6 กรกฎาคม 2019 หยิบสมุดบันทึกออกมาอ่าน
๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ // 2019年7月6日 // July 6, 2019 คืนนี้มีฟุตบอลโคปาอเมริกา รอบชิงที่สาม อาร์เจนตินา vs ชิลี เพื่อนเมสก็ต้องเอาที่สามมาครอบครองให้ได้นะคะ สู้ ๆ นะ อืม... ช่วงนี้ ฝนตกตลอดเลย ตกทุกวัน ซักผ้า ตากผ้า ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่มีแดดเลย ความไม่สมดุลของสภาพอากาศ พออากาศร้อน ก็ร้อนมาก ร้อนจัดทุกวัน ร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว พอฝนตก ก็ตกมันทุกวัน ตกมาก ตกปานกลาง แล้วแต่วัน สภาพอากาศประเทศไทย เหมือนสภาพร่างกายของฉันเลย 55555555555555555 เมื่อก่อน 5-6 ปีที่แล้ว ฉันก็กินเก่ง กินเยอะ กินจนอ้วน กินจนแน่น พอตอนนี้ ตอนปัจจุบัน ฉันก็กินน้อย กินแทบไม่ได้ น้ำหนักลดลงไปมาก ความไม่สมดุลของสภาพร่างกายตัวเอง อยากเดินทางสายกลางเหมือนกัน แต่ทำไม่ได้สักที ตอนนี้ความทุกข์ของฉัน หลัก ๆ แล้วมีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือสุขภาพร่างกายของตัวเอง สองคือเรื่องฐานะความเป็นอยู่ ทำยังไง ปัญหานี้ก็ไม่ผ่านพ้นไปสักที อดทน เฝ้ารอเวลา ก็ยังไม่ผ่านไปสักที ยังแก้ไขไม่ได้ ยังคงเป็นปัญหาหลัก ๆ สำหรับฉันอยู่ ถามว่าฉันเครียดมั้ย? มันก็ต้องเครียดอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่บอกไปหลาย ๆ ครั้งว่า ถึงแม้ฉันจะเครียด แต่ฉันก็มีวิธีจัดการกับความเครียดของตัวเองได้ วิธีของแต่ละคน มันก็แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็ยังต้องฝืนอยู่ต่อไปเพื่อหมาแมวของตัวเอง ไร้สาระป่ะ? เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ต่อ 555555555555555 วันนี้ตอนฝนตกหนัก ฉันไม่รู้จะทำอะไร ฉันก็เลยหยิบสมุดบันทึกที่ฉันเขียนเอาไว้มาอ่านดู ฉันเขียนบันทึกมานานแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 จนถึงตอนนี้ก็ปี พ.ศ.2562 นานมั้ย? 16 ปีแล้วเนอะ ที่เขียนบันทึกมา เมื่อก่อน ตอนช่วงวัยรุ่น เขียนเกือบทุกวัน หลัง ๆ ก็ไม่ได้เขียนทุกวัน 2-3 วันเขียนทีนึง แต่พออายุขึ้นเลข 3 มานี้ แทบไม่ค่อยจะได้เขียนเลย เดือนนึงเขียนที สองสามเดือนเขียนที ก็มี วันนี้พอฉันหยิบสมุดออกมาอ่านดู อ่านเฉพาะในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๖ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๒ ตอนปัจจุบันนี้ มันก็เลยทำให้ฉันได้รู้ว่าในช่วงเวลานั้น ๆ มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตฉัน ฉันมีนิสัยยังไง รู้สึกยังไง เป็นยังไง เรื่องที่เคยทำให้รู้สึกเสียใจ ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ในวันนั้น พอมาอ่านวันนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันให้อภัย ฉันอ่านดูแล้ว เหมือนตัวเองเป็นนางเอกละครหลังข่าวสมัยก่อน นิยายน้ำเน่า เหมือนเป็นกาสะลอง 55555555555555555 แต่ฉันให้อภัยนะ ไม่อยากถือโทษโกรธใคร แต่ฉันก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองเคยนิสัยดีขนาดนั้นเชียว ถูกรังแก ถูกกระทำ ก็ได้แต่ไปนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ไม่กล้าที่จะแสดงออก ไม่กล้าที่จะตอบโต้ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่มีอะไรดีสู้พี่สู้น้องได้ แต่มาในวันนี้ ฉันกลับมานั่งอ่านเรื่องราวเก่า ๆ ตอนสมัยวัยรุ่น ในวันที่ฉันอายุ 32 ฉันไม่โกรธแล้ว ฉันไม่เสียใจด้วย ฉันให้อภัย ปล่อยวางทั้งหมด ถึงแม้วันนี้ชีวิตฉันก็ไม่ได้ดีไปกว่าอดีตสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของพี่น้องฉัน มันจะดีไปกว่าฉันซะเมื่อไหร่ 555555555555555555 ฉันคิดแต่ว่า ... "เออ เมื่อก่อน กูจะโทษตัวเองทำไมวะว่ากูเป็นลูกที่ไม่ดีอยู่คนเดียว" มาวันนี้ ตอนนี้ดิ อย่าให้ต้องพูด 555555555555555555 ตอนนี้ไม่เครียดอะไรเรื่องนั้นอีกแล้ว เรื่องที่บอกว่าตัวเองเป็นลูกที่ไม่ดี ถ้าฉันไม่ดี ลูกคนอื่นก็ไม่ดีเช่นกัน นอกจากนี้ ในบันทึกก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีก อย่างเช่นเรื่องความใฝ่ฝัน ความตั้งใจของตัวเอง เคยสัญญา เคยบอกกับตัวเองไว้ว่าต้องทำอย่างนี้ให้ได้ ต้องทำแบบนั้นให้สำเร็จภายในปีนี้ ปีนั้นนะ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ทำไม่ได้ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่สำเร็จ ฉันก็เลยคิดว่า ... ฉันควรที่จะตั้งใจให้มากกว่านี้!! ควรที่จะมีความพยายามให้มากกว่านี้ เริ่มต้นใหม่ตอนนี้ ทำให้สำเร็จให้ได้ในชีวิตนี้ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใครหรือเปรียบเทียบกับใคร ทำเพื่อให้ตัวเองรู้ว่า"ฉันทำได้ ฉันทำได้แล้ว!!" แค่นี้เท่านั้นที่ฉันต้องการ เหมือนแค่รู้สึกว่าอยากให้ตัวเองภูมิใจในตัวเอง ไม่ได้อยากให้ใครมาชื่นชม ไม่ได้อยากอวดใครอีกแล้ว หมดยุคของฉันแล้ว ฉันแก่แล้ว 55555555555555555 แก่เกินกว่าที่จะมาอวดใคร พูดถึงคำว่าแก่ ก็นึกถึงเพลงใหม่ของวงบอดี้แสลมที่พี่โจ้มาร่วมฟิจเจอร์ริ่ง เพลงนี้แต่งให้คนอายุประมาณ 30-50 ฟังโดยเฉพาะ ตอนฉันฟังครั้งแรก ฉันน้ำตาคลอเลยนะ มันแบบว่า... ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี? แบบ... พออายุขึ้นเลขสาม คนส่วนใหญ่ก็มองว่า"แก่" "เริ่มแก่" แก่กับทุกเรื่องเลยนะ แบบว่าเริ่มต้นทำอะไรก็ยากแล้ว บางที พอได้ยินแบบนั้นบ่อย ๆ มันก็ท้อแท้นะ มันก็เครียดเหมือนกัน แต่พอฟังเพลงนี้แล้ว ฉันน้ำตาคลอ ได้กำลังใจเลย ฉันก็คิดตาม"เออว่ะ แก่ที่ไหนวะ? กูยังไหวอยู่" 555555555555 "ถ้า Rock ยัง Never Die คนอย่างกูไม่มีวันแก่ตาย" "ฉันคือเด็กคนเดิมคนนั้น ไม่ยอมหยุด ยังเสาะหา จะลุกขึ้นยืน จะฝันจนวันสุดท้าย" เพลงนี้เหมือนกับว่าเราควรให้โอกาสคนที่อายุเยอะ พวกเขายังทำอะไรได้อีก ยังเริ่มต้นกับความท้าทายใหม่ ๆ ได้อยู่ ไม่ควรบอกว่าโอกาสเป็นเฉพาะของคนที่อายุน้อยเท่านั้น แต่คนที่อายุเยอะแล้วก็ควรได้รับโอกาสเช่นกัน "คำก็แก่ สองคำก็แก่ แก่ตรงไหน เดือดดาลได้แค่ตรงไหน ใครบอกกันมาว่าความพลุ่งพล่านของเราควรหยุดตรงไหน กูแก่ที่ไหน เขาบอกว่าหมดสมัย เรียกลุง เรียกป้า เรียกอา เรียกน้า แคร์ที่ไหนวะ พรุ่งนี้กูจะบิน พรุ่งนี้กูจะกิน พรุ่งนี้กูจะปลิ้น พรุ่งนี้กูจะกลิ้ง แล้วกูจะวิ่งแบบพี่ตูน คอยดูกูนะ Coming soon ไม่หยุด ไม่สุด จนหมดภาระ เดินทางต่อไปไม่สนชัยชนะ ถ้า Rock ยัง Never Die คนอย่างกูไม่มีวันแก่ตาย" แต่กูไม่วิ่งแบบพี่ตูนนะ กูไม่ไหวอ่ะ 5555555555555555555 เออนี่... ฉันลืมบอกไปว่า ฉันก็กำลังติดละครอีกเรื่องนึงนะ นอกจากเรื่องกลิ่นกาสะลองกับผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์ ก็มีอีกเรื่องนึงคือมนตรามหาเสน่ห์ ช่องพีพีทีวี ก็สนุกดีนะ ดูเพลินดี ดำเนินเรื่องไว ตัดต่อไว กระชับ ไม่ยืดเยื้อ ตอนแรกที่ดู ก็ไม่ใช่อะไรหรอก คิดถึงคุณตาสะอาด เลยเข้าไปดู แต่ที่ไหนได้ คุณตาไม่ได้แสดงเต็ม แค่รับเชิญเท่านั้น หลังจากนั้นก็ดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็เพลิน ก็ติดเลย 55555555555555 เห็นคุณตาสะอาด แล้วก็คิดถึง ชอบน้ำเสียง ชอบท่าทางของคุณตา คุณตาเป็นคนเก่ง น่ายกย่อง บุคคลตัวอย่าง เป็นต้นแบบของฉันเสมอ ความเก่ง ความพยายาม ใฝ่เรียนรู้ ขอบคุณนะคะคุณตาสะอาด ไปดีกว่า เขียนเยอะแล้ว วันหลังจะมาเขียนใหม่นะ ก่อนไป "รัก Yamapi นะคะ" แก่ไปด้วยกันเพื่อนรัก
Facebook Twitter