๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ // 2019年1月13日 // January 13, 2019
เมื่อวานว่าจะเข้ามาเขียน แต่ก็ดันอ่อนเพลีย ปวดท้องเมนส์ไปซะก่อน วันนี้ก็ปวดหน่อย ๆ แต่ก็ยังไหว
จะมาเล่าเรื่องหมาแมวที่เลี้ยงเอาไว้
ตลอดทั้งชีวิตของฉันทั้งหมด 31 ปี ฉันเลี้ยงแมวเยอะมาก แต่เลี้ยงหมาเพียงแค่ไม่กี่ตัว
ตอนเด็ก 4-5 ขวบ ฉันไม่ชอบหมาเลย เพราะว่าหมาชอบเห่าฉัน ชอบมารุมตอม รุมดมตัวฉัน ทั้งที่ฉันก็ไม่ใช่เป็นเด็กที่ชอบแกล้งหมานะ ฉันไม่ยุ่งเลย แต่ก็ไม่รู้ทำไม ฝูงหมาถึงมายุ่งกับฉัน ฉันกลัวมาก ตัวฉันในตอนนั้นก็ตัวเท่าหมา หมาบางตัวยังตัวใหญ่กว่าฉันอีก ตอนนั้นฉันก็เลยไม่ชอบหมา กลัวมาก
ส่วนแมว ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ได้ชอบอะไรนะ เฉย ๆ เพราะแมวไม่ค่อยให้จับ ไม่ค่อยให้เข้าใกล้อยู่แล้ว
อีกทั้งพ่อกับแม่บุญธรรมของฉัน ก็ไม่สนับสนุนให้ฉันเลี้ยงสัตว์ใด ๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า"ฉันป่วยเป็นโรคหอบอย่างหนัก" พ่อกับแม่กลัวว่าฉันจะแพ้ขนหมาขนแมว ก็เลยไม่อนุญาตให้เลี้ยง
แต่พอฉันโตขึ้น สมัยเรียนอยู่ชั้นประถม อายุประมาณ 10 ขวบ ฉันก็เริ่มเล่นกับแมวมากขึ้น พอดีว่ามีญาติของฉัน ลูกพี่ลูกน้อง อายุรุ่นเดียวกับฉันนี่แหละ เขาชอบเล่นแมว ชอบเลี้ยงแมว ฉันก็เลยไปเล่นกับแมวของเขาดู ก็กลายเป็นว่าฉันชอบแมวไปเลย แมวน่ารักดี ขี้อ้อน แต่เสียอย่างเดียว มีลูกเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ส่วนหมา ฉันเพิ่งเริ่มเลี้ยงตอนสมัยวัยรุ่นตอนปลาย อายุประมาณ 17-18 แม่กับพี่สาวฉันเป็นคนนำหมามาเลี้ยงที่บ้าน ฉันก็เลยเริ่มเลี้ยงหมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่ว่าฉันเลี้ยงหมาไม่เยอะ ที่ผ่านมาก็เลี้ยงไม่ถึง 10 ตัวด้วยซ้ำ ส่วนแมว เลี้ยงเยอะมากจนนับไม่ถ้วนเลย เมื่อก่อน ฉันยอมรับว่าฉันนิสัยไม่ดี เพราะฉันเลี้ยงด้วยระบบเปิด คือปล่อยเป็นอิสระ ไม่ได้ดูแลอะไรมาก แค่ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ได้พาไปทำหมันด้วย แม่แมวก็เลยคลอดลูกออกมาบานเลย หลายครอกมาก โปรดให้อภัยฉันด้วยนะที่ฉันสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม ในเวลานั้น ฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น อายุแค่ 12-15 เอง ยกโทษให้กับสติปัญญาและความรับผิดชอบของฉันที่มีแค่นั้นด้วยนะ
