าที่กินเชื้อโรค กินมะเร็งและกินสิ่งที่แปลกปลอมและสิ่งที่มีพิษในร่างกายอยู่แล้ว ร่างกายจึงมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น เป็นเหมือนกับกรณีที่หมอฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ก็จะใช้วิธีฉีดพิษอ่อนๆของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวมากินเชื้อโรค มาสลายพิษ จึงเกิดภูมิต้านทานขึ้นในร่างกาย
การใช้ปัสสาวะบำบัดอาการต่างๆ
- ใช้หยอดตา ล้างพิษในตา แก้อาการตาแดง แสบตา ใช้สายตามากเกินไป ดูทีวีนาน ใช้คอมพิวเตอร์นาน ทำให้ตาใส ถ้าปัสสาวะเข้มมาก ให้เจือจางด้วยน้ำเปล่าก่อน การหยอดตา ให้ใช้นิ้วจุ่มลงในน้ำปัสสาวะแล้วนำมาแตะที่หัวตา 1-2 หยด ลืมตา น้ำปัสสาวะจะไหลเข้าตา ใน 1-10 วินาทีแรก จะแสบเล็กน้อย หลังจากนั้นจะรู้สึกเย็นสบาย
- ใช้ล้างระบบดูดซึม ล้างน้ำมันพืชที่เกาะที่ลำไส้เล็กได้
- ใช้ล้างแผล ฆ่าเชื้อ เบาเทาอาการปวดแผลได้ดี
- ใช้ดมแก้หวัด แก้ไข้หวัดนกได้ โดยการเก็บน้ำปัสสาวะของตนเองไว้ในขวด เมื่อเป็นไข้หวัดนก ให้นำมาดมจะหายได้ (เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน แล้วแต่จะพิจารณา)
วิธีดื่มน้ำปัสสาวะ
- ปัสสาวะส่วนแรกให้ทิ้งไปก่อน รองเอาส่วนตรงกลาง ส่วนท้ายก็ปล่อยทิ้ง
- ควรดื่มในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปริมาณประมาณครึ่งถึงหนึ่งแก้ว (100 200 ซีซี) หรือดื่มระหว่างวันเมื่อสะดวกก็ได้
- ถ้าปัสสาวะมีรสจัดมาก ควรเจือจางด้วยการผสมน้ำเปล่า หรือดื่มแต่น้อย แล้วดื่มน้ำตามมากๆ
ทุกคนมีของดีอยู่กับตัว คนที่ไม่เคยลอง คงต้องทำใจมากหน่อย
(ยังไม่พบข้อมูลโทษของการดื่มน้ำปัสสาวะ) คัดจากหนังสือ ถอดรหัส สุขภาพ ร้อน-เย็น ไม่สมดุล
ค้นใน Dictionary *Interferon = a protein substance produced by virus-invaded cells that prevents reproduction of the virus
Create Date : 07 มีนาคม 2549 |
Last Update : 7 มีนาคม 2549 22:26:27 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2135 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ปราม IP: 203.130.145.68 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:22:43:43 น. |
|
|
|
โดย: 15-5 IP: 58.8.127.183 วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:18:30:44 น. |
|
|
|
โดย: เด็กอยากลอง ฮิฮิ IP: 58.8.129.178 วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:12:30:11 น. |
|
|
|
โดย: คนอยากรู้ IP: 183.89.173.14 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:17:17:34 น. |
|
|
|
โดย: wan IP: 125.25.228.169 วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:19:23:01 น. |
|
|
|
โดย: โอ๋ IP: 171.99.229.202 วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:20:33:27 น. |
|
|
|
| |
|
|