พออายุ 16-17 ฉันก็ตัดสินใจเลี้ยงน้อยลง เลี้ยงแค่ไม่กี่ตัว และเลี้ยงด้วยระบบกึ่งเปิดกึ่งปิด คือตอนกลางวัน ปล่อยเป็นอิสระ ตอนกลางคืนให้นอนในบ้าน สุดท้ายก็ไม่เหลือแมวสักตัว แมวตัวโปรดของฉัน แมวที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิตชื่อ"วันใส"ก็หายตัวไป ตอนนั้น ฉันยังบ้าวีดีโอเกมส์อยู่เลย ฉันยังจำวันสุดท้ายที่ฉันได้พูดคุยกับวันใสได้ ตอนช่วงหัวค่ำ วันใสมาอ้อนฉัน ขอร้องให้ฉันหาข้าวให้กิน แต่ฉันก็บ้าเล่นเกมส์กับน้องสาว ตอนดึก พอฉันรู้ตัว ก็สายไปเสียแล้ว ฉันออกตามหาวันใส แต่ก็ไม่เจอ ฉันออกตามหาเป็นเดือน ๆ ร้องไห้นอนไม่หลับเกือบทุกคืน แต่ก็ไม่เจอ กว่าฉันจะทำใจได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เวลาสั้น ๆ ฉันก็เลยเลิกบ้าเกมส์ไปเลยตอนนั้น แล้วฉันก็บอกกับตัวเองว่า"นับจากนี้ไป ฉันจะไม่เลี้ยงแมวตัวไหนอีกแล้ว"
ฉันรักวันใสมาก เพราะวันใสคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันในเวลานั้น มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แม่กับพี่สาวฉัน นำหมามาเลี้ยง ฉันก็เลยกลายเป็นเลี้ยงหมาแทน
แต่ว่าหมาที่นำมาเลี้ยงนั้น ไม่ใช่หมาตัวเล็ก ๆ น่ารักอะไร เป็นหมาตัวใหญ่ ๆ เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน หมาวัด แม่เก็บมาจากวัด เป็นหมาเพศเมีย ส่วนหมาของพี่สาว เป็นหมาเพศผู้ จากนั้นอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ มันก็ท้อง มันก็ออกลูกมา แม่ฉันก็เลี้ยงไม่ไหว ก็เอาไปให้คนอื่นเลี้ยง เก็บไว้แค่ตัวเดียวคือ"ไจแอนท์"(ลูกชายสุดที่รักของฉันในปัจจุบัน ) ส่วนแม่ของมัน แม่ของไจแอนท์ แม่ฉันก็พาไปทำหมันทันที มันคลอดลูกมาประมาณ 2-3 ครอกแล้วเห็นจะได้
จากนั้น แม่ก็พาแมวลูกครึ่งเปอร์เซียมาเลี้ยงอีกหนึ่งตัว เพศเมีย มีคนเขาให้แม่มา แม่ก็เลยเลี้ยง ฉันก็ไปช่วยเลี้ยงด้วย ตามประสาคนบ้าแมว 55555555555555555555 ชื่อ"พลอย"แต่ฉันชอบเรียกมันว่า"เหมียว" ตอนแรก มันกลัวคนมาก ๆ มันกลัวทุกคนเลย มันมุดใต้ตู้ ใต้โต๊ะไม่ออกมากินอะไร เพราะมันมาอยู่ที่นี่ก็โตแล้วนะ 7-8 เดือนน่าจะได้ แต่วันนั้น ฉันกินข้าวโพดอบเนยอยู่ จู่ ๆ เหมียวมันก็ออกมาจากใต้ตู้ แล้วมาขอฉันกินข้าวโพด นับแต่นั้น ฉันกับเหมียวก็สนิทกัน เหมียวก็รักฉันตลอดมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงตอนนี้ กี่ปีแล้วล่ะ? 13-14 ปีแล้วนะ
จนเวลาผ่านมาจนถึงปี พ.ศ.2553 ฉันก็บังเอิญไปเก็บลูกแมวจากข้างถนนมาเลี้ยงอีกหนึ่งตัว ฉันสงสารมัน ได้ยินเสียงมันมาร้องอยู่แถวบ้าน บ้านฉันอยู่ติดถนน ฉันก็เลยไปช่วยมัน มันเป็นลูกแมว อายุแค่ 3-4 เดือนเอง ชื่อว่า"เพชร"แต่ฉันชอบเรียกมันว่า"นุ้ง"(ลูกสาวฉันเอง ) จากนั้น ฉันก็ตั้งมั่นไว้เลยว่าฉันจะไม่เลี้ยงแมวเพิ่มอีกแล้ว หัวเด็ดตีนขาดยังไง จะไม่เลี้ยงเพิ่ม!!
แต่ในที่สุด ปี พ.ศ.2559 ช่วงที่ฉันกำลังดูฟุตบอลยูโรอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงลูกแมว คราวนี้ไม่ใช่แค่ตัวเดียวแล้ว หลายตัวเลย นั่นก็คือแม่แมวพาลูกแมว 4 ตัวมาอยู่ที่บ้าน ฉันสงสารก็เลยรับเลี้ยงไว้ แต่ก็เลี้ยงแบบปล่อย ไม่กล้าเอาขึ้นบ้าน กลัวโดนแม่ด่า บ้านแม่ ไม่ใช่บ้านฉัน แล้วก็ไม่ได้พาแม่แมวไปทำหมัน จนกระทั่งแม่แมวคลอดลูกออกมาเพิ่มอีก 2 ครอก ตอนนี้ ก็กลายเป็นว่าฉันรับเลี้ยงทั้งแม่และลูก ๆ ของมันไว้ทั้งหมด และทำหมันทั้งแม่ ทั้งลูก ครบทุกตัวแล้ว
และตอนนี้ นับจากนี้ ฉันให้สัญญาจากใจจริงแล้วว่า "หมาแมวกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ฉันจะเลี้ยง" หมดพวกนี้ ฉันก็พอแล้ว คือพวกนี้จากฉันไปด้วยอายุขัย ฉันก็จะไม่เลี้ยงหมาแมวเพิ่มแล้ว เพราะฉันเหนื่อยแล้ว แก่แล้วด้วย ปีนี้ก็จะ 32 แล้ว กว่าพวกมันจะแก่ตาย ก็ใช้เวลาประมาณ 15 ปี ถึงเวลานั้น ฉันก็เกือบจะ 50 แล้วนะ ฉันว่าฉันควรพอได้แล้วล่ะ 55555555555555555555555 เหนื่อย ที่เหนื่อยก็เพราะฉันเลี้ยงแบบระบบปิด เดินเล่นแค่ในรั้วบริเวณบ้านเท่านั้น ไม่ให้ออกไปข้างนอก ดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพราะว่าฉันเกรงใจคนอื่น ๆ ด้วย แล้วก็เป็นห่วงหมาแมวของตัวเองด้วย กลัวโดนคนอื่นทำร้าย
หมาแมวมันรู้นะว่าใครดีกับมัน คนไหนเป็นมิตรและไม่ทำร้ายมัน เชื่อมั้ย เวลาฉันเดินไปไหนมาไหน หมาแมวจรข้างถนนหรือหมาแมวที่มีเจ้าของ มันไม่เคยหนีฉันเลย ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้เล่นอะไรกับมันนะ ไม่ได้ให้ข้าวอะไรมันกินด้วย แต่พวกมันก็ไม่กลัวฉัน หมาก็ไม่เห่าฉัน แมวก็ไม่วิ่งหนีฉัน สงสัยว่าชาติที่แล้วฉันคงเป็นราชินีของหมาแมวมั้ง 55555555555555
เวลาที่ฉันอ่านข่าวหมาแมวโดนทำร้าย ฉันก็รู้สึกแย่ทุกครั้งเลย สงสารพวกมัน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ต้องโทษคนที่เลี้ยงพวกมันแบบนี้ เลี้ยงแบบทิ้งขว้าง ไม่เอาใจใส่ หมาแมวพวกนั้นถึงต้องโดนคนเลว ๆ ทำร้าย
รู้มั้ย ฉันไม่ชอบที่จะเห็นหมาจรแมวจรเลย ฉันสงสารพวกมัน ฉันอยากให้คนที่คิดจะเลี้ยงหมาแมว มีความรับผิดชอบให้มาก ๆ เอาใจใส่ดูแล อย่าปล่อยให้มันต้องกลายเป็นหมาจรแมวจรเลย
อืม... วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน พรุ่งนี้จะมาเขียนใหม่นะ ปวดท้องเมนส์ ขอตัวไปนอนพักแป๊บ
Facebook Twitter